HANA ร่วงต่อ 3% โบรกเตือนกำไร Q4 อ่อนแรง เลื่อนรับรู้รายได้ AI ไตรมาส 2/69

HANA ลบต่อกว่า 3% หลังโบรกมองว่าผลงานจะยังไม่ฟื้นตัวไปอีกอย่างน้อย 2 ไตรมาส เนื่องจากการเลื่อนรับรู้รายได้จากโปรเจ็กต์ AI ไปในช่วงไตรมาส 2/69


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (21 พ.ย.68) ราคาหุ้นของ บริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส จำกัด (มหาชน) หรือ HANA ณ เวลา 10:12 น. อยู่ที่ระดับ 17 บาท ลบ 0.60 บาท หรือ 3.41% สูงสุดที่ระดับ 17.20 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 16.90 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 67.57 ล้านบาท

บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด เปิดเผยบทวิเคราะห์ประเมินแนวโน้มการฟื้นตัวของ HANA ว่ายังคงเป็นไปอย่างล่าช้า และอาจไม่สดใสอย่างน้อยอีกสองไตรมาสข้างหน้า โดยเฉพาะรายได้จากโครงการใหม่ด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งถูกเลื่อนการรับรู้ไปเป็นไตรมาสสองปี 2569 จากเดิมที่คาดในช่วงปลายปี 2568 ส่งผลให้ภาพรวมคำสั่งซื้อในช่วงไตรมาสสี่ปี 2568 ถึงไตรมาสหนึ่งปี 2569 ยังคงอ่อนแรงต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ธุรกิจผลิตภัณฑ์พาวเวอร์เมเนจเมนต์ซิสเต็ม (PMS) เผชิญการแข่งขันด้านราคาในจีนอย่างรุนแรง ขณะที่บริษัทต้องพึ่งพันธมิตรในจีนและมุ่งขยายฐานลูกค้าไปยังเกาหลีใต้และอินเดีย พร้อมทั้งพัฒนาสินค้าใหม่อย่าง Gen3 SiC Mosfet และ Gen5 Trench ชนิดยานยนต์ ซึ่งผู้บริหารระบุว่ายังมีผู้พัฒนาน้อยทำให้การแข่งขันต่ำ แต่คาดว่าจะพัฒนาเสร็จในไตรมาสสองปี 2569 ส่งผลให้ธุรกิจ PMS มีแนวโน้มขาดทุนต่อเนื่องจนถึงกลางปีดังกล่าว พร้อมมีความเสี่ยงที่สายการผลิตซิลิคอนคาร์ไบด์อาจถูกตั้งสำรอง หากการฟื้นตัวไม่เป็นไปตามคาด

ด้านธุรกิจประกอบและทดสอบชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ (OSAT) โรงงานอยุธยามีอัตราการใช้กำลังการผลิตต่ำสุดที่ร้อยละ 40 และยังขาดทุน โดยคาดว่าจะฟื้นตัวได้ในช่วงครึ่งแรกของปี 2569 ขณะที่โรงงาน OSAT ในจีนมีการปรับลดจำนวนพนักงานลงร้อยละ 12 ทำให้เริ่มใกล้จุดคุ้มทุน และอาจกลับมากำไรได้ในไตรมาสหนึ่งปี 2569

ขณะเดียวกัน รายได้จากโครงการใหม่ด้านระบบระบายความร้อนโซลิดสเตต ซึ่งเกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ ถูกเลื่อนการรับรู้ไปเป็นไตรมาสสองปี 2569 ตามกำหนดการใหม่ของลูกค้า โดยผู้บริหารคาดว่าจะสามารถขยายโครงการได้ในช่วงครึ่งหลังของปีเดียวกัน ส่วนธุรกิจอาร์เอฟไอดีในสหรัฐอเมริกาถูกกดดันจากการแข่งขันที่รุนแรงจนขาดทุนในไตรมาสสามปี 2568 และผลิตภัณฑ์ยางติดแท็กในยุโรปยังชะลอตัว โดยบริษัทคาดว่าทั้งสองกลุ่มธุรกิจจะเริ่มฟื้นตัวได้ราวกลางปี 2569

อย่างไรก็ตาม HANA ยังต้องเผชิญความท้าทายอย่างต่อเนื่องในระยะสั้น และต้องติดตามว่าการฟื้นตัวในไตรมาสสองปี 2569 จะเป็นไปตามที่ผู้บริหารคาดการณ์หรือไม่ หากล่าช้ากว่านั้น บริษัทอาจเผชิญความเสี่ยงจากการตั้งสำรองสายการผลิตเพิ่มเติม โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์ซิลิคอนคาร์ไบด์ในเกาหลีใต้

Back to top button