BH วิ่งต่อ 2% ส่งซิกรายได้ Q4 ฟื้น รับผู้ป่วยไทย-ต่างชาติพุ่ง

BH บวกต่อ 2% แย้มผลงานไตรมาส 4 รายได้ฟื้นรับผู้ป่วยไทย-ต่างชาติเพิ่มขึ้น หนุนรายได้ปีนี้โต 2 หลัก ล่าสุดศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์ รพ.บำรุงราษฎร์ ยกระดับสู่ “Longevity Hub” รับเมกะเทรนด์โลก ลั่น 50 ปี ความสัมพันธ์ไทย-จีน เป็นโอกาสสร้างการเติบโตตลาด Wellness ไทย ที่มีมูลค่ารวมมากกว่า 1.4 ล้านล้านบาท  


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (9 ธ.ค.68) ราคาหุ้น บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BH ณ เวลา 16:07 น. อยู่ที่ระดับ 163 บาท บวก 3 บาท หรือ 1.88% สูงสุดที่ระดับ 165 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 159 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 560.92 ล้านบาท

นางสาวนภัส เปาโรหิตย์  รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการตลาด ของ BH เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 4/2568 รายได้จากการให้บริการทางการแพทย์จะกลับมาฟื้นตัวได้ดีจากผู้ป่วยนอก (OPD) และผู้ป่วยใน (IPD) ที่เพิ่มขึ้น แม้ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา รายได้จากการให้บริการทางการแพทย์ชะลอตัวอยู่ที่ระดับ 18,617 ล้านบาท หรือลดลงประมาณ 2.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากถึงช่วงที่ต้องกลับมารักษาของผู้ป่วยชาวไทย และโดยเฉพาะผู้ป่วยต่างชาติที่จะมีวันนอนพักรักษาเฉลี่ยนานขึ้น ดังนั้นมั่นใจว่าภาพรวมทั้งปี 2568 รายได้จากการให้บริการทางการแพทย์จะกลับเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก จากปี 2567 ที่มีรายได้จากการให้บริการทางการแพทย์รวมประมาณ 26,000 ล้านบาท

ขณะที่ปัจจุบันประเทศไทยกำลังเป็นที่จับตามองในฐานะศูนย์กลางของกลุ่มชาวจีนที่มีกำลังซื้อสูง (High Net Worth Individuals-HNWI) ซึ่งไม่ได้มองหาเพียงโอกาสทางธุรกิจหรือการพักผ่อน แต่ชาวจีนกลุ่มนี้ ได้มองหาคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านสุขภาพ จึงเป็นโอกาสมหาศาลสำหรับอุตสาหกรรม Medical & Wellness ของไทย เนื่องจาก ธุรกิจ Wellness ในประเทศไทยเป็นอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพสูงและเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์สำคัญที่รัฐบาลพยายามผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์และสุขภาพ (Medical and Wellness Hub) ของโลก

ทั้งนี้ หากโฟกัสตลาด Wellness Economy ในประเทศไทย มีมูลค่ารวมกันกว่า 1.4 ล้านล้านบาท และมีแนวโน้มขยายตัวในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง โดยช่วงปี 2563-2566 มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ราว 8.62% และคาดการณ์ว่าตลาดนี้จะเติบโตเฉลี่ย 7-10% ต่อปี ได้รับแรงหนุนจากกระแสความใส่ใจในสุขภาพที่เพิ่มขึ้นหลังวิกฤตโควิด-19 และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) ที่ประเทศไทยติดอันดับต้น ๆ ของโลกในการเติบโตของตลาดนี้ มีการประมาณการว่าปี 2568 ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพสร้างรายได้รวม 670,000 ล้านบาท

ผศ.นพ. พลกฤต ทีฆคีรีกุล Chief Executive Officer ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์และเอสเพอรานซ์ และ Chief Science Officer ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์และโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน (พ.ศ. 2518-2568) ซึ่งเป็นปีที่มีความหมายสำคัญต่อความร่วมมือระหว่างสองประเทศในทุกมิติ รวมถึงด้านสุขภาพและการแพทย์ และด้วยศักยภาพของไทยในตลาด Wellness and Longevity ที่การดูแลสุขภาพเชิงป้องกันและ Longevity ที่ได้กลายเป็นเมกะเทรนด์โลก ในฐานะที่ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เป็นศูนย์ส่งเสริมสุขภาพชั้นนำในภูมิภาคที่ได้รับการรับรอง GHA ระดับมาตรฐานสากล จึงได้ยกระดับการบริการ สู่การเป็น Longevity Hub เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มนักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย โดยเฉพาะชาวจีนที่มีกำลังซื้อสูง (HNWI) ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในไทย

ทั้งนี้ ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์ในแต่ละปีจะมีรายได้เติบโตเฉลี่ย 2 หลักต่อปี และมีฐานผู้ป่วยที่เข้ามาใช้บริการเฉลี่ยอยู่ที่ 100,000 รายต่อปี มีอายุเฉลี่ย 30 ปี และ 50 ปีขึ้นไป  แบ่งเป็น ผู้ป่วยไทย 40% และผู้ป่วยต่างชาติ 60% สอดคล้องกับฐานผู้ป่วยที่เข้ามารักษาที่ BH ซึ่งผู้ป่วยต่างชาติ แบ่งเป็น คูเวต สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซาอุดีอาระเบีย โอมาน เป็นหลัก ตามมาด้วยกลุ่มประเทศ CLMV ได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม รวมถึงบังกลาเทศ สหรัฐอเมริกา ยุโรป ฝรั่งเศส เยอรมนี และจีน

Back to top button