
สรุปปัจจัยสำคัญตลาดทุน-การเงิน-เศรษฐกิจวันนี้
สรุปปัจจัยสำคัญตลาดทุน-การเงิน-เศรษฐกิจประจำวันที่ 22 มี.ค.59
– เงินเยนอยู่ที่ระดับ 111.69 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 112.10 เยน/ดอลลาร์
– เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1205 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1235 ดอลลาร์/ยูโร
– ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,397.20 จุด เพิ่มขึ้น 3.57 จุด หรือ 0.26% มูลค่าการซื้อขาย 62,756.51 ล้านบาท
– สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 599.22 ล้านบาท (SET+MAI)
– คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ระยะที่ 3 (2559–2563) ตามที่กระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทยได้ร่วมกันนำเสนอ เพื่อกำหนดและทิศทางการพัฒนาระบบสถาบันการเงินสำหรับเตรียมความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงในอนาคต โดยวิสัยทัศน์ของแผนพัฒนาฯ ระยะที่ 3 คือ ระบบสถาบันการเงินไทยแข่งขันได้ สามารถตอบสนองความต้องการที่หลากหลายขึ้นด้วยราคาที่เป็นธรรม และสนับสนุนการเชื่อมโยงการค้าการลงทุนในภูมิภาค ภายใต้การกำกับดูแลเพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการเงิน หรือตามแนวคิด “แข่งได้ เข้าถึง เชื่อมโยง ยั่งยืน”
– นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ.ธนาคารแห่งประเทศไทย โดยได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมให้ ธปท.สามารถทำธุรกรรมได้เพิ่มขึ้นในการเข้าไปลงทุนในสินทรัพย์นอกประเทศ ทั้งนี้เพื่อเพิ่มช่องทางในการลงทุน และเป็นการกระจายความเสี่ยงจากการลงทุน
– นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบโครงการบ้านประชารัฐตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เพื่อเป็นการสร้างโอกาสผู้ให้ประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย รวมทั้งข้าราชการพลเรือน ทหาร ตำรวจ บุคลากรทางการศึกษา ตลอดจนผู้มีรายได้ไม่แน่นอน ที่ไม่เคยมีกรรมสิทธิในที่อยู่อาศัยมาก่อนให้สามารถมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองในราคาที่ไม่สูง
– เกิดเหตุระเบิดขึ้น 2 ครั้งที่สนามบินซาเวนเทในกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก
– สถาบันสินเชื่อเพื่อธุรกิจหลักทรัพย์ของจีน (CSF) ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐบาลที่ให้บริการสินเชื่อสำหรับนักลงทุนที่ต้องการซื้อหุ้นด้วยมาร์จิ้น ได้ประกาศให้เงินกู้ยืมด้วยมาร์จิ้นโดยมีวันครบกำหนดชำระแตกต่างกัน 5 ประเภทแก่บริษัทหลักทรัพย์ ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าการดำเนินการดังกล่าวจะช่วยเสริมสภาพคล่องในตลาดพร้อมเสริมสร้างความเชื่อมั่นของนักลงทุน
– นายฮิโรชิ นาคาโสะ รองผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยในระหว่างกล่าวสุนทรพจน์ที่กรุงสต็อกโฮล์มของสวีเดนวานนี้ว่า นโยบายดอกเบี้ยติดลบของ BOJ ไม่ส่งผลให้ภาคการเงินเสี่ยงเข้าสู่ภาวะร้อนแรงเกินไป แม้ว่าการซื้อขายในตลาดอสังหาริมทรัพย์จะเพิ่มสูงขึ้น
– มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ระบุว่า เศรษฐกิจในกลุ่มประเทศอาเซียนมีแนวโน้มที่จะขยายตัวอย่างไม่สอดคล้องกันในปี 2559 และปี 2560 อันเนื่องมาจากอุปสงค์ทั่วโลกที่ซบเซาลง เนื่องจากแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศรายใหญ่ในกลุ่มอาเซียนที่ต้องพึ่งพาการส่งออก ได้แก่ ไทย สิงคโปร์ ยังคงอ่อนแอกว่าอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นประเทศที่ขับเคลื่อนด้วยอุปสงค์ภายในประเทศ
ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์