แรงขายกลุ่มพลังงาน ฉุดตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ

ตลาดหุ้นยุโรปปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (23 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่ หลังจากราคาน้ำมันร่วงลง ขณะที่หุ้นกลุ่มสายการบินและกลุ่มธุรกิจโรงแรมยังคงอ่อนแรงลง นับตั้งแต่เกิดเหตุก่อการร้ายในเบลเยียมเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนี Stoxx Europe 600 ขยับลง 0.1% ปิด (23 มี.ค.) ที่ 340.07 จุด, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,423.98 จุด ลดลง 7.99 จุด หรือ -0.18%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,022.93 จุด เพิ่มขึ้น 32.93 จุด หรือ +0.33% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,199.11 จุด เพิ่มขึ้น 6.37 จุด หรือ +0.10%

หุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลง หลังจากราคาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาดลอนดอนร่วงลงกว่า 3% อันเนื่องมาจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 6

ทั้งนี้ หุ้นโททาล ร่วงลงกว่า 2% หุ้นเอเอ็มอีซี ฟอสเตอร์ วีลเลอร์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการบ่อน้ำมัน ร่วงลง 7.7% หุ้นทีจีเอส โนเปก จีโอฟิสิคอล ดิ่งลง 5% ส่วนหุ้นในกลุ่มเหมืองแร่นั้น หุ้นเกลนคอร์ ร่วงลง 4% หุ้นแองโกล อเมริกัน ปรับตัวลง 5.4%

หุ้นกลุ่มสายการบิน กลุ่มธุรกิจโรงแรม และกลุ่มบริการด้านการท่องเที่ยว ต่างก็ปรับตัวลงหลังจากเกิดเหตุก่อการร้ายในเบลเยียม โดยหุ้นดอยช์ ลุฟฮันซา ปรับตัวลง 1.3% หุ้นไรอันแอร์ ดิ่งลง 2.6% หุ้นแอร์ฟรานซ์-เคแอลเอ็ม ปรับลง 0.7% ส่วนหุ้นโทมัส คุ๊ก ร่วงลง 2.9% และหุ้น Accor SA ซึ่งเป็นผู้ประกอบการโรงแรมของฝรั่งเศส ดิ่งลง 2.9%

นักลงทุนติดตามดูสถานการณ์ในเบลเยียมอย่างใกล้ชิด โดยรายงานล่าสุดระบุว่า สนามบินบรัสเซลส์ในเบลเยียมประกาศปิดให้บริการจนถึงวันนี้ หลังเกิดเหตุการณ์โจมตีสนามบินและสถานีรถไฟใต้ดินเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 30 คนและบาดเจ็บอีกจำนวนมาก โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่า ผลของการปิดสนามบินจะทำให้มีการยกเลิกเที่ยวบินวันละราว 600 เที่ยว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารรวมราว 180,000 คน

Back to top button