
กกพ.คาดค่าเอฟทีงวด พ.ค.-ส.ค.ลดลงตามต้นทุนเชื้อเพลิง-บาทแข็ง
กกพ.คาดค่าเอฟทีงวด พ.ค.-ส.ค.ลดลงตามต้นทุนเชื้อเพลิง-บาทแข็ง
นายวีระพล จิรประดิษฐกุล กรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผยว่า ค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (เอฟที) งวดใหม่เดือน พ.ค.-ส.ค.คาดจะปรับตัวลง หลังจากราคาก๊าซธรรมชาติซึ่งเป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้าปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมัน รวมถึงค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นจากคาดการณ์เดิม ตลอดจนมีการปรับลดพยากรณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้าในปีนี้ตามการปรับลดอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) รวมถึงการผลิตไฟฟ้าจากกลุ่มพลังงานทดแทนจ่ายไฟฟ้าล่าช้ากว่ากำหนด ขณะที่การประกาศอัตราค่าเอฟทีงวดใหม่จะมีขึ้นในวันที่ 20 เม.ย.นี้
อนึ่ง ค่าเอฟทีงวดเดือน ม.ค.-เม.ย.59 อยู่ที่ระดับ -4.80 สตางค์/หน่วย เมื่อรวมกับค่าไฟฟ้าฐานที่ปัจจุบันจัดเก็บในอัตรา 3.7556 บาท/หน่วย จะส่งผลให้ค่าไฟฟ้าทุกประเภทในงวดปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 3.7076 บาท/หน่วย
นายวีระพล กล่าวว่า การพิจารณาค่าเอฟทีในงวดใหม่นี้อาจจะไม่ได้ลดเต็มที่มากนัก เพราะอาจต้องเกลี่ยอัตราการปรับลดออกไปในงวดอื่นด้วย เนื่องจากเมื่อประเมินในระยะข้างหน้าจะมีกลุ่มผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนจำนวนมากทยอยเข้าระบบ โดยเฉพาะกลุ่มโซลาร์ฟาร์มค้างท่ออีก 400 เมกะวัตต์จะทยอยเข้าระบบในช่วงนี้จนถึงเดือน มิ.ย.59 หากกลุ่มนี้สามารถจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบได้ภายในเม.ย. ก็จะได้รับอัตราค่าไฟฟ้า FiT ในอัตราเดิมที่ 5.66 บาท/หน่วย แต่หากจ่ายไฟฟ้าได้ภายใน 30 มิ.ย.จะได้รับค่าไฟฟ้าลดลง 5%
ขณะเดียวกันยังมีกลุ่มผู้ผลิตไฟฟ้าเชื้อเพลิงชีวมวลที่ปัจจุบันจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบแล้วแต่ได้รับค่าไฟฟ้าที่มีส่วนเพิ่มค่าไฟฟ้า (Adder) จะมาเปลี่ยนมาเป็นระบบ FiT คาดว่ามีจำนวน 119 โครงการ ซึ่งในกลุ่มนี้คาดว่าจะมีการเซ็นสัญญาเปลี่ยนการรับซื้อได้ในช่วงเดือน ส.ค.-ต.ค.นี้ แต่ก็จะมีผลย้อนหลังตั้งแต่ช่วงเดือนมี.ค.นี้ ซึ่งในส่วนนี้ก็จะทำให้ค่าเอฟทีเพิ่มขึ้นราว 2 สตางค์/หน่วย