
“สมคิด”รับห่วงสถานการณ์ส่งออกของไทย มองเป็นปัจจัยที่ต้องเฝ้าระวัง
"สมคิด"รับห่วงสถานการณ์ส่งออกของไทย มองเป็นปัจจัยที่ต้องเฝ้าระวัง
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ยอมรับเป็นห่วงสถานการณ์ส่งออกของไทย ซึ่งเป็นปัจจัยที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด แต่ไม่อยากให้คิดว่าตัวเลขส่งออกปีนี้จะโตได้ 5% หรือกี่เปอร์เซนต์ หรือจะโตติดลบ เพราะส่วนหนึ่งที่ต้องยอมรับคือ ขณะนี้เศรษฐกิจโลกยังทรุดอยู่ แต่เราสามารถประคองตัวไม่ให้ทรุดตามไปจะมีประโยชน์มากกว่า
อย่างไรก็ตาม ไม่อยากให้มองโลกในแง่ร้ายเกินไป อยากให้มองในแง่บวกบ้าง ตอนนี้เพิ่งจะเดือนพ.ค. ยังมีเวลาอีก อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องคิดในส่วนนี้ให้มากขึ้น
นายสมคิด กล่าวว่า ในการประชุมผู้บริหารกระทรวงการคลังวันนี้ได้กำชับทุกหน่วยงานให้เร่งดำเนินงานบนความไม่ประมาทเพื่อให้ภาพรวมเศรษฐกิจโตได้ตามเป้าหมาย โดยกำชับการจัดเก็บรายได้ต้องเป็นไปตามเป้าหมาย รวมถึงรัฐวิสาหกิจต้องมีการลงทุนให้ได้ตามเป้าหมายด้วยเช่นเดียวกัน
ส่วนรายได้จากการประมูล 4G รวมถึงรายได้นอกงบประมาณอื่นๆที่จะเข้ามา อยากให้มีการใช้จ่ายที่เป็นประโยชน์กับประเทศต้องไปดูว่าจะเอาไปทำอะไรได้บ้าง แต่หลักๆ ต้องการให้เป็นการต่อยอดอนาตของประเทศที่เน้นเรื่องดิจิตอลมากกว่า
ขณะที่ได้มอบหมายธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เร่งพิจารณาแนวทางการให้ความช่วยเหลือดอกเบี้ยต่ำสำหรับเกษตรกรหลังเริ่มเข้าสู่ฤดูฝนที่มีความจำเป็นต้องใช้เงินทุนในการเพาะปลูกนอกจากนี้ ยืนยันว่ารัฐบาลไม่มีนโยบายปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และไม่เคยหารือกัน
ขณะที่นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ยืนยันว่า GDP ทั้งปีจะโต 3.3% จากแนวโน้มเศรษฐกิจไทยโดยรวมดีขึ้น บการริโภคภายในประเทศฟื้นตัว สะท้อนจากการจัดเก็บ VAT เดือน พ.ค.ช่วง 10 วันที่ผ่านมาโต 40% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากมาตรการจัดทำบัญชีเดียว