ยูโรแข็งค่าหลังกรีซบรรลุข้อตกลงเจ้าหนี้

สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (25 พ.ค.) หลังจากมีรายงานว่ารัฐมนตรีคลังของยูโรโซนและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้อนุมัติเงินกู้งวดใหม่ให้แก่กรีซ


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่าค่าเงินยูโร (25 พ.ค.) แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1163 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1148 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นแตะระดับ 1.4715 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4635 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียเพิ่มขึ้นแตะระดับ 0.7201 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7176 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบเยนที่ระดับ 110.14 เยน จากระดับ 110.00 เยน และลดลงเมื่อเทียบฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9905 ฟรังก์ จากระดับ 0.9928 ฟรังก์ ในขณะที่ขยับลงเมื่อเทียบดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.3042 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3146 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากรัฐมนตรีคลังของยูโรโซนและ IMF ได้อนุมัติเงินกู้งวดใหม่ให้แก่กรีซ ในการประชุมซึ่งมีขึ้นที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยม โดยเงินกู้งวดใหม่มีมูลค่า 1.03 หมื่นล้านยูโร หรือ 1.14 หมื่นล้านดอลลาร์ และจะจัดสรรให้กับกรีซล็อตแรก 7.5 พันล้านยูโร ในช่วงต้นเดือนมิ.ย.นี้

การอนุมัติความช่วยเหลือดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่รัฐสภากรีซได้ผ่านมาตรการรัดเข็มขัดรอบใหม่ ซึ่งรวมถึงการขึ้นภาษี และการตั้งกองทุนแปรรูปเป็นภาคเอกชน เพื่อให้สอดคล้องกับข้อเรียกร้องของฝ่ายเจ้าหนี้ ทั้งนี้ กรีซกำลังต้องการเงินกู้งวดใหม่เพื่อนำไปชำระหนี้จำนวนหลายพันล้านยูโรต่อธนาคารกลางยุโรป และกองทุนการเงินระหว่างประเทศในเดือนมิ.ย. และก.ค.

นักวิเคราะห์กล่าวว่า การผ่อนคลายหนี้สินให้แก่กรีซถือเป็นปัจจัยหนุนต่อเงินยูโร ซึ่งส่งผลให้ค่าเงินยูโรปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบ 0.2% เมื่อเทียบกับดอลลาร์เมื่อคืนนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนเม.ย. และยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนเม.ย.

Back to top button