หุ้นยุโรปปิดลบ กลุ่มแบงก์ร่วงนำจากความวิตก Brexit

ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (6 ก.ค.) โดยตลาดปิดลบติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มธนาคาร อันเป็นผลมาจากความวิตกกังวลที่ว่า การที่อังกฤษลงมติถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) จะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อภาคธนาคารในยุโรป โดยเฉพาะภาคธนาคารของอิตาลี


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1.7% ปิด (6 ก.ค.) ที่ 318.76 จุด, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,085.30 จุด ลดลง 78.12 จุด หรือ -1.88%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,373.26 จุด ลดลง 159.35 จุด หรือ -1.67% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,463.59 จุด ลดลง 81.78 จุด หรือ -1.25%

ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงเนื่องจากแรงขายหุ้นกลุ่มธนาคาร โดยหุ้นเครดิต สวิส ร่วงลง 1.7% ปิดที่ระดับต่ำกว่า 10 ฟรังก์สวิส (10.23 ดอลลาร์สหรัฐ) เป็นครั้งแรก ขณะที่หุ้นดอยช์แบงก์ ดิ่งลง 5.6% หุ้นคอมเมิร์ซแบงก์ ปรับลง 3.6% ส่วนหุ้นยูบีเอส กรุ๊ป และหุ้นลอยด์ แบงกิ้ง ปรับตัวลงเช่นกัน นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มประกันยังร่วงลงเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบ Brexit โดยหุ้นอวีว่า และหุ้นพรูเดนเชีย ต่างก็ร่วงลงกว่า 4.3%

ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาคธนาคารอิตาลีที่กำลังเผชิญกับความกดดันหลังจากอังกฤษลงมติถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป โดยธนาคารกลางอิตาลีเปิดเผยว่า ภาคธนาคารของอิตาลีกำลังได้รับผลกระทบจากสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) หรือหนี้เสีย ซึ่งมีมูลค่าสูงถึงราว 3.60 แสนล้านยูโร หนี้เสียดังกล่าวคิดเป็น 18.1% ของเงินกู้ทั้งหมดที่ปล่อยให้กับผู้บริโภค และประมาณ 2.10 แสนล้านยูโรในจำนวนดังกล่าวนั้นเป็นเงินกู้ที่ปล่อยโดยธนาคารที่ใกล้ล้มละลาย

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศยุโรปที่มีการเปิดเผยล่าสุดนั้น กระทรวงเศรษฐกิจเยอรมนีเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของเยอรมนีในเดือนพ.ค.ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนก่อนหน้า สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับตัวขึ้น 1% นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนมิ.ย.ของสหรัฐ ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ โดยข้อมูลดังกล่าวจะบ่งชี้แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในปีนี้ ก่อนที่เฟดจะประชุมกำหนดนโยบายการเงินในวันที่ 26-27 ก.ค.

Back to top button