หุ้นดีดูอย่างไร?

อาจารย์ขอเรียนตามตรงว่า หุ้นดีตามนิยมของแต่ละคนอาจไม่เหมือนกันกัน แต่สำหรับคนที่เป็นนักวิเคราะห์มักให้นิยามของหุ้นพื้นฐานดีเป็นลักษณะรายได้เติบโต ทำกำไรสม่ำเสมอ หรือแม้กระทั่งสามารถจ่ายเงินปันผลได้เป็นประจำทุกปี ก็อยู่ในข่ายที่นักวิเคราะห์พูดถึงเช่นกันครับ


สภาแมงเม่า : ดร.สมชาย

 

คุณสมพล จาก อ.เมือง จ.นครปฐม พูดถึงสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในช่วงที่ผ่านมาเต็มไปด้วยความผันผวน จนนักวิเคราะห์หลายรายพูดไปในทางเดียวกันว่า ควรเลือกลงทุนในหุ้นรายตัวเป็นหลัก และควรเข้าซื้อเฉพาะในหุ้นพื้นฐานดี ซึ่งตัวผมค่อนข้างสับสนว่า หุ้นดีที่พูดถึงกันทุกวัน เป็นหุ้นที่มีลักษณะแบบไหนกันแน่ หรือมีข้อมูลอะไรที่ตัวผมสามารถศึกษาได้ด้วยตนเอง ก็รบกวนอาจารย์ช่วยชี้แนะด้วยครับ

 

อาจารย์ขอเรียนตามตรงว่า หุ้นดีตามนิยมของแต่ละคนอาจไม่เหมือนกันกัน แต่สำหรับคนที่เป็นนักวิเคราะห์มักให้นิยามของหุ้นพื้นฐานดีเป็นลักษณะรายได้เติบโต ทำกำไรสม่ำเสมอ หรือแม้กระทั่งสามารถจ่ายเงินปันผลได้เป็นประจำทุกปี ก็อยู่ในข่ายที่นักวิเคราะห์พูดถึงเช่นกันครับ

ต่อจากนั้นมักมีคำถามตามหลังมาว่า หุ้นตัวนี้ซื้อ แล้วถือยาวได้หรือไม่ ซึ่งเป็นคำถามยอดฮิตของนักลงทุนทั่วไป และทุกวันนี้ก็ยังเจอคำถามแบบนี้อยู่บ่อยๆ อาจารย์จึงขอยกตัวอย่างให้ดูคร่าวๆ ก็แล้วกัน

หุ้นก็เปรียบเสมือนเป็นตัวแทนของบริษัทมหาชน ซึ่งมีการนำเงินของนักลงทุนไปลงทุนทำธุรกิจ และในส่วนนี้ก็สามารถแยกแยะบริษัทที่ดีได้ด้วยลักษณะทาง “ปริมาณ” และ “คุณภาพ”

ที่น่าสนใจก็คือต้องไม่ลืมว่า บางบริษัทที่ดี ราคาอาจไม่น่าสนใจ ก็จะทำให้หุ้นตัวนั้นยังไม่ใช่บริษัทที่ดี บริษัทที่ดี และราคาที่ดี จึงหมายถึงหุ้นที่มีคุณสมบัติครบถ้วน แต่ในปัจจุบันหาหุ้นดังกล่าวได้ยากมากๆ เพราะผลประกอบการของบริษัทเพิ่งฟื้นตัว และราคาหุ้นก็ปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างเยอะนะครับ

ฉะนั้นสิ่งที่นักลงทุนสามารถทำได้ในตอนนี้คือ เฟ้นหาบริษัทที่สามารถทำกำไรได้คงเส้นคงวาเป็นหลัก และดูราคาหุ้นยังอยู่ในระดับที่น่าสนใจ เพื่อตัวนักลงทุนจะได้มีเวลาเฝ้าติดตามจนราคาเริ่มน่าสนใจ ก็จะเข้าข่ายเรื่องหุ้นดีที่เรากำลังสนทนาอยู่ในเวลานี้แหล่ะครับ

หลักการ หุ้นดี = บริษัทดี + ราคาดี ก็จะใช้ได้เสมอ!

การเล่นหุ้นดีก็จะทำให้คนซื้อนอนหลับอย่างสบายใจ ส่วนคนที่ซื้อหุ้นประเภทเก็งกำไรสุดตัว มักจะต้องนั่งลุ้นนอนลุ้นเป็นประจำ ซึ่งขึ้นอยู่กับตัวนักลงทุนมีสไตล์การลงทุนแบบไหน

ที่สำคัญคือ หากนักลงทุนสามารถทำการแยกแยะบริษัทที่ดีออกจากบริษัทธรรมดาได้ ถือว่าการลงทุนมีความสำเร็จเกินครึ่งทางแล้วนะครับ

บางทีแค่แยกบริษัทที่ดี แล้วซื้อราคาปกติไม่ต้องถูกมากนัก ก็ประสบความสำเร็จได้แล้ว

วันนี้ถึงขึ้นอยู่กับว่า นักลงทุนมองบริษัทดี ราคาหุ้นดี รูปแบบการลงทุนที่ดี เป็นแบบไหนต่างหาก

X
Back to top button