PJW สดใส

สถานการณ์ของผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 59 ของ PJW กำไรมีโอกาสเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องจากไตรมาส 1-2 และพลิกมีกำไรอย่างแข็งแกร่ง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน หลังจากบริษัทไม่มีภาวะค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานปรับปรุงในส่วนโรงงานพ่นสีใหม่เข้ามากดดันผลประกอบการ


—คุณค่าบริษัท—

                                                             

สถานการณ์ของผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 59 ของ บริษัท ปัญจวัฒนาพลาสติก จำกัด (มหาชน) หรือ PJW กำไรมีโอกาสเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องจากไตรมาส 1-2 และพลิกมีกำไรอย่างแข็งแกร่ง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน หลังจากบริษัทไม่มีภาวะค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานปรับปรุงในส่วนโรงงานพ่นสีใหม่เข้ามากดดันผลประกอบการ

อีกทั้งผู้บริหารมองภาพรวมผลดำเนินงานปี 2559 จะมีรายได้เติบโตที่ระดับ 8-10% จากปี 2558 ที่มีรายได้อยู่ที่ 2,726 ล้านบาท เนื่องจากยอดขายในกลุ่มบรรจุภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่น  ภาชนะบรรจุภัณฑ์สินค้านมและนมเปรี้ยว และกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทตั้งเป้าจะมียอดขายรวมทั้งปีเพิ่มขึ้น 5-8% จากช่วงปีก่อน ประกอบกับการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ จะส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับเพิ่มขึ้น 2-3% จากปี 2558 ที่ผ่านมาที่ทำได้ 14.36%

สำหรับในส่วนธุรกิจโรงพ่นสี ในนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง จ.ชลบุรี บริษัทมั่นใจว่าจะมีผลขาดทุนลดลงต่อเนื่อง จากการควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายของเสียได้ดีขึ้น โดยคาดว่าในปี 2559 จะมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 100 ล้านบาท และจะถึงจุดคุ้มทุนของธุรกิจ (Break Even Point) ภายในช่วงปีหน้า ซึ่งโรงพ่นสีดังกล่าวมีกำลังการผลิตเต็มที่ (Full Capacity) คิดเป็นยอดขาย 500-600 ล้านบาท

ทั้งนี้ ในช่วงผลการดำเนินงานไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2559 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 678.90 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 666.67 ล้านบาท เป็นผลจากรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 29.31 ล้านบาท หรือ 0.05 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 5.28 ล้านบาท หรือ 0.01 บาทต่อหุ้น

ขณะที่ผลการดำเนินงานงวดหกเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2559 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 1,431.55 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 1,319.98 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 90.37 ล้านบาท หรือ 0.16 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 31.44 ล้านบาท หรือ 0.05 บาทต่อหุ้น เนื่องจากบริษัทมีโครงสร้างรายได้ แบ่งออกเป็น 1.รายได้จากการขายภาชนะบรรจุภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่น จำนวน 53.04% 2.รายได้จากการขายชิ้นส่วนยานยนต์ จำนวน 25.39% 3.รายได้จากการขายภาชนะบรรจุภัณฑ์นมและนมเปรี้ยว จำนวน 13.58% 4.รายได้จากการภาชนะบรรจุภัณฑ์สินค้าอุปโภคบริโภคและน้ำยาเคมี จำนวน 7.51% และ 5.รายได้อื่นๆ จำนวน 3.21%

สิ่งสำคัญ เมื่อดูค่า P/E พบว่า อยู่ที่ 10.07 เท่า ถือว่ายังถูกมาก  นอกจากนี้เมื่อวิเคราะห์ความน่าจะเป็นที่หุ้นจะปรับตัวขึ้นต่อไปเรื่อยๆ โดยนำมูลค่าทางบัญชีของหุ้นที่ระดับ 1.81 บาท  มาคำนวณค่า P/BV ที่ระดับ 2 เท่า จะได้ราคาเหมาะสมที่  3.62 บาท ขณะที่ราคาหุ้นบนกระดานอยู่ที่ระดับ 2.84 บาท ถือว่าราคาหุ้นยังมีแก๊ปให้เล่นอยู่

 

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

1. นางมาลี เหมมณฑารพ 114,797,874 หุ้น 20.00%

2. นายวิวรรธน์ เหมมณฑารพ 75,225,360 หุ้น 13.10%

3. นายคงศักดิ์ เหมมณฑารพ 74,927,692 หุ้น 13.05%

4. นายสาธิต เหมมณฑารพ 42,661,428 หุ้น 7.43%

5. นายพิรุฬห์ เหมมณฑารพ 35,688,640 หุ้น 6.22%   

 

รายชื่อกรรมการ

1.นาย ดำริ สุโขธนัง ประธานกรรมการ

2.นาย ดำริ สุโขธนัง กรรมการอิสระ

3.นาย วิวรรธน์ เหมมณฑารพ ประธานกรรมการบริหาร

4.นาย วิวรรธน์ เหมมณฑารพ กรรมการ

5.นาย สาธิต เหมมณฑารพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

 

Back to top button