BAFS พื้นฐานแข็ง

BAFS รายงานตัวเลขปริมาณการขายน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานของเดือนตุลาคมยังเติบโตต่อเนื่องอยู่ที่ระดับ 465 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 5% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เติบโตสอดคล้องกับจำนวนเที่ยวบินที่มาในไทย ผลักดันให้ยอดขายผ่านมา 10 เดือนแรก บริษัทขายน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานไปแล้วกว่า 4,668 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 7.5% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เติบโตได้อย่างแข็งแกร่งต่อเนื่อง


–คุณค่าบริษัท–

 

บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS รายงานตัวเลขปริมาณการขายน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานของเดือนตุลาคมยังเติบโตต่อเนื่องอยู่ที่ระดับ 465 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 5% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เติบโตสอดคล้องกับจำนวนเที่ยวบินที่มาในไทย ผลักดันให้ยอดขายผ่านมา 10 เดือนแรก บริษัทขายน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานไปแล้วกว่า 4,668 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 7.5% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เติบโตได้อย่างแข็งแกร่งต่อเนื่อง

ทั้งนี้มองแนวโน้มปริมาณขายของ BAFS จะสามารถเติบโตได้ต่อเนื่องตลอดทั้งปีจากภาพการท่องเที่ยวที่ยังอยู่ในระดับที่ดี การเปิดเส้นทางการบินที่เพิ่มมากขึ้นของสายการบินระหว่างประเทศ โดยมองว่ามาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวทั้งการงดเว้นหรือลดค่าธรรมเนียม VISA และการขยายเวลาพำนักสำหรับ long stay VISA จะช่วยดึงดูดให้ชาวต่างชาติมาเที่ยวในไทยมากขึ้นระหว่างเดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์ปีหน้า ซึ่งจะเพิ่มปริมาณขายให้ดีกว่าที่คาดได้

ตามผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2559 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 894.89 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 815.82 ล้านบาท เป็นผลจากรายได้ค่าบริการเพิ่มขึ้น และรายได้อื่นๆ โดยกลุ่มบริษัทมีรายได้ดอกเบี้ยรับจากเงินลงทุนเพิ่มขึ้นและรายได้ดอกเบี้ยที่เกิดจากค่าชดเชยท่อส่งน้ำมันชำรุดของบริษัทย่อย

ขณะที่ผลการดำเนินงานงวดเก้าเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2559 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 2,768.29 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 2,473.05 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 879.09 ล้านบาท หรือ 1.38 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 789.86 ล้านบาท หรือ 1.24 บาทต่อหุ้น ซึ่งยังพิสูจน์ ว่าว่าบริษัทยังเติบโตได้โดดเด่นต่อเนื่อง โดยเหตุผลหลักมาจากยอดการขายน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานที่ยังสามารถขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง

นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ บล.เคทีบี มอง BAFS มีความน่าสนใจจากแนวโน้มกำไรที่คาดจะดีขึ้นต่อเนื่องตามอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทย (ช่วยพัฒนาอัตรากำไรขั้นต้นเนื่องจากรายได้สามารถเติบโตได้ตามปริมาณขายขณะที่ต้นทุนค่อนข้างคงที่) ธุรกิจเองก็ค่อนข้างกึ่งผูกขาด บริษัทเป็นผู้ได้รับสัมปทานในการให้บริการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานในสนามบินหลักอย่างสุวรรณภูมิ (ส่วนแบ่งตลาด 87% และสนามบินดอนเมือง (ส่วนแบ่งตลาด 100%)

อีกทั้งโครงสร้างพื้นฐานหลักที่ใช้สนับสนุนบริการเติมน้ำมันในสนามบินก็เป็นทรัพย์สินของบริษัท (คลังเก็บน้ำมัน) ขณะเดียวกัน BAFS ยังมีการลงทุนในบริษัทขนส่งน้ำมันทางท่อ (FPT) ซึ่งเป็นธุรกิจที่สามารถสร้างกระเงินสดได้ดีอย่างต่อเนื่องท่ามกลางแนวโน้มความต้องการใช้ที่เพิ่มสูงขึ้นในอนาคต (เนื่องจากสามารถขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงได้ในระดับต้นทุนที่ต่ำกว่า)

แนะนำ “ซื้อ” โดยปรับราคาเหมาะสมเป็น 43 บาท (ประเมินใช้วิธี DCF อิง WACC 8.6%, Terminal Growth 2%) โดยมองว่าแม้แนวโน้มกำไรช่วงที่เหลือของปีอาจจะอ่อนตัวลงตามผลของฤดูกาล แต่มองพื้นฐานเองจะสามารถเติบโตจากปีก่อนได้อย่างต่อเนื่องตามปริมาณการขายน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน ขณะเดียวกันเรายังคาดบริษัทจะได้ sentiment เชิงบวกจากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวช่วงปลายปี – ต้นปีหน้าอีกด้วย ราคาเหมาะสมคิดเป็น forward P/E เพียง 23.7 เท่า

 

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

1. บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) 143,983,125 หุ้น 22.59%

2. บริษัท เอสโซ่ ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) 45,000,000 หุ้น 7.06%

3. บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) 45,000,000 หุ้น 7.06%

4. บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด 45,000,000 หุ้น 7.06%

5. บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) 31,500,000 หุ้น 4.94%

 

รายชื่อกรรมการ

1.นาย พลากร สุวรรณรัฐ ประธานกรรมการบริษัท

2.นาย พลากร สุวรรณรัฐ กรรมการอิสระ

3.ม.ร.ว. ศุภดิศ ดิศกุล ประธานกรรมการบริหาร

4.ม.ร.ว. ศุภดิศ ดิศกุล กรรมการ

5.นาย ประกอบเกียรติ นินนาท กรรมการผู้จัดการ

Back to top button