BAY กำไรแจ่ม ลุยโตต่อเนื่อง

ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปและภาคต่างประเทศเปราะบางในปี 2559 ก่อน แต่ BAY ยังก้าวหน้าในการดำเนินงานตามแผนธุรกิจระยะกลางที่ตั้งเป้าไว้ จนสามารถทำให้ผลการดำเนินงานออกมาอย่างแข็งแกร่ง สินเชื่อเติบโตอย่างมีคุณภาพ


–คุณค่าบริษัท–

 

ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปและภาคต่างประเทศเปราะบางในปี 2559 ก่อน แต่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY ยังก้าวหน้าในการดำเนินงานตามแผนธุรกิจระยะกลางที่ตั้งเป้าไว้ จนสามารถทำให้ผลการดำเนินงานออกมาอย่างแข็งแกร่ง สินเชื่อเติบโตอย่างมีคุณภาพ

ทำให้ผลการดำเนินงาน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2559 เติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 110,066.21 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 104,616.90 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 21,404.03 ล้านบาท หรือ 2.91 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 18,634.19 ล้านบาท หรือ 2.54 บาทต่อหุ้น โดยปัจจัยขับเคลื่อนผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิจากการเติบโตของเงินให้สินเชื่อ ต้นทุนการเงินที่ปรับดีขึ้น จากการบริหารต้นทุนของธนาคาร ขณะเดียวกันรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจากความสามารถในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลาย

นอกจากนี้ BAY สามารถขยายสินเชื่ออย่างแข็งแกร่งที่ 11.2% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเติบโตสูงสุดในกลุ่มธนาคาร การขยายตัวดังกล่าวกระจายไปในสินเชื่อหลายกลุ่มตั้งแต่สินเชื่อรายย่อยเช่น สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อส่วนบุคคล จนถึงสินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดใหญ่ และสินเชื่อเอสเอ็มอี  

อีกทั้ง จากอัตราการขยายตัวของสินเชื่อรวมทั้งหมด ประมาณ 1% เป็นสินเชื่อจากการเข้าซื้อกิจการ Hattha Kaksekar Limited BAY มองว่าสินเชื่อมีแนวโน้มเติบโตต่อในปี 2560 หนุนโดยเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัวจากการลงทุนของรัฐ รวมทั้งการบริโภคภาคเอกชนและยอดส่งออกที่ดีขึ้น โดยที่ธนาคารตั้งเป้าสินเชื่อปี 60 จะขยายตัวในอัตรา 6-8% ทำให้นักเคราะห์ประมาณการสินเชื่อของธนาคารจะเพิ่มขึ้น 10% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และประมาณการกำไรสุทธิปี 60 จะเพิ่มขึ้น 15.4% อยู่ที่ 2.47 หมื่นล้านบาท

ประกอบกับ บล. เอเชีย เวลท์ คงคำแนะนำ “ซื้อ” และให้ราคาเป้าหมายใหม่ปี 2560 ที่ 46.00 บาท คำนวณจาก prospective PBV ที่ 1.5 เท่า และ ROE ประมาณการที่ 11% หากไม่นับประเด็นปริมาณการถือครองหุ้นของผู้ถือหุ้นรายย่อยที่ต่ำ

เนื่องจากค่อนข้างประทับใจกับการที่ BAY สามารถขยายสินเชื่ออย่างแข็งแกร่งได้ถึงแม้เศรษฐกิจจะชะลอตัวจนปีที่ผ่านมา ยิ่งไปกว่านั้น คุณภาพสินทรัพย์ที่แข็งแกร่งโดยมี coverage ratio สูงที่ระดับ 143.3% ซึ่งสูงกว่าธนาคารขนาดใหญ่ยกเว้น BBL ทำให้ BAY มีความได้เปรียบเหนือคู่แข่งเป็นอย่างมาก

 

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

1. THE BANK OF TOKYO-MITSUBISHI UFJ, LTD. BAY ACCOUNT 5,655,332,146 หุ้น 76.88%

2. บริษัท สตรองโฮลด์ แอสเซ็ทส์ จำกัด 166,536,980 หุ้น 2.26%

3. บริษัท ทุนมหาโชค จำกัด 166,478,940 หุ้น 2.26%

4. บริษัท จี แอล แอสเซทส์ จำกัด 166,414,640 หุ้น 2.26%

5. บริษัท บีบีทีวี แซทเทลวิชั่น จำกัด 166,151,114 หุ้น 2.26%

 

รายชื่อกรรมการ

1.นาย วีระพันธุ์ ทีปสุวรรณ ประธานกรรมการ

2.นาย ทาคาโยชิ ฟุตาเอะ รองประธานกรรมการ

3.นาย โนริอากิ โกโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

4.นาย โนริอากิ โกโตะ กรรมการ

5.น.ส. นพพร ติรวัฒนกุล กรรมการ

Back to top button