TWPC เป้าหมายที่เป็นมรดกเก่า

เมื่อวานนี้ นาย โฮ เรน ฮวา ซีอีโอใหญ่ปัจจุบันของ บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) (TWPC) ผู้ผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์จากมันสำปะหลังรายใหญ่ และครองส่วนแบ่งตลาดวุ้นเส้นอันดับหนึ่งในประเทศไทย ออกมาทำการเปิดตัวแถลงข่าวใหญ่เป็นครั้งแรกของปีนี้


 

แฉทุกวันทันเกมหุ้น

 

เมื่อวานนี้ นาย โฮ เรน ฮวา ซีอีโอใหญ่ปัจจุบันของ บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) (TWPC) ผู้ผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์จากมันสำปะหลังรายใหญ่ และครองส่วนแบ่งตลาดวุ้นเส้นอันดับหนึ่งในประเทศไทย ออกมาทำการเปิดตัวแถลงข่าวใหญ่เป็นครั้งแรกของปีนี้

แล้วก็อาจจะถือเป็นครั้งแรก หลังจากประสบความสำเร็จในการนำ TWPC เข้ามาเทรดใหม่ในตลาดหุ้น นับแต่วันที่ 5 ตุลาคม 2558 เป็นต้นมา

TWPC หุ้นบริษัทใหม่ที่เกิดจากการควบรวมระหว่าง บริษัท ไทยวาฟูดโปรดักส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TWFP และ บริษัท ไทยวาสตาร์ช จำกัด (มหาชน) หรือ TWS เพื่อกลับเข้าเทรดใน SET ในกลุ่มอุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร โดยมีหุ้นสามัญจำนวน 880,420,930 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท รวม 880,420,930 บาท

ในปี 2559 TWPC ถือเป็นธุรกิจที่ประสบความสำเร็จหลังกลับเข้ามาเทรดใหม่ที่สวยงาม มีอัตราเติบโตของรายได้และกำไรสุทธิน่าสนใจ

ผลประกอบการประจำปี 2559 ของ TWPC สามารถทำสถิติใหม่สูงสุดนับตั้งแต่มีการจัดตั้งบริษัทฯ โดยมีกำไรสุทธิ 669 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54% จากปีก่อน และรายได้จากการขาย 6,163 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากปีก่อน อีกทั้งฐานะการเงินของบริษัทฯ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2559 มีเงินสดและเงินลงทุน รวมจำนวน 1,757 ล้านบาท และมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน หรือ ดี/อี  เท่ากับ 0.03 เท่า ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับต่ำมาก

ปี 2560 นี้ นายโฮ เรน ฮวา จึงประกาศแผน “ตีเหล็กยามร้อน” เพิ่มเติมว่า  วางเป้าหมายสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจในภูมิภาคโดยเฉพาะกลุ่ม CLMV ได้แก่ กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม ที่มีแนวโน้มเศรษฐกิจเติบโตสูงอย่างต่อเนื่องและยังมีทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ สามารถตอบโจทย์ความต้องการวัตถุดิบของบริษัทฯ ดี

ต้นปีนี้ TWPC  จัดตั้ง “บริษัท ทีดับบลิวพีซี อินเวสท์เมนท์ (กัมพูชา) จำกัด” (TWPC Investment (Cambodia) Company Limited) เพื่อทำการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แป้งมันสำปะหลัง อีกทั้งได้รับใบอนุญาตจดทะเบียนจัดตั้ง “บริษัท ไทยวาเวียดนาม จำกัด” (Thai Wah Vietnam Company Limited) เพื่อสร้างโรงงานวุ้นเส้นแห่งแรกในโฮจิมินห์ซิตี้ รวมทั้งมีแผนเตรียมไว้สำหรับธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับอาหารในอนาคต

ขณะเดียวกัน TWPC ยังมองหาช่องทางการขยายการลงทุนไปในประเทศเมียนมาและ สปป.ลาวอีกด้วย พร้อมทั้งกระจายการลงทุน โดยตั้งเป้าหมายจัดสรรงบลงทุนไว้ประมาณ 1,000-2,000 ล้านบาท เพื่อรองรับเป้าหมายในระยะยาวต่อไป

ความน่าสนใจของ TWPC นั้น ว่าไปแล้ว น่าสนใจดี ตไม่เท่ากับบทบาทของนายโฮ เรน ฮวา เองว่า ในฐานะคนรุ่นที่ 3 ของตระกูลธุรกิจ “โฮ” ที่ยิ่งใหญ่ของสิงคโปร์ ที่ฝังรากลึกในธุรกิจแป้งมันสำปะหลังและอาหารในไทยมายาวนานหลายทศวรรษ จะบรรลุเป้าหมายที่เหนือกว่าคนรุ่นแรก และรุ่นที่สองอย่างไร

กลุ่มไทยวานั้น มีรากเหง้าจากการบุกเบิกของนาย โฮ ยิดวา  คนจีนเกิดในสิงคโปร์ ที่บุกเบิกดัดแปลงธุรกิจค้าแร่วูลแฟรมเดิมป้อนกองทัพสหรัฐฯในพม่าและไทย ของพ่อตาตนเอง กลุ่มวา-ชัง อินเตอร์เนชั่นแนล ในสิงคโปร์ มาเป็นธุรกิจการค้า ผลิต และส่งออกแป้งมันสำปะหลัง เพื่อการอุตสาหกรรมและอาหาร รวมทั้งการผลิตและแปรรูปมันอัดเม็ดไปยังยุโรป

กล่าวกันเป็นตำนานว่า ภรรยาของนาย โฮ ยิดวา นั้น เป็นคนแรกในโลกที่ได้รับสิทธิบัตรผลิตวุ้นเส้น (ในรูปแบบที่คนไทยในปัจจุบันคุ้นเคย) จากสหรัฐฯเลยทีเดียว

ความสำเร็จของคนรุ่นแรก ถูกส่งต่อมายังคนรุ่นที่สองของตระกูล โฮ นำโดยนายโฮ กวน ปิง  ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้บริหารสูงสุดของกลุ่มวา-ชัง อินเตอร์เนชั่นแนล ในสิงคโปร์ และมีธุรกิจข้ามชาติหลายสาขา โดยเฉพาะที่โด่งดังสุดคือเครือโรงแรม Banyan Tree ที่ใหญ่โตในอาเซียน

มรดกที่คนสองรุ่นของตระกูลทิ้งเอาไว้ และยังคงต่อเนื่องมาจนถึงคนรุ่นที่สามคือ ไทยวา ในนามของ TWPC จะมีตำนานต่อไปอย่างไร

คำตอบ อยู่ในกำมือของคนรุ่นที่สามอย่างนาย โฮ เรน ฮวา นี่เอง

ความหมายในการเปิดตัวเมื่อวานนี้ เพื่อบอกแผนธุรกิจ ของ TWPC จึงเป็นมากกว่าการแถลงข่าวธรรมดา เพราะการสร้าง TWPC เป็นยักษ์ใหญ่ในอาเซียนนั้น ไม่ได้ขัดแย้งอะไรกับเป้าหมายดั้งเดิมที่กำหนดเอาไว้โดยคนรุ่นแรก และสองของตระกูล โฮ แต่อย่างใด

ใครจะกล้าเถียงบ้าง….บอกมาได้เลย

“อิ อิ อิ”

Back to top button