เริ่มปล่อยของ!

*ในที่สุดสิ่งที่ “โมนิก้า” คาดคิดไว้ก่อนหน้าก็เริ่มปรากฏให้เห็นชัดมากขึ้นเรื่อยๆ จึงไม่ขออธิบายอะไรเพิ่มเติมจากสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า เพราะการขึ้นเที่ยวนี้มันผิดเพี้ยนมาตั้งแต่เริ่มต้น จึงเป็นการยากที่ดัชนีจะฝ่าขึ้นไปยืนเหนือระดับ 1,700 จุดอย่างมั่นคง หลังแรงซื้อที่เข้ามาในเที่ยวนี้ไม่สัมพันธ์กับปัจจัยพื้นฐานเอาเสียเลย เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับมองตัวเลขการขายของนักเล่นแต่ละกลุ่มให้ดีเจ้าค่ะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*ในที่สุดสิ่งที่ “โมนิก้า” คาดคิดไว้ก่อนหน้าก็เริ่มปรากฏให้เห็นชัดมากขึ้นเรื่อยๆ จึงไม่ขออธิบายอะไรเพิ่มเติมจากสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า เพราะการขึ้นเที่ยวนี้มันผิดเพี้ยนมาตั้งแต่เริ่มต้น จึงเป็นการยากที่ดัชนีจะฝ่าขึ้นไปยืนเหนือระดับ 1,700 จุดอย่างมั่นคง หลังแรงซื้อที่เข้ามาในเที่ยวนี้ไม่สัมพันธ์กับปัจจัยพื้นฐานเอาเสียเลย เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับมองตัวเลขการขายของนักเล่นแต่ละกลุ่มให้ดีเจ้าค่ะ

*ไล่เรียงมาตั้งแต่ฝรั่งตาน้ำข้าวสาดหุ้นทิ้งไป 1.89 พันล้านบาท ตามหลังด้วยกองทุนตัวแสบทิ้งหุ้นออกมาอีก 1 พันล้านบาท ขณะที่ปอบผีฟ้าเก็บหุ้นเข้าพอร์ต 300 ล้านบาท ส่วนแมงเม่าโชว์ป๋าด้วยการกวาดหุ้นเข้าไป 2.68 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถึงมองการอ่อนตัวของดัชนีลงมาปิดที่ 1,670.65 จุด ลบไป 1.94 จุด ด้วยมูลค่า 6.42 หมื่นล้านบาท  น่าจะเป็นสถานการณ์ไม่ปกติแล้วนะคะ

*เนื่องจากทุกครั้งที่นักลงทุนแกนหลักเริ่มเทขายหุ้นทีไร มักตามด้วยการสาดหุ้นทิ้งไม่ยั้งเป็นประจำ “โมนิก้า” ถึงมองการเริ่มปล่อยของเที่ยวนี้มีอะไรต้องคิดมากกว่าเดิมพอสมควร บวกกับการที่หุ้นหลายตัวเริ่มย่อตัวให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ ย่อมเป็นเรื่องที่ทำให้เดี๊ยนรู้สึกไม่สบายใจอย่างแรง จึงอยากให้แฟนคลับ “ข่าวหุ้น” ลองนั่งดีดลูกคิดเพื่อหาทางลงจากดอยตั้งแต่เนิ่นๆ เจ้าค่ะ

*เหมือนกับกรณีของน้องนก NOK ดันราคากันพักใหญ่ๆ ก่อนจะมาเฉลยความจริงเกี่ยวกับการเพิ่มทุน RO รอบ 2 ในราคาหุ้นละ 1.50 บาท ซึ่งเป็นราคาต่ำกว่าขายหุ้นเพิ่มทุนรอบแรก 37% “โมนิก้า” มองเป็นเกมการเงินเพื่อต่อลมหายใจในชั่วขณะหนึ่งเท่านั้น แถมบรรดาแมงลือเชื่อว่า เที่ยวนี้เจ้าจำปีจะใช้สิทธิ์เต็มโควตา เพราะไม่มีหนูน้อยจอมซนเข้ามามีบทบาทแบบนี้ วานนี้หุ้นถึงอยู่ในอาการ sell on fact ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 5.40 บาท ลบไป 0.10 บาท ด้วยมูลค่า 109 ล้านบาท เพราะมันไม่มีอะไรต้องปกปิดอีกต่อไปค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ “เสี่ยตา-ประภาส” โยนหุ้นบิ๊กล็อตให้กับนักลงทุนรายใหญ่ พร้อมกับรับเงินเหนาะๆ เข้ากระเป๋าเกือบ 1.30 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเกมหุ้นที่เปิดหน้าให้เห็นแล้วว่า เรื่องนี้ไม่มีอะไรลึกลับซับซ้อน เพราะเป็นยุทธวิธีออกของแบบแนบเนียน บรรดาแมงลือถึงซุบซิบนินทาไปในทางเดียวกันว่า “ยืมมือ” จริงเท็จประการใดไม่มีใครรู้ เดี๊ยนรู้แค่ว่า วานนี้หุ้นทรุดลงมายืนที่ 82.25 บาท ลบไป 1.50 บาท ด้วยมูลค่า 1.73 พันล้านบาทจ้า!

*ส่วนอีกหนึ่งรายที่อยู่ในช่วง “เคราะห์ซ้ำ กรรมซัด” คงไม่มีใครย่ำแย่เท่ากับ ICHI หลังมีข่าวพัวพัน “ไบเล่ คาลิฟอร์เนียฯ” ล้มละลาย จนต้องออกมาชี้แจงกับสังคมอีกครั้งว่า ซื้อแบรนด์ตรงจาก “ซันนี่ เฮิร์บฯ” แต่ดูเหมือนคำชี้แจงจะไม่เป็นผลสักเท่าไหร่ เพราะราคาหุ้นทรุดลงมายืนที่ 8.15 บาท ลบไป 0.15 บาท “โมนิก้า” มองเป็นหนังเรื่องยาวที่ต้องติดตามดูกันอย่างใกล้ชิด เพราะบรรดาขาเผือกทั่วฟ้าเมืองไทยมองว่า พูดความจริงแค่ครึ่งเดียวอะป่าว?..อิอิอิ

*สำหรับในรายของ AOT  จบปัญหาที่ค้างคาใจกับกรมธนารักษ์แบบชื่นมื่นกันเลยทีเดียว เพราะดีลจ่ายค่าเช่าออกมาในลักษณะพบกันครึ่งทาง หุ้นเลยตกอยู่ในภาวะ sell on fact วานนี้ถึงเห็นหุ้นลงมายืนอยู่ที่ 59.25 บาท ลบไป 1.75 บาท หรือลงไป 2.90% ด้วยมูลค่า 7.64 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นการปิดเกมหุ้นอย่างสมบูรณ์แบบ และทำให้ผู้เล่นต้องเริ่มปรับรูปแบบการเล่นใหม่ หลังสถานการณ์ของหุ้นวันนี้มีตัวแปรใหม่เข้ามาเกี่ยวข้องนะซี

*เหมือนกับในรายของ GOLD เด้งขึ้นอย่างร้อนแรง ก่อนจะปิดที่ระดับ 9.30 บาท บวกไป 1.10 บาท หรือขึ้นไป 13.40% ด้วยมูลค่า 1.18 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นโพสิชั่นที่ผู้เล่นต้องเข้าใจตั้งแต่เนิ่นๆ มันเป็นรอบที่ต้องตามกระแสให้ทัน เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับย้อนกลับไปดูราคาหุ้นช่วงที่พีคเคยขึ้นไปถึง 11 บาทเป็นที่ตั้งแรก หรือถ้ามมองแบบสุดโต่งด้วยการใส่กำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 0.50 บาท คำนวณบน P/E 30 เท่า ก็มองราคาเป้าได้ถึง 15 บาทนะจะบอกให้

*ทิศทางคล้ายกับในรายของ UV ทะยานขึ้นด้วยทฤษฎีกำไรนิวไฮ ราคาหุ้นก็ควรทำจุดสูงสุดใหม่ด้วยเช่นกัน วานนี้ถึงเห็นหุ้นขึ้นมายืนอยู่ที่ 11.20 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 3.70% ด้วยมูลค่า 578 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป้าแรกที่บริเวณ 14 บาทเป็นลำดับแรก ต่อจากนั้นค่อยไปมองยอดเก่าที่บริเวณ 18 บาท ซึ่งเป็นการคิดภายใต้สมมุติฐานกำไรไตรมาส 3 ยังเด็ดสะระตี่นะคะ

*ส่วนที่แจ่มแจ๋วของจริง “โมนิก้า” ต้องหันมามอง BCPG ทะยานขึ้นอย่างช้าๆ ก่อนจะวิ่งขึ้นไปทำ new high นับตั้งแต่เข้าตลาดหุ้นที่ระดับ 16.80 บาท บวกไป 0.70 บาท หรือขึ้นไป 4.35% ด้วยมูลค่า 850 ล้านบาท ทั้งหมดมันเป็นเรื่องของกำไรเติบโตอย่างแข็งแกร่ง อีกทั้งวันนี้หุ้นเทรดบนค่า P/E 19 เท่า จึงกลายเป็นช็อตของการไหลตามน้ำไปได้เรื่อยๆ งานนี้บอกได้แค่ว่า คนที่มางานสัมมนาของ นสพ.ข่าวหุ้น รอบที่ผ่านมารวยถ้วนหน้า เพราะบริษัทแม่เขาให้หุ้นลูกตัวนี้เป็น growth stock นะจะบอกให้

*เม้าท์ถึงหุ้นที่น่าจับตา “โมนิก้า” ต้องหันมามองหุ้น PSTC เพราะมีแรงซื้อไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จนเหมือนเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า น่าจะมีข่าวดีอะไรบางอย่างออกมาในไม่ช้า! บวกกับหุ้นตัวนี้มีความสัมพันธ์อันดีกับกลุ่ม “เบียร์ช้าง” เดี๊ยนถึงอยากให้ทุกท่านมองการปิดเสมอตัวที่ 0.77 บาท ด้วยมูลค่า 62 ล้านบาท น่าจะมีนัยสำคัญแอบแฝง และคงจะมีการแถลงไขให้ทุกคนได้รับรู้พะยะคะ

Back to top button