SKN ดาวรุ่งแค่ข้ามคืน?

เรื่องของหุ้นน้องใหม่ที่เข้ามาในตลาดหุ้นเพื่อระดมทุนไปต่อยอดทำธุรกิจในอนาคต มันมีประเด็นที่ต้องคิดมากมายหลายเรื่อง ซึ่งแต่ละบริษัทก็มีเป้าหมายในการใช้เงินที่ระดมทุนได้ไม่เหมือนกัน อาทิ นำเงินไปใช้หนี้ นำเงินไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน นำไปใช้ขยายธุรกิจในอนาคต หรือแม้กระทั่งเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อสร้างเครดิตให้กับบริษัทก็มีไม่น้อยเช่นกัน ฯลฯ


ตีแผ่บจ.ดัง

คุณอุษณีย์ จากประชาชื่น กรุงเทพฯ พูดถึงอาการแกว่งตัวของหุ้น SKN หรือ บริษัท ส.กิจชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) ทำให้คนที่ถือหุ้นเกิดอาการหวั่นใจอย่างรุนแรง เพราะหุ้นเคยหลุดราคา IPO 7.35 บาทไปแล้วครั้งหนึ่ง จึงอยากรู้ว่า การขยับขึ้นของหุ้นเที่ยวนี้จะเป็นการขึ้นอย่างยั่งยืนขนาดไหน? เพราะวันนี้ยังไม่เห็นมีอะไรที่จับต้องได้เลยสักอย่างค่ะ

 

เรื่องของหุ้นน้องใหม่ที่เข้ามาในตลาดหุ้นเพื่อระดมทุนไปต่อยอดทำธุรกิจในอนาคต มันมีประเด็นที่ต้องคิดมากมายหลายเรื่อง ซึ่งแต่ละบริษัทก็มีเป้าหมายในการใช้เงินที่ระดมทุนได้ไม่เหมือนกัน อาทิ นำเงินไปใช้หนี้ นำเงินไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน นำไปใช้ขยายธุรกิจในอนาคต หรือแม้กระทั่งเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อสร้างเครดิตให้กับบริษัทก็มีไม่น้อยเช่นกัน ฯลฯ

เหล่านี้เป็นรายละเอียดปลีกย่อยที่บอกให้รู้ว่า บริษัทเหล่านั้นมีอนาคตมากขนาดไหน? ซึ่งเป็นเรื่องที่นักลงทุนต้องทำความเข้าใจมากพอสมควร เพราะนักลงทุนส่วนใหญ่สนใจแต่เรื่องราคาหุ้น กับส่วนลดเมื่อจองซื้อหุ้น IPO จึงมีโอกาสพลาดพลั้งสูงเมื่อเล่นหุ้นน้องใหม่ไประยะหนึ่ง

ตรงนี้เทียบได้กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับ SKN หรือ บริษัท ส.กิจชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) เพราะช่วงแรกของการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ หุ้นตัวนี้ได้การตอบรับที่ค่อนข้างดี มีการไล่ราคาหุ้นกันอย่างสนุกสนาน แต่หลังจากนั้นราคาก็ทรุดตัวลงดื้อๆ ก่อนจะไหลทะลุราคา IPO 7.35 บาทลงไปอย่างง่ายดาย

นั่นหมายความว่าผลงานของบริษัทมีแนวโน้มออกมาไม่ดี นักลงทุนถึงเทขายหุ้นทิ้งออกมาก่อน เพื่อรอให้ผลงานของบริษัทมีแนวโน้มดีขึ้นจริงๆ ราคาหุ้นถึงแกว่งตัวอยู่ใต้ราคา IPO เป็นเวลากว่า 2 เดือน ก่อนจะทะยานขึ้นมายืนเหนือราคาไอพีโอเมื่อไม่นานมานี้

เมื่อถอดรหัสเรื่องดังกล่าวอย่างเป็นระบบจะเห็นว่าการอ่อนตัวลงหนักมาจากความกังวลใจเกี่ยวกับแผนธุรกิจ ส่วนการปรับตัวขึ้นมาจากความเชื่อเรื่องผลงานในปี 2561 น่าจะดีกว่าปี 2560 นะครับ

ในเมื่อเข้าใจประเด็นดังกล่าวอย่างถ่องแท้ ก็ต้องปรับรูปแบบการเล่นให้เข้ากับสถานการณ์ในช่วงนั้นๆ เพราะเมื่อมองจากงบ 9 เดือน ปี 2560 จะเห็นรายได้รวม 1,141.27 ล้านบาท  กำไรสุทธิ 157.53 ล้านบาท และกำไรต่อหุ้น 0.26  บาท ขณะที่ค่า P/E อยู่ที่ 30 เท่า น่าจะทำให้นักลงทุนมองเห็นภาพคร่าวๆ ว่าราคาหุ้นควรยืนอยู่แถว 7.50 บาทเป็นอย่างต่ำ (คิดจากกำไรต่อหุ้นปี 2560 น่าจะอยู่ที่ 0.30 บาท เทียบกับ P/E 25 เท่า)

ถ้ามองในมุมของข่าวสารที่พูดกันตั้งแต่เข้าตลาดหุ้นในเดือนกันยายน 2560  ซึ่งมีการพูดกันไปในทำนองที่ว่า

โบรกเกอร์แต่ละแห่งเน้นคุยเรื่องกำไรในปี 2562 กับ 2563 มากกว่าปี 2561 เพราะจะเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของบริษัท

หลังขยายกำลังผลิตใหม่เสร็จ และเดินเครื่องผลิตได้เต็มปี  น่าจะทำให้กำไรเพิ่มขึ้นอีก 1 เท่าตัว

วันนี้ขึ้นอยู่กับนักลงทุนให้ premium กับหุ้น SKN เยอะขนาดไหน? เพราะที่ผ่านมาหุ้นตัวนี้เคยเป็น “ดาวรุ่งแค่ข้ามคืน” มาแล้ว เที่ยวนี้จะเป็น “ดาวรุ่งพุ่งแรง” ได้หรือเปล่า?

อาจารย์คงตอบเรื่องนี้ไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่ากลุ่มผู้บริหารของ SKN จะทำได้ตามแผนขนาดไหน?

สภาแมงเม่า : ดร.สมชาย

Back to top button