สังคมข่าวหุ้น

*ดัชนีตลาดหุ้นเมื่อวานนี้แกว่งแบบผันผวนมาก ดูเส้นกราฟแล้วเหมือนรถไฟเหาะตีลังกา แต่สุดท้ายแล้วยังปิดตลาดในแดนบวกได้ 1.83 จุด มาที่ 1,726.97 จุด แต่มูลค่าการซื้อขายหนาแน่นมากกว่า 99,932 ล้านบาท


คาเฟอีน

*ดัชนีตลาดหุ้นเมื่อวานนี้แกว่งแบบผันผวนมาก ดูเส้นกราฟแล้วเหมือนรถไฟเหาะตีลังกา แต่สุดท้ายแล้วยังปิดตลาดในแดนบวกได้ 1.83 จุด มาที่ 1,726.97 จุด แต่มูลค่าการซื้อขายหนาแน่นมากกว่า 99,932 ล้านบาท

*ประเด็นที่น่าสนใจคือนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 7,885 ล้านบาท (MSCI ปรับลดน้ำหนักหุ้นไทยมีผล 31 พ.ค. 2561) และนักลงทุนสถาบัน โดยเฉพาะกองทุนเริ่มขยับไม้ขยับมือแล้ว ซื้อสุทธิ 5,441 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิเช่นกัน 3,323 ล้านบาท ก็ถือว่ากองทุนกับรายย่อยแตะมือกันช่วยค้ำยันดัชนีไว้ได้ ไม่อย่างนั้นคงหลุด 1,700 แน่นอน แต่ประเด็นของปัญหาอยู่ที่ว่า เงินหน้าตักของนักลงทุนภายในประเทศ ยังเหลืออีกมากน้อยแค่ไหน เพราะปีนี้เข้าซื้อไปแล้ว 1.31 แสนล้านบาท ขณะที่สัดส่วนของต่างชาติล่าสุดน่าจะถือครองหุ้นไทยต่ำกว่า 30% แล้วล่ะ

*หุ้น “พี่ปอ” หรือ PTT ราคาเริ่มดีดกลับ หลังลงไปแตะแนวรับทางเทคนิคที่ 49.00 บาท แล้วเด้งขึ้นมาบวกติดต่อกัน 2 วันแล้ว ล่าสุด ปิดที่ 52.25 บาท มูลค่าการซื้อขายกว่า 1.08 หมื่นล้านบาท ถือว่าเยอะจริง ๆ และซื้อขายกันเกินระดับหมื่นล้านบาท เป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน ส่วนราคาจะวิ่งขึ้นต่อไหม ต้องลุ้นว่าราคาน้ำมันดิบเมื่อคืนนี้ ยังพุ่งขึ้นต่อหรือไม่ หลังจากประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่นอกโอเปกคือรัสเซีย และกลุ่มโอเปก ยังคงยืนกรานตามข้อตกลงเดิมว่า ยังไม่มีการปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน เพื่อรักษาระดับราคาน้ำมันดิบเอาไว้

*มีแรงเทขายหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ให้ราคาร่วงลงเกือบยกแผง ยกเว้น KKP กับ TCAP ที่ราคาปิดแดนบวกได้ ส่วนแรงขายน่าจะมาจากกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ เพราะทั้ง BBL ลงมากว่า 1.82% และ KBANK ลงมากว่า 1.03% ขณะที่ SCB ก็ปรับลงมา 2.56% และ KTB ร่วงลงมา 1.69% จะเห็นว่าแบงก์ใหญ่ 4 แห่งร่วงลงมาหมด ส่วนคำแนะนำของนักวิเคราะห์จะมีมุมมองหุ้นในกลุ่มธนาคารแตกต่างกันไป มีทั้งคงน้ำหนักเท่าตลาด น้อยกว่าตลาด และมากกว่าตลาด!!!!

*หุ้น AOT หากนับจากช่วงกลางเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ราคาปรับลงมาแล้ว 4-5% แต่จริง ๆ แล้วไม่ได้มาจากปัจจัยลบอะไรเลย แต่เป็นผลมาจาก MSCI ปรับลดน้ำหนักตลาดหุ้นไทย ทำให้ต้องปรับพอร์ตและขายหุ้นออกมา จึงเป็นโอกาสในการเข้าสะสม เพราะปัจจัยพื้นฐานของ AOT ยังคงแข็งแกร่ง และนักวิเคราะห์เองต่างมีมุมมองเชิงบวกต่อท่องเที่ยวของไทย และความชัดเจนต่อแผนรับบริหารสนามบินภูมิภาคอีก 4 แห่ง ที่จะได้เพิ่มเข้ามาคือ อุดรธานี สกลนคร ตาก และชุมพร และคาดว่าจะทำเรื่องเสนอต่อกระทรวงคมนาคมในเดือน มิ.ย. เป็น Catalyst ที่รออยู่

*มีรายงานข่าวจากต่างประเทศว่าเมื่อวันที่ 18 พ.ค. 2561 ศาลสูงของเขตปกครองพิเศษฮ่องกงได้มีคำสั่งห้าม บริษัท โกลเด้น มิวสิค ลิมิเต็ด จำหน่ายจ่ายโอนหุ้นจำนวน 41,216,398 หุ้น ในบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด หมายเลขหุ้น 63528715 ถึง 92931040 และ 92931041 ถึง 104745112 ขณะที่เอกสารทางราชการระบุว่า นายเกษม ณรงค์เดช ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นเพียงคนเดียวใน โกลเด้น มิวสิคฯ ซึ่งเป็นบริษัทฮ่องกง ได้โอนหุ้น วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำนวนดังกล่าว ให้กับ โกลเด้น มิวสิคฯ เมื่อวันที่ 14 ก.ค. และ 9 ส.ค. 2560 โดยนายเกษม เป็นประธานกรรมการของกลุ่มบริษัท เคพีเอ็น และเป็นบิดาของนายณพ ณรงค์เดช ประธานคณะกรรมการบริหารและกรรมการของ วินด์ เอนเนอร์ยี่

*ปัญหาที่เกิดขึ้นในประเทศอิตาลี ล่าสุด วิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยืนยันยังไม่มีผลกระทบต่อไทย เพราะตลาดการเงินและตลาดทุนของไทยมีความเชื่อมโยงกับอิตาลีน้อยมาก ส่วนผลกระทบต่อเงินทุนไหลเข้าออกหรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่ ธปท.ต้องติดตาม และย้ำว่าไทยมีเสถียรภาพต่างประเทศเข้มแข็ง มีทุนสำรองระดับสูง มีหนี้ต่างประเทศต่ำมากเมื่อเทียบกับทุนสำรอง และยังเกินดุลบัญชีเดินสะพัด และเศรษฐกิจฟื้นตัวดีและมีการกระจายตัวมากขึ้น

*รศ.ดร.ศิริยุพา รุ่งเริงสุข หญิงเก่งและแกร่ง แห่งศศินทร์ จุฬาฯ เตรียมเปิดเวิร์คช็อปผู้นำผลงานสูงสู่ยุคเศรษฐกิจพลิกผันระหว่างวันที่ 13-15 มิ.ย.นี้ โดยผนึกกำลังกับ ดร.แอนเดรียส ลีฟูกส์ แห่ง ม.ลอนดอน ติวเข้มสำหรับผู้นำการเปลี่ยนแปลงและนักสตาร์ทอัพทั้งหลาย สนใจโทรศัพท์จองที่นั่งด่วนที่ 02 218 4004-8 Ext.162-167 หรือคลิก [email protected]

Back to top button