ปิดเกม!

*ช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา “โมนิก้า” เห็นแมงเม่าบางกลุ่มนั่งเหม่อลอย น้ำลายไหลย้อยออกจากปาก พร้อมกับพร่ำพรรณนาภาษาอะไรก็ไม่ทราบได้แบบนี้ มันเป็นอาการของพวกจิตตก ไม่สามารถรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ เลยติดอยู่ในห้วงเวลาของความเศร้าสร้อยแบบไม่รู้ตัว เดี๊ยนถึงอยากให้นักเล่นลองสำรวจตัวเองมีอาการดังกล่าวเกิดขึ้นหรือเปล่า? เพื่อจะได้ตั้งหลักในการเล่นหุ้นรอบใหม่ไงล่ะคะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*ช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา “โมนิก้า” เห็นแมงเม่าบางกลุ่มนั่งเหม่อลอย น้ำลายไหลย้อยออกจากปาก พร้อมกับพร่ำพรรณนาภาษาอะไรก็ไม่ทราบได้แบบนี้ มันเป็นอาการของพวกจิตตก ไม่สามารถรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ เลยติดอยู่ในห้วงเวลาของความเศร้าสร้อยแบบไม่รู้ตัว เดี๊ยนถึงอยากให้นักเล่นลองสำรวจตัวเองมีอาการดังกล่าวเกิดขึ้นหรือเปล่า? เพื่อจะได้ตั้งหลักในการเล่นหุ้นรอบใหม่ไงล่ะคะ

*ข้อมูลตรงนี้เชื่อมโยงกับการดันหุ้นจากระดับ 1,580 จุด ขึ้นมายืนที่บริเวณ 1,620 จุด โดยวานนี้ดันต่ออีกนิดหน่อย ก่อนที่ดัชนีจะลงเอยในระดับ 1,629.20  จุด บวกไป 2.58 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.82 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นช็อตของการโฆษณาชวนเชื่อ เพื่อทำให้แมงเม่าเข้ามาช่วยดันหุ้นให้สูงขึ้น ก่อนจะถีบหัวส่งเหมือนเช่นที่ผ่านมา เดี๊ยนถึงอยากให้นักเล่นพึงสำเหนียกไว้ให้มากขึ้นว่า เกมหุ้นต่อจากนี้จะโหดมากขึ้นเรื่อย ๆ นะจะบอกให้

*ไม่เฉพาะแค่เกมหุ้นเท่านั้นที่ยากจะหยั่งลึก แต่ยังรวมถึงตลาดเงินดิจิทัลก็เล่นกันหนักขึ้นด้วย เพียงแต่เป็นเกมที่สาดโคลนใส่ฝั่งตรงกันข้ามเยอะแยะไปหมด โดยที่หน่วยงานกำกับดูแลได้แต่นั่งทำตาปริบ ๆ พร้อมกับบอกปัดความรับผิดชอบของเรื่องเน่า ๆ ที่เกิดขึ้นกับ JFIN ทุกประตูหน้าต่าง แต่กลับมีการหมายหัวพ่อนกแก้วนกขุนทอง ทารง..ทาโร่ โดยไม่มีการออกสื่อแบบนี้..มันได้ประโยชน์อะไรเหรอคุณพี่!

*ในเมื่อสัปดาห์ก่อนเพิ่งมีข่าวเม้าท์กันให้แซดห้องค้าเหรียญในทำนองว่า หลังจากเกิดเรื่องอื้อฉาวกับบริษัทค้าเหรียญแห่งหนึ่ง ก็ทำให้หน่วยงานเสือกระดาษเต้นผางกันภายในยกใหญ่ พร้อมกับเร่งคลอดกฎระเบียบต่าง ๆ เพื่อมากำราบพวกสายดาร์กไม่ให้กำแหงอีกต่อไป และผลลัพธ์ที่ปรากฏออกมาสู่สายตาประชาชีทั้งหลายก็เป็นเหมือนกับที่ทุกคนคาดหวังทุกประการนะจะบอกให้

*น่าเสียดายที่โลกของความจริงไม่มีใครอยู่ในกฎระเบียบได้เป๊ะ ๆ เลยมีคนประเภทชอบลองของโผล่ขึ้นมาให้เห็นอีกรอบ  เพราะคิดว่าตัวเองแจ๋วกว่า..ไม่มีอะไรต้องกลัว เลยแอบลักไก่ขายเหรียญในช่วงที่ ก.ล.ต. ให้ทุกคนอยู่นิ่ง ๆ เพื่อจัดระเบียบการขายให้เป็นไปตามข้อกำหนด แต่สุดท้ายก็โดนเรียกเข้าไปปรับทัศนคติจนได้ และรายแรกในรอบนี้คือ JIC..JIB อะไรทำนองนี้แหละ

*ผลดังกล่าวทำให้พวก “ขุดเหรียญ ขายเหรียญ ล่าเหรียญ” อยู่ในแถวตรงกันทั้งหมด เพราะงานนี้เขาเล่นถึงแหล่งที่มาของเงินทุกเม็ดกันเลยทีเดียว “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่ตอนนี้ไม่ค่อยมีใครเสนอหน้าออกมาเม้าท์มอยเรื่องเงินดิจิทัลสักเท่าไหร่? เพราะทุกคนกลัวไม่ได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานดังกล่าว เลยต้องหัดทำตัวเป็นเด็กดีมากหน่อยในช่วงนี้ไงล่ะคะ

*ส่วนที่ทำตัวดีเท่าไหร่..ก็คงไม่มีใครเชื่ออีกต่อไป น่าจะเป็นในรายของ BEAUTY ของคุณหมอหนวดงาม “สุวิน” เพราะสตอรี่ของหุ้นก่อนหน้านี้ถูกปูด้วยเรื่อง growth มาโดยตลอด แต่มาวันนี้ยอมรับเสียงอ่อย ๆ ผลงานไตรมาส 2 ไม่เข้าเป้า วานนี้เลยโดนกระหน่ำเทขายแบบไม่ยั้ง บวกกับหุ้นโดนจับฟอร์ซเซลล์อีกกระทอกหนึ่ง แถมนักวิเคราะห์วัยละอ่อนที่ไปร่วมงานแถลงข่าวออกมาปรับลดกำไร หุ้นถึงร่วงลงมาปิดที่ 9.10 บาท ลบไป 3.90 บาท หรือลงไปติดฟลอร์ 30% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1.09 หมื่นล้านบาท แมงลือถึงเม้าท์กันสนุกปากเหลือเกินว่า จบแล้วค่ะนาย!

*อีกหนึ่งรายที่จบเห่เหมือนกันคงโฟกัสไปที่ดูเดย์เดด DDD โดนเทกระจาดนานเป็นเดือน ราวกับบริษัทไม่มีอนาคตอีกต่อไป จนวานนี้ลงมาปิดที่ระดับ 51.75 บาท ลบไป 6.50 บาท หรือลงไป 11.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 200 ล้านบาท พร้อมกับทำ all time low นับตั้งแต่เข้าตลาดหุ้นแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นสถานการณ์ที่ไม่สู้ดีมาก ๆ สำหรับหุ้นที่มีกองทุนถือเป็นจำนวนมาก เพราะมันหมายความว่า กองทุนเลิกเล่นนะซี

*ส่วนอีกรายที่อนาคตดับวูบค่อนข้างชัดเจน “โมนิก้า” ขอชี้นิ้วไปยังหุ้น THCOM เป็นรายถัดไปในทันที เพราะสถานการณ์ของบริษัทไม่แน่นอนเลยสักอย่าง บรรดาผู้เล่นถึงเทขายหุ้นออกมาไม่หยุดหย่อน จนวานนี้ลงมายืนอยู่ที่ระดับ 7.75 บาท ลบไป 1.25 บาท หรือลงไป 13.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 14 ล้านบาท เท่ากับเป็นการย้ำหัวหมุดว่า ไม่มีใครเอา! เดี๊ยนถึงมองไม่เห็นความจำเป็นในการเข้าไปรับหุ้นช่วงขาลงเต็มตัว หรือใครมีเหตุผลอื่นที่ดีกว่าก็โต้แย้งมาได้ตลอดเวลานะคะ

*เหมือนกับกรณีของ JMART โดนเทขายเป็นเวลานาน จนไม่มีทีท่าจะฟื้นตัวขึ้นมาได้ “โมนิก้า” ถึงมองการอ่อนตัวลงมาปิดที่ 8.70 บาท ลบไป 0.55 บาท หรือลงไป 5.95% เหมือนเป็นการปิดเกมอย่างเป็นทางการ บวกกับทุกคนยอมรับโดยดุษณีว่า เศรษฐกิจไตรมาส 2 แย่สุด ๆ จึงไม่มีใครคิดจะแหย่มือเข้าไปรับของร้อน และทุกคนคงนึกภาพของหุ้นหลังจากนี้จะออกมาเป็นอย่างไรถูกนะจ๊ะ

Back to top button