จบง่าย ๆ

*ก่อนหน้านี้ “โมนิก้า” อุตส่าห์นั่งดูข้อมูลเป็นชุด ๆ เพื่อลำดับเหตุการณ์ของตลาดหุ้นไทยจะไปในทิศทางไหน? หลังมีการประโคมข่าวเรื่องเฟดขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งทำให้เงินทุนจากทั่วทุกมุมโลกไหลกลับไปยังอเมริกา และต่อจากนั้นไม่นานประธานาธิบดีตัวแสบของเมืองลุงแซม ก็ลุกขึ้นมาประกาศทำสงครามการค้ากับประเทศจีนแบบไม่มีใครได้ทันตั้งตัว ตลาดหุ้นทั่วโลกเลยม่อยกระรอกกันเป็นแถวไงล่ะคะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*ก่อนหน้านี้ “โมนิก้า” อุตส่าห์นั่งดูข้อมูลเป็นชุด ๆ เพื่อลำดับเหตุการณ์ของตลาดหุ้นไทยจะไปในทิศทางไหน? หลังมีการประโคมข่าวเรื่องเฟดขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งทำให้เงินทุนจากทั่วทุกมุมโลกไหลกลับไปยังอเมริกา และต่อจากนั้นไม่นานประธานาธิบดีตัวแสบของเมืองลุงแซม ก็ลุกขึ้นมาประกาศทำสงครามการค้ากับประเทศจีนแบบไม่มีใครได้ทันตั้งตัว ตลาดหุ้นทั่วโลกเลยม่อยกระรอกกันเป็นแถวไงล่ะคะ

*ในระหว่างนั้นได้เกิดปรากฏการณ์แพนิกกันอย่างถ้วนหน้า พร้อมกับอธิบายเหตุผลร้อยแปดพันเก้ากันสนุกสนาน ผสมโรงกับความกังวลตัวเลขกำไรไตรมาส 2 มีแนวโน้มออกมาแย่ เลยมีการลดเป้าดัชนีลงไปอยู่ที่บริเวณ 1,550 จุด และมีการแนะนำให้ถือเงินสดมากขึ้นกว่าเดิม เพราะสถานการณ์ของตลาดหุ้นทั่วโลกตกอยู่ใต้อุ้งมือคนจิตป่วนอย่าง “ทรัมป์” เป็นที่เรียบร้อยแล้วนะซี

*ประเด็นดังกล่าวดูจะมีน้ำหนักมากขึ้น เพราะดัชนีรูดลงมาเรื่อย ๆ จนลงไปทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,584.68 จุด แต่หลังจากนั้นกลับฟื้นตัวขึ้นอย่างช้า ๆ เพราะสถานการณ์ข้างต้นที่กล่าวมาทั้งหมดไม่ร้ายแรงจนเกินการควบคุมนั่นเอง วานนี้ถึงเห็นดัชนีพุ่งปรี๊ดขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,722.01 จุด บวก 20.22 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.09 หมื่นล้านบาท พร้อมกับปรากฏข่าวเลิกสงครามการค้าแบบง่าย ๆ ห้วน ๆ สั้น ๆ แบบนี้..เดี๊ยนงงเป็นไก่ตาแตกเลยนะคะ

*เนื่องจากดัชนีควรแกว่งตัวออกด้านข้างเพื่อสะสมแรงซื้อให้เยอะกว่าเดิมอีกนิดหนึ่ง พอถึงเหตุการณ์จริง ๆ ดัชนีกลับวิ่งปรู๊ดปร๊าดไม่ให้รู้ล่วงหน้าแบบนี้ “โมนิก้า” ย่อมมองเป็นการเล่นที่เร็วเกินไปสำหรับสถานการณ์ในขณะนี้ แต่อาจเป็นโอกาสทองของบรรดาเสือปืนไว เพราะสามารถอ้างเหตุผลเข้ามาตะลุมบอนได้ตลอดเวลา จึงขึ้นอยู่กับว่า ใครถนัดแบบไหนมากกว่ากันเจ้าค่ะ

*เหมือนกับการทะยานขึ้นอย่างร้อนแรงของหุ้นลีสซิ่งสีเทา GL ท่ามกลางอาการมึน ๆ งง ๆ ของกูรูสายหุ้นพันธุ์แท้ เพราะแค่บันทึกผลขาดทุนลดลงเหลือ 1.60 พันล้านบาท จากเดิมลงบัญชีไว้ที่ 1.80 พันล้านบาท เพียงเท่านี้ก็ทำให้ราคาหุ้นวิ่งระเบิดระเบ้อ จนสุดท้ายมาปิดที่ระดับ 6.65 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 29.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 69 ล้านบาทแบบนี้ สงสัยจะเป็นการดันล่อเม่าให้เข้ามารับของ งานนี้ถ้าให้ชัวร์ต้องให้ ก.ล.ต. ออกมาเป็นคนคอนเฟิร์มงบดังกล่าวถูกต้องจริงอะป่าว!

*เช่นเดียวกับในรายของ GGC อธิบายการบันทึกสต๊อกสินค้าที่ขาดหายไปเป็นจำนวนเงินสูงถึง 2.10 พันล้านบาท มันเป็นเรื่องที่รู้กันอยู่แล้วว่า คนในมีเอี่ยวกับเรื่องนี้อย่างแน่นอน! “โมนิก้า” ถึงไม่เข้าใจการทวงคืนสินค้าที่ขาดหายไปจะช่วยให้การบันทึกยอดสินค้าคงเหลือดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญอย่างไร? รวมทั้งคำอธิบายดังกล่าวที่เกิดขึ้นกลับทำให้ราคาหุ้นทรุดลงมาปิดที่ 10.60 บาท ลบไป 0.20 บาท หรือลงไป 1.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 94 ล้านบาทได้ล่ะคะ

*ส่วนรายที่พูดคำไม่ตกฟากก็เกิดอาถรรพ์ขึ้นจนได้อย่าง BEAUTY กลายเป็นช็อตที่ทำให้เดี๊ยนหนักใจมากขึ้นเป็นกอง เพราะพวกคุณ ๆ ท่าน ๆ เล่นทุบหุ้นสวนภาวะตลาดที่ปิดเขียวปี๋ เลยทำให้สถานการณ์ของหุ้นดูย่ำแย่ลงไปอีก วานนี้ถึงมองไม่เห็นแรงช้อนซื้อเข้ามารับเลย หุ้นถึงลงมาปิดที่ 7.40 บาท ลบไป 0.40 บาท หรือลงไป 5.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.82 พันล้านบาทอย่างง่ายดาย พร้อมกับแสดงอาการอยู่ในทิศทางโค้งตัวลงอีกครั้งแบบนี้..หนูช่วยไม่ไหวจริง ๆ นะตัวเอง

*สำหรับรายที่ดูเหมือนทำท่าจะดี พอผ่านมาสักระยะกลับทรุดตัวดื้อ ๆ อย่างเช่นช่องน้อยสี BEC ยังคงเป็นปริศนาสำหรับนักเล่นต่อไปอย่างไม่มีกำหนดว่า ธุรกิจทีวีดิจิทัลฟื้นยัง? แถมบางกระแสเม้าท์กันสนุกสนานไตรมาส 2 ไม่ดี! ส่วนอีกกระแสหนึ่งดันออกไปในโทนทรงตัวในระดับหนึ่ง! “โมนิก้า” ถึงไม่แน่ใจว่า การทรุดตัวของหุ้นลงมาปิดที่ 9.20 บาท ลบไป 0.50 บาท หรือลงไป 5.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 176 ล้านบาท มาจากเหตุผลไหน? พะยะค่ะ

*ส่วนรายที่ชัดเจนขึ้นมานิดหนึ่งอย่าง PRM ถือเป็นช็อตวัดใจนักเล่นพอสมควร เพราะการเด้งขึ้นมาปิดที่ 7.15 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 7.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 128 ล้านบาท มันตีความสิ่งที่เกิดขึ้นได้ 2 แบบ คือ “ลงลึกเลยเด้งกลับสั้น ๆ” กับ “เปลี่ยนโพสิชั่นจากลงเป็นขึ้น” เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับจับตาดูการขยับตัวของหุ้นวันนี้ให้ดีเป็นพิเศษ เพราะมันหมายถึงเงินในกระเป๋า “เพิ่ม” หรือ “ลด” นะซี

*ผิดกับในรายของหุ้นขายแก๊ส SGP ไต่ระดับขึ้นอย่างช้า ๆ จนวานนี้กระชากขึ้นมาปิดที่ 12.30 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป  4.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 523 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นสิ่งที่ควรเกิดขึ้นมานานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมาเกิดขึ้นในตอนนี้ เพราะหุ้นรับรู้ช่วงตกต่ำของกำไรมาระยะหนึ่งแล้ว ต่อจากนี้จะเป็นช่วงฟื้นตัวอย่างเป็นรูปธรรม ก่อนจะเข้าสู่ช่วงพีกของการขายแก๊สปลายปีนะจะบอกให้

Back to top button