สังคมข่าวหุ้น

*ดัชนีตลาดหุ้นร่วงลง 13.73 จุด ปิดที่ 1,708 จุด หลังจากระหว่างวันดัชนีลงไปแตะ 1,700 จุดพอดี แต่เด้งขึ้นมาได้ ทำให้ทรงของกราฟยังพอดูสวยงาม และเซนติเมนต์ของนักลงทุนยังมีความมั่นใจ ส่วนปัจจัยไม่ต้องไปควานหากันมาก ทราบ ๆ กันดี ทั้งเทรดวอร์ และเฟดส่งซิกขึ้นดอกเบี้ยรอบหน้า ทำตลาดหุ้นทั่วโลกวูบกันหมด


คาเฟอีน

*ดัชนีตลาดหุ้นร่วงลง 13.73 จุด ปิดที่ 1,708 จุด หลังจากระหว่างวันดัชนีลงไปแตะ 1,700 จุดพอดี แต่เด้งขึ้นมาได้ ทำให้ทรงของกราฟยังพอดูสวยงาม และเซนติเมนต์ของนักลงทุนยังมีความมั่นใจ ส่วนปัจจัยไม่ต้องไปควานหากันมาก ทราบ ๆ กันดี ทั้งเทรดวอร์ และเฟดส่งซิกขึ้นดอกเบี้ยรอบหน้า ทำตลาดหุ้นทั่วโลกวูบกันหมด

*หุ้นในกลุ่ม SET50 เมื่อวานนี้พากันปิดตลาดปรับลงพร้อม ๆ กันเกือบทั้งหมด มีเพียง 5 บริษัทเท่านั้น ที่สามารถยืนในแดนบวกได้ ด้วยปัจจัยหนุนเฉพาะตัว นำโดย BTS, CPN, EGCO, PTTGC และ TISCO ส่วน บัตรกรุงไทย หรือ KTC เกือบตลอดทั้งวันอยู่ในแดนลบ แต่ช่วงก่อนปิดตลาดราคาพลิกขึ้นมาเป็นบวกได้ แต่ก็ยืนไม่ได้ ทำได้เพียงแค่เสมอตัว 29.00 บาท ทำให้เห็นว่า แนวรับราว 28.00–28.75 บาท มีความแข็งแกร่งอย่างมาก รายย่อยต่างไปกางมุ้งรอรับที่ราคานี้กันจำนวนมาก

*ในรอบ 8 วันทำการของตลาดหุ้น นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1 วัน (329 ล้านบาท) และซื้อสุทธิ 7 วันทำการ คิดเป็นยอดเงินรวมกว่า 9,210 ล้านบาท ก็ถือว่าพอจะเป็นสัญญาณที่ดีได้บ้าง แต่หากนับจากต้นปีมาถึงเมื่อวานนี้ ยอดขายสุทธิของต่างชาติยังคงอยู่ระดับสูงกว่า 1.89 แสนล้านบาท และการกลับมารอบนี้ ก็คงไม่ได้เข้ามาซื้อเท่ากับจำนวนที่ขายออกไปแน่นอน

*ขณะที่ล่าสุด เมื่อวานนี้ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 0.75% ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงิน ตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ หลังการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่สดใส แถมมติเป็นเอกฉันท์ 9-0 เสียงซะด้วย ทำให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้ เป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เป็นครั้งที่ 2 นับตั้งแต่เดือน พ.ย.ปีที่แล้ว

*แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) หรือ เอไอเอส แจ้งผลประกอบการไตรมาส 2/2561 มีกำไรสุทธิเท่ากับ 8,005 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% ถือว่าใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์คาดกันไว้ และทำให้งบการเงินในช่วงครึ่งปีแรกกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 16,042 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.6% ส่วนปีนี้บริษัทปรับลดคาดการณ์รายได้การให้บริการหลักในปี 2561 เป็นเพิ่มขึ้น 5-7% จากเดิมคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 7-8% และประเมินว่าการแข่งขันในตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ยังคงเข้มข้น และอาจมีผลกระทบจากการประมูลคลื่นความถี่ 900 และ 1800 เมกะเฮิรต์ที่จะเกิดขึ้น

*หุ้น CPALL หลังจากร่วงลงจาก 90.00 บาท มาอยู่ระหว่าง 73-75 บาท ก็ยังไม่ขยับขึ้นไป แม้ตลาดรวมจะวิ่งขึ้นมาแล้วเหตุผลเพราะยังมีปัจจัยลบเข้ามารบกวนอยู่ค่อนข้างมาก ทั้งความกังวลเกี่ยวกับแรงกดดันต่อราคาหุ้น CPALL จากการขายหุ้นของผู้ถือหุ้นกู้อนุพันธ์ของ CPF ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากการขยายสาขาของ MAKRO ในต่างประเทศ การยกเลิกค่าธรรมเนียมโอนเงินออนไลน์ของธนาคาร และการคาดการรายได้ของโบรกฯ อาจจะดีดลูกคิดออกมาว่าสูงเกินไป แต่ในระยะยาวแล้วยังจัดว่าเป็นหุ้นพื้นฐานดี แต่หากจะเข้าซื้อก็คงต้องรอการปรับราคาของโบรกฯ ในรอบใหม่ หรือให้ปัจจัยลบต่าง ๆ จางหายไปก่อน

*ตลาดหลักทรัพย์ฯ และสมาคมบริษัทจัดการลงทุน จับมือจัดงาน Mutual Fund Day ครั้งที่ 3 เพื่อให้เห็นความสำคัญเรื่องการวางแผนและจัดสรรเงินเดือนสำหรับออมและลงทุนเพื่ออนาคต ผ่านผลิตภัณฑ์ทางการเงินทั้งกองทุนในระบบการออมเพื่อเกษียณอายุ เช่น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) รวมถึงกองทุนรวมประเภทต่าง ๆ เช่น กองทุนรวม RMF, LTF และกองทุนรวมหุ้น พบกันวันอาทิตย์ที่ 5 สิงหาคมนี้ เวลา 9.30-16.30 น. ณ อาคารตลาดหลักทรัพย์ฯ ถ.รัชดาภิเษก

*บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ดำเนินการตรวจสอบรายชื่อผู้ประสบภัยพิบัติ เหตุการณ์ดินโคลนถล่มในพื้นที่บ้านห้วยขาม อ.บ่อเกลือ จ.น่าน พบผู้เอาประกันของบริษัท เสียชีวิต 1 ราย จำนวนเงินเอาประกันภัยรวม 150,000 บาท โดยได้ดำเนินการจ่ายค่าสินไหมทดแทนโดยเร่งด่วน แก่ผู้รับผลประโยชน์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

Back to top button