CPF นัดเดียว ได้หมูยกฟาร์ม..!?

ดีลทุ่ม 11,845 ล้านบาท เข้าซื้อหุ้นบริษัท HyLife Investments Ltd. (HIL) ธุรกิจหมูครบวงจรในแคนาดา ของบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ถือเป็นอีกก้าวที่น่าสนใจในการรุกตลาดต่างประเทศ...


สำนักข่าวรัชดา

ดีลทุ่ม 11,845 ล้านบาท เข้าซื้อหุ้นบริษัท HyLife Investments Ltd. (HIL) ธุรกิจหมูครบวงจรในแคนาดา ของบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ถือเป็นอีกก้าวที่น่าสนใจในการรุกตลาดต่างประเทศ…

HyLife มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมือง La Broquerie รัฐแมนิโทบา ประเทศแคนาดา ทำธุรกิจหมูครบวงจรตั้งแต่การผลิตอาหารสัตว์ ฟาร์มเลี้ยงหมู โรงงานแปรรูปเนื้อหมู ธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ ธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ทำจากเนื้อหมู

ดังนั้น ในเชิงยุทธศาสตร์ดีลนี้ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับ CPF ค่อนข้างมาก

เริ่มจาก 1) ได้เปรียบในเรื่องของต้นทุนการผลิตที่ต่ำลง ทำให้มีมาร์จิ้นสูงขึ้น เนื่องจาก HyLife มีโรงงานแปรรูปเนื้อหมูตั้งอยู่ในแคนาดา 1 แห่ง และเม็กซิโกอีก 2 แห่ง ต้นทุนจึงต่ำกว่าการส่งผลิตภัณฑ์ไปจากประเทศไทย หรือเวียดนาม

2) ช่วยให้ CPF เปิดประตูสู่ตลาดอเมริกาเหนือได้ในอนาคต

3) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเจาะตลาดพรีเมียม โดยเฉพาะที่ญี่ปุ่น เนื่องจาก HyLife มีพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่าง Itochu Corporation ซึ่งทำตลาดพรีเมียมที่ญี่ปุ่นอยู่แล้ว

และ 4) ได้เทคโนโลยีในการผลิตเนื้อหมูเกรดพรีเมียมซึ่งมี Net Profit Margin สูงถึง 10% เทียบกับตลาดของ CPF ที่ 3%

นักวิเคราะห์คาดว่าดีลซื้อกิจการ Hylife จะช่วยเพิ่มส่วนแบ่งกำไรให้ CPF อีกประมาณ 900 ล้านบาทต่อปี เทียบกับราคาซื้อประมาณ 11,845 ล้านบาทคิดเป็น PER 13 เท่า ถือว่าไม่แพง

โดยคาดว่าจะเริ่มเห็นผล รับรู้รายได้ และกำไรจากดีลนี้เข้ามาทันทีในปีนี้

เรียกว่ายิงปืนนัดเดียว CPF ได้หมูไปทั้งฟาร์ม !!

เสริมให้ CPF เป็นหุ้นที่มีพื้นฐานแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น

แต่…น่าเสียดายที่ราคาหุ้น CPF กลับเย็นชา…ไม่ขานรับกับข่าวดีนี้เลย ราคายังคงป้วนเปี้ยนอยู่แถว 25-26 บาท…

นั่นเป็นเพราะนักลงทุนกังวลเรื่องงบไตรมาส 1/2562 ว่าจะกลับมาดีหรือไม่ ??

เนื่องจากปีที่ผ่านมา CPF เจอต้นทุนกดดัน ประกอบกับราคาหมูและไก่ปรับลดลงค่อนข้างมาก โดยเฉพาะในเวียดนาม

ฉุดให้กำไรสุทธิในปี 2561 ทำได้แค่ 15,531.47 ล้านบาท จากรายได้ 567,820.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปีก่อนที่มีกำไร 15,259.32 ล้านบาท จากรายได้ 523,179.98 ล้านบาท

ทั้ง ๆ ที่ CPF น่าจะทำได้ดีกว่านั้น !!

แม้ต้นปีนี้ราคาหมูและไก่ปรับสูงขึ้น แต่ก็ต้องติดตามว่าจะทันในงบไตรมาส 1/2562 หรือไม่ ??

ซึ่งหากผลออกมาดี ตามที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้ว่า CPF ไตรมาส 1/2562 จะฟื้นตัวกลับมาเป็นบวก เนื่องจากราคาเนื้อสัตว์เพิ่มขึ้นและต้นทุนวัตถุดิบลดลง โดยคาดมีกำไรปกติอยู่ที่ 2,450 ล้านบาท

ส่วนการลาออกของ “เจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์” จากประธานบอร์ด CPF คงไม่ได้มีนัยอะไรมากนัก เป็นเพียงการปรับโครงสร้างการบริหารเพื่อเปิดทางให้ผู้บริหารรุ่นใหม่เข้ามามีบทบาทมากขึ้นเท่านั้น

ก็คงทำให้ราคาหุ้น CPF กลับมาวิ่งสู้ฟัดได้อีกครั้ง !!

เพราะจะว่าไปแล้ว CPF ก็เป็นหุ้นพิมพ์นิยมอีกตัวที่ทั้งสถาบัน กองทุนต่างชาติ และนักลงทุนรายย่อย วิ่งเข้าใส่กันอยู่แล้ว

…อิ อิ อิ…

Back to top button