CCP สดใสรอบใหม่

ราคาหุ้นบนกระดานของ CCP เคลื่อนไหวร้อนแรงผิดปกติ ด้วยปริมาณการซื้อขายที่หนาแน่นแบบผิดหูผิดตาในรอบหลายปีจากเดิมที่แกว่งตัวในกรอบแคบแถวบริเวณ 0.30 บาท


คุณค่าบริษัท

ในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา กระทั่งปัจจุบัน ราคาหุ้นบนกระดานของ บริษัท ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี จำกัด (มหาชน) หรือ CCP เคลื่อนไหวร้อนแรงผิดปกติ ด้วยปริมาณการซื้อขายที่หนาแน่นแบบผิดหูผิดตาในรอบหลายปีจากเดิมที่แกว่งตัวในกรอบแคบแถวบริเวณ 0.30 บาท ด้านวอลุ่มการซื้อขายเข้ามาหนาแน่นวันละเกิน 10 ล้านบาท จากเดิมที่มีการซื้อขายหลักแสนบาท และเต็มที่ประมาณ 1 ล้านบาทเท่านั้น

แรงขับเคลื่อน สืบเนื่องจากมีการประเมินว่า ผลประกอบการในช่วงที่เหลือของปี 2563 ยังคงเติบโตดีต่อเนื่องจากงวดเดียวกันของปีก่อน ด้วยกลยุทธ์เชิงรุกของบริษัท ซึ่งช่วยเพิ่มรายได้ และลดต้นทุนของบริษัทลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

พร้อมทั้งจะช่วยเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นให้กับบริษัทได้อย่างต่อเนื่อง (อัตรากำไรขั้นต้นไตรมาส 1/2563 อยู่ที่ 16.11% จากไตรมาส 1/2562 ที่ 9.57%) และแม้ว่าปัจจัยการลงทุนก่อสร้างจากภาคเอกชนจะยังคงชะลอตัวอยู่ แต่ผลกระทบค่อนข้างจำกัด เนื่องจากบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากงานภาครัฐและภาคเอกชนที่ 80% ต่อ 20%

แม้ว่าภาพรวมอุตสาหกรรมยังคงมีการแข่งขันที่ค่อนข้างรุนแรงด้านราคา แต่บริษัทได้มีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การดำเนินงานไปในเชิงรุกมากขึ้นด้วยการเน้นไปในกลุ่มลูกค้าที่มีคุณภาพสำหรับบริษัทซึ่งทำให้บริษัทมีอัตรากำไรที่สูงขึ้น (ประมาณ 10%) มากกว่ากลุ่มลูกค้าที่มียอดสั่งซื้อที่มากแต่บริษัทได้รับอัตรากำไรขั้นต้นที่ต่ำกว่ามาก (ประมาณ 3-5%) และการใช้กลยุทธ์บริษัทจากการเน้นจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีตผสมเสร็จเป็นการเน้นในส่วนงานการจัดการประสานงานกับบริษัทคู่ค้ามากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น พร้อมกับต้นทุนการขนส่งที่ลดลง ทำให้บริษัทสามารถทำการตลาดในเชิงรุกได้มากขึ้น

ปัจจุบันบริษัทยังคงมีการสำรองกำลังการผลิตเอาไว้ (ในปี 2562 ใช้กำลังการผลิตราว 23% ของกำลังการผลิตคอนกรีตผสมเสร็จและคอนกรีตสำเร็จรูป) ซึ่งเป็นแนวทางของทางบริษัทที่จะพยายามไม่รับงานที่มีอัตรากำไรต่ำในปัจจุบัน เพื่อรองรับงานที่มีคุณภาพและอัตรากำไรสูงในอนาคต โดยบริษัทคาดหมายการลงทุนจากภาครัฐที่จะเข้ามาอย่างต่อเนื่องจากการกระตุ้นเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ตอกย้ำด้วยผลประกอบการในช่วงไตรมาส 1 ปี 2563 ที่ผ่านมา บริษัทสามารถมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 718.88 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 637.98 ล้านบาท เนื่องจากมีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทมีกำไรเติบโตก้าวกระโดดมาอยู่ที่ 39.94 ล้านบาท หรือ 0.0144 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไร 0.54 ล้านบาท หรือ 0.0002 บาทต่อหุ้น

ถือว่าผลประกอบการดีต่อเนื่องจากปี 2562 โดยทั้งปีสามารถทำกำไรสุทธิ 64.15 ล้านบาท นับว่าสัญญาณฟื้นตัวของผลประกอบมีความชัดเจนมาขึ้นหลังจากปี 2561 ที่ขาดทุนสุทธิ  70.63 ล้านบาท และปี 2560 ที่ขาดทุนสุทธิ 22.53 ล้านบาท

ดังนั้นเมื่อพื้นฐานของบริษัทกลับมาแข็งแกร่ง ราคาหุ้นก็จะคล้อยตามกัน !!!

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

  1. บริษัท ทีปกรโฮลดิ้ง จำกัด 1,074,026,828 หุ้น 38.80%
  2. นายประทีป ทีปกรสุขเกษม 270,562,843 หุ้น 9.77%
  3. นายสุวรรณ พรมีไชย 95,978,700 หุ้น 3.47%
  4. นายนพดล พรมีไชย 70,000,000 หุ้น 2.53%
  5. น.ส.สกุล เติมอริยบุตร 52,305,993 หุ้น 1.89%

รายชื่อกรรมการ

  1. นายประทีป ทีปกรสุขเกษม ประธานกรรมการบริษัท
  2. นายอาทิตย์ ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ, กรรมการ
  3. นางชลธิชา ทีปกรสุขเกษม กรรมการ
  4. นายดาวฤทธิ์ ทองนิ่ม กรรมการ
  5. นายสมาน เชื้อจีน กรรมการ

Back to top button