ทองคำรอดีดกลับ

ผู้บริหารและนักวิเคราะห์ในธุรกิจทองคำ ต่างเชื่อมั่นว่า ทองคำจะกลับเข้าสู่ขาขึ้นอีกได้


ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร

ผู้บริหารและนักวิเคราะห์ในธุรกิจทองคำ ต่างเชื่อมั่นว่า ทองคำจะกลับเข้าสู่ขาขึ้นอีกได้

เพียงแต่ว่าอาจจะยังไม่ใช่ช่วงวันสองวัน หรือ 1-2 เดือนนี้

ทองคำเพิ่งจะขึ้นไปทำสถิติสูงสุดที่ระดับ 2,075 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์

ราคาดังกล่าวหากเทียบกับเมื่อช่วงต้นปีอยู่ที่ 1,517 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือขึ้นมากว่า 20%

หลังจากนั้น ราคาทองคำค่อย ๆ ร่วงลงเกือบทุกวัน

และลงมาอยู่บริเวณ 1,760 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์

ทว่า พอราคาลงมาที่ระดับดังกล่าว กลับมีแรงซื้อเข้ามาจำนวนมาก และทำให้ราคาทองคำดีดกลับขึ้นอย่างรวดเร็วมายืนเหนือ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์

การมีแรงซื้อเข้ามาจนดันราคาดีดกลับ ถือว่ามีนัยสำคัญด้านความต้องการทองคำ

เพราะถึงอย่างไรก็ยังเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ

นักลงทุนทั้งกองทุนต่าง ๆ และรายบุคคล ที่มักจะกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์หลากหลายประเภท

ต่างยังต้องมีทองคำอยู่ในพอร์ต

ใครที่กังวลว่าทองคำกำลังพลิกเป็นขาลง เลยมีคำแนะนำว่า อย่าไปกังวล

ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ราคาพุ่งขึ้นต่อเนื่อง

เพียงแต่ว่าบางช่วงบางสถานการณ์ อาจจะมีพักฐาน ย่อตัวลงมาบ้าง

หรือคล้าย ๆ กับตลาดหุ้น หุ้นหลาย ๆ ตัวนั่นแหละ

ส่วนปัจจัยที่จะเข้ามาดันราคาทองคำดีดเป็นขาขึ้นอีกครั้ง มีการวิเคราะห์กันว่า มาจากนโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือ QE

นั่นคือ จะมีเข้ามาอย่างมหาศาล

และแม้ว่าจะเริ่มมีวัคซีน (โควิด-19) ออกมาใช้ (เริ่มจากประเทศอังกฤษ)

แต่ทุกอย่าง กว่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ อาจจะต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 1-2 ปีข้างหน้า

มีการยกตัวอย่างมาตรการ QE เมื่อปี 2554

มีเงินไหลเข้ามาในตลาดทองคำ และดันราคาขึ้นไปสูงสุด 1,920 สหรัฐฯ ต่อออนซ์

ต่อจากนั้นราคาทองคำค่อย ๆ ปรับลงในปี 2556 หลังจากยกเลิกเรื่องมาตรการ QE และราคาทองลงมาสู่ระดับใกล้ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์

ส่วนในรอบนี้ นักวิเคราะห์ต่างประเมินว่า ราคาทองคำไม่น่าจะลงมาลึกเหมือนกับในอดีต

เหตุผลเพราะต้นทุนหน้าเหมืองล่าสุดก็อยู่แถว ๆ 1,000 ดอลลาร์ อยู่แล้ว

มีคำถามว่า แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าช่วงไหนเลิกทำ QE

คำตอบคือ มีคำแนะนำว่า ให้ดูช่วงดอกเบี้ยเริ่มกลับมาเป็นขาขึ้น

และแน่นอนว่า ดอกเบี้ยที่จะกลับมาขึ้นนั้น จากการวิเคราะห์ของบรรดานักการเงิน ต่างฟันธงตรงกันว่า ยังไม่ใช่ช่วงปี 2564 อย่างแน่นอน

ส่วนปี 2565 ก็ยังไม่ชัวร์ว่าจะได้ปรับขึ้นหรือไม่

หรือหากจะขึ้น ก็อาจเพียงแค่ครั้งเดียว

นอกจากเรื่องดอกเบี้ย

ยังมีคำแนะนำให้ดูตัวเลขการจ้างงาน อัตราเงินเฟ้อ

หากตัวเลขเหล่านี้ดีขึ้นต่อเนื่อง นั่นคือสัญญาณของราคาทองคำที่กำลังกลับตัวลงอีกครั้ง จากเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว และนักลงทุนมีทางเลือกในการลงทุนแต่ละสินทรัพย์มากขึ้น

แต่นั่นคือมุมมองแบบระยะยาวจริง ๆ

ส่วนในระยะสั้น ราคาทองคำจะยังผันผวน ถึงผันผวนมากต่อไปอีก

ล่าสุดผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่มีมุมมองว่า Gold Spot ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 1,719-1,900 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ออนซ์ ด้านราคาทองคำแท่งในประเทศความบริสุทธิ์ 96.5% ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 24,900-27,200 บาทต่อน้ำหนัก 1 บาททองคำ

คำแนะนำการลงทุนทองคำในเดือน ธ.ค. 63 ผู้ค้าทองคำรายใหญ่ต่างแนะนำให้รอดูการสร้างฐานของราคาทอง

หากยังคงรักษาระดับไว้อยู่เหนือแนวรับที่บริเวณ 1,755 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดของเดือน ก.ค. 63 ได้อย่างแข็งแกร่ง

ในระยะยาวคาดว่าจะยังคงรักษาแนวโน้มเชิงบวกไว้ได้

Back to top button