CK รอรับแบ็กล็อกหนุนรอบใหม่

มีการวิเคราะห์กันว่าผลประกอบการของ CK ใกล้กลับสู่ขาขึ้น ด้วยทิศทางของ Backlog ที่จะเริ่มเข้ามา โดยเตรียมเข้าสู่ S Curve รอบใหม่


คุณค่าบริษัท

มีการวิเคราะห์กันว่าผลประกอบการของ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK ใกล้กลับสู่ขาขึ้น ด้วยทิศทางของ Backlog ที่จะเริ่มเข้ามา โดยเตรียมเข้าสู่ S Curve รอบใหม่

ทั้งนี้คาดว่าจะหนุนจากการเร่งผลักดันโครงการขนาดใหญ่ที่ค้างท่อของรัฐบาล โดย CK คาดหวังจะได้รับงานใหม่ราว 3 แสนล้านบาท (หากไม่รวมสายสีส้มอยู่ที่ 1.7 แสนล้านบาท) และคาดอย่างน้อย ณ สิ้นปีนี้ Backlog จะกลับไปแตะระดับ 1 แสนล้านบาทได้จากปัจจุบันที่เพียง 3.1 หมื่นล้านบาท หนุนโดยงานรถไฟทางคู่, สายสีม่วงใต้ ที่จะเปิดประมูลในไตรมาส 2/2564-ไตรมาส 3/2564, และโรงไฟฟ้าหลวงพระบางที่จะเห็นความชัดเจนในครึ่งหลังของปี 2564

ขณะเดียวกัน คาดรายได้ธุรกิจก่อสร้างไตรมาส 2/2564 จะทรงตัวระดับต่ำ แต่ปรับตัวดีขึ้นในครึ่งหลังของปี 2564 และเร่งตัวในปี 2565 หนุนโดย backlog ใหม่ โดยบริษัทคงเป้ารายได้ปี 2564 ที่ราว 1.6 หมื่นล้านบาท พร้อมกับเชื่อมั่นว่าการระบาด COVID-19 ในแคมป์คนงานอุตสาหกรรมก่อสร้างไม่กระทบ progress งาน โดยบริษัทมีการตรวจคัดกรองตลอดและส่วนใหญ่เป็นแรงงานไทย

นอกจากนี้ มองว่าราคาเหล็กที่ปรับตัวขึ้นยังไม่ส่งผลกระทบมากและเชื่อมั่นในการบริหารจัดการ โดยสำหรับงานเก่าส่วนใหญ่ผ่านเฟสที่ต้องใช้เหล็กเยอะหรือมีการสต๊อกไว้ล่วงหน้าแล้ว ขณะที่งานรถไฟทางคู่ งานก่อสร้างต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 1 ปี กว่าจะเข้าสู่เฟสที่ใช้เหล็กเยอะ Implication

ส่วนผลการดำเนินงานไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2564 บริษัทมีรายได้รวมลดลงเหลือ 3,543.79 ล้านบาท เมื่อเทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อน 5,614.85 ล้านบาท แต่บริษัทกลับพลิกมีกำไรสุทธิ 207.68 ล้านบาท หรือ 0.13 บาทต่อหุ้น เมื่อเทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 113.59 ล้านบาท หรือ 0.07 บาทต่อหุ้น สาเหตุหลักมาจากบริษัทบันทึกดอกเบี้ยรับซึ่งเป็นหนี้เงินค่าก่อสร้างที่เกิดจากการขยายระยะเวลาตามสัญญาจ้างก่อสร้างทางพิเศษสายบางพลี-สุขสวัสดิ์ (บางพลี-บางขุนเทียน) จำนวน 382.91 ล้านบาท ตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด

อย่างไรก็ตาม ทาง บล.เคทีบีเอสที ประมาณการกำไรปกติปี 2564 ที่ 882 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 125% เมื่อเทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อน หลัก ๆ หนุนโดยผลการดำเนินงานบริษัทร่วม CKP และ BEM ที่ฟื้นตัวสูง ด้านธุรกิจก่อสร้าง สำหรับโครงการอุโมงค์ระบายน้ำของกปน.คาดจะเริ่มงานได้ทันที ขณะที่โครงการรถไฟทางคู่เด่นชัยฯ จะลงนามสัญญาได้ในไตรมาส 3/2564 และเริ่มงานก่อสร้างในไตรมาส 4/2564

เบื้องต้นประเมินงานรถไฟทางคู่จะเป็น upside ต่อกำไรปี 2565 อย่างน้อยเพิ่มขึ้นราว 5% สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2564 โดยคาดมีโอกาสพลิกเป็นกำไร หนุนโดยผลการดำเนินงานบริษัทร่วม CKP ที่จะเร่งตัวมากขึ้นจากการเริ่มเข้าสู่ฤดูฝน และรายได้เงินปันผลจาก TTW จำนวน 232 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ธุรกิจก่อสร้างคาดทรงตัวจากไตรมาสก่อน แต่หดตัวจากงวดเดียวกันของปีก่อน เป็นไปตาม backlog ที่อยู่ในระดับต่ำ

ทั้งนี้ ด้วยแนวโน้ม backlog ที่ใกล้กลับสู่ช่วงขาขึ้น และคาดจะสามารถอยู่ในระดับสูงได้อย่างน้อย 5-6 ปี นอกจากนี้ประมาณการที่ยังมี upside จากโครงการทางคู่เด่นชัยฯ อย่างน้อย 0.30 บาท/หุ้น ยังแนะนำ “ซื้อ” และปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 21.00 บาท

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

  1. บริษัท มหาศิริ สยาม จำกัด 247,512,365 หุ้น 14.61%
  2. บริษัท ช.การช่าง โฮลดิ้ง จำกัด 189,396,530 หุ้น 11.18%
  3. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 123,690,436 หุ้น 7.30%
  4. บริษัท ซีเค.ออฟฟิซ ทาวเวอร์ จำกัด 86,048,212 หุ้น 5.08%
  5. ธนาคาร กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) 38,950,000 หุ้น 2.30%

รายชื่อกรรมการ

  1. นายอัศวิน คงสิริ ประธานกรรมการ, กรรมการอิสระ, กรรมการตรวจสอบ
  2. นายปลิว ตรีวิศวเวทย์ ประธานกรรมการบริหาร, กรรมการ
  3. น.ส.สุภามาส ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่, กรรมการ
  4. นายณรงค์ แสงสุริยะ กรรมการ
  5. นายประเสริฐ มริตตนะพร กรรมการ

Back to top button