META อาการน่าเป็นห่วง.?

หลังจากบริษัท เมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ META ซึ่งแปลงร่างมาจากบริษัท วินเทจ วิศวกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ VTE สตอรี่ที่มีผลต่อราคาหุ้นและปัจจัยพื้นฐาน หนีไม่พ้นโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์มินบู ในเมียนมา ที่มีกำลังการผลิตรวม 220 เมกะวัตต์


หลังจากบริษัท เมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ META ซึ่งแปลงร่างมาจากบริษัท วินเทจ วิศวกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ VTE สตอรี่ที่มีผลต่อราคาหุ้นและปัจจัยพื้นฐาน หนีไม่พ้นโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์มินบู ในเมียนมา ที่มีกำลังการผลิตรวม 220 เมกะวัตต์

แม้เฟสแรกจะ COD ไปแล้ว 50 เมกะวัตต์ ก็สร้างความฮือฮาให้กับนักลงทุนและผู้ถือหุ้นไม่น้อย แต่กว่าจะเสร็จเฟสแรก 50 เมกะวัตต์ ต้องบอกว่าเลือดตาแทบกระเด็น..!!

META ถูกคาดหวังว่าจะมีการพัฒนาโรงไฟฟ้ามินบู เฟส 2-4 ให้ครบตามจำนวน 220 เมกะวัตต์ ที่ได้เซ็นสัญญาไว้แล้ว…

แต่จากกรณีเกิดรัฐประหารในเมียนมา บวกกับวิกฤตโควิด ทำให้เห็นความยากลำบากของ META…ซึ่งส่อเค้าลางมาตั้งแต่งบไตรมาส 1/2564 โดยพบว่ารายได้จากการดำเนินงานหายไป อันมีสาเหตุมาจากโรงไฟฟ้ามินบู เฟส 2 ไม่สามารถดำเนินการได้ตามแผน เนื่องจากมีการปิดการเข้า-ออกประเทศเมียนมา ทำให้ผู้รับเหมาช่วงไม่สามารถเดินทางไปยังไซต์งานเพื่อดำเนินการก่อสร้างได้

ส่งผลให้ไตรมาสแรกปีนี้ มีตัวเลขขาดทุนอยู่ที่ 25 ล้านบาท…

สถานการณ์ความยากลำบากของ META ยิ่งชัดเจนมากขึ้น จากการขอเลื่อนจ่ายค่าก่อสร้างโรงไฟฟ้ามินบู เฟส 2-4 ของ GEP (Myanmar) Company Limited (GEPM) ซึ่งเป็นเจ้าของโครงการ มูลค่า 13,069,907.91 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 410 ล้านบาท

ที่จริง GEPM มีกำหนดที่จะชำระเงินให้กับ META ตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค. 2564 แต่ขอเลื่อนมาจ่ายในวันที่ 30 มิ.ย. 2564 แทน โดยล่าสุดจ่ายมาแค่ 100,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3.14 ล้านบาทเท่านั้น เหลืออีก 12,619,907.91 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 403 ล้านบาท ขอเลื่อนไปจ่ายวันที่ 30 ก.ย. 2564

เมื่อ GEPM เลื่อนจ่ายค่าก่อสร้างแบบนี้…ถ้าต้องการให้โครงการรันต่อ ก็ต้องเข้าเนื้อ META น่ะสิ…

ปัญหาอยู่ที่ META จะเอาเงินมาจากไหน..?

เพราะถ้าไปดูในงบการเงิน ณ สิ้นเดือน มี.ค. 2564 มีกระแสเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดแค่ 5 ล้านบาทเท่านั้น…ครั้นจะไปกู้แบงก์ในช่วงสถานการณ์อย่างนี้ คงต้องแลกมาด้วยดอกเบี้ยที่ค่อนข้างสูง หรือจะออกหุ้นกู้ ตั๋วบีอี ก็อาจจะไม่ใช่จังหวะที่เหมาะสม…

แต่หาก META ไม่ยอมเข้าเนื้อ โรงไฟฟ้ามินบูซึ่งถือเป็นหัวใจของ META ก็จะต้องเลื่อนออกไปอีก…

ปัญหาถ้าเฟส 2-4 ถูกเลื่อนออกไป แน่นอนว่ารายได้ก็จะไม่เกิด… META จะรับรู้อินคัมแค่เฟสแรกจำนวน 50 เมกะวัตต์เท่านั้น อีก 170 เมกะวัตต์ ที่เหลือก็ไม่เกิดมูลค่าเพิ่มแต่อย่างใด…

เมื่อไม่มีของใหม่เข้ามาเติม อาจทำให้เกิดปัญหาสภาพคล่องตามมาได้

แหม๊…ดูแล้ว META ก็ไม่ต่างจากเป็นโรคหัวใจเลยนะเนี่ย ระวังหัวใจวายได้น้า…

เอาเป็นว่า ไม่ว่าจะเลือกทางไหน..? ก็โดนทั้งขึ้นทั้งล่องแหละ อยู่ที่ว่าจะเลือกเจ็บมากหรือเจ็บน้อยกว่ากัน

งานนี้คงต้องไปถาม “ฌอน-ศุภศิษฏ์ โภคินจารุรัศมิ์” แล้วล่ะ

แต่ถ้าดูจากสถานการณ์ตอนนี้ บอกได้คำเดียวว่า META อาการน่าเป็นห่วง..!?

ส่วนทั้งหมดทั้งมวลนี้ จะเป็นสาเหตุที่ทำให้ กรรมการอิสระ และประธานกรรมการตรวจสอบ ลาออกหรือเปล่านั้น..? ก็ไม่รู้สินะ…

…อิ อิ อิ…

Back to top button