ORI ยอดพรีเซล Q2 พุ่ง – หยุดก่อสร้างไม่กระทบ

มีการวิเคราะห์ต่อยอด Presales ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2564 ของ ORI ว่าอาจทำได้ดีกว่าคาด และสูงสุดในรอบ 7 ไตรมาสก็ว่าได้


คุณค่าบริษัท

มีการวิเคราะห์ต่อยอด Presales ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2564 ของบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ว่าอาจทำได้ดีกว่าคาด และสูงสุดในรอบ 7 ไตรมาสก็ว่าได้ เนื่องจากทางบริษัทมีการแจ้งยอด presales ไตรมาส 2 อยู่ที่ 8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 4% จากไตรมาสก่อน

เนื่องจากตั้งแต่เริ่มได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยแบ่งเป็นจากคอนโดฯ 75% และแนวราบ 25% โดยได้ผลบวกจากการเปิดตัวโครงการใหม่ ได้แก่ Hampton ศรีราชา มูลค่าโครงการ 1.4 พันล้านบาท ได้รับการตอบรับที่ดี สามารถทำยอดขายได้สูงกว่า 70% รวมถึงโครงการที่เปิดขายในไตรมาส 1 ปี 2564 ยังทำ presales ได้ดีต่อเนื่อง

นอกจากนั้น presales ส่วนใหญ่ยังมาจากโครงการพร้อมอยู่ (ready to move) ซึ่งจะสามารถรับรู้รายได้ได้เร็วในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 เป็นผลจากการจัดกิจกรรมการตลาดได้ตรงลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ดังนั้นทำให้ presales ในครึ่งปีแรกอยู่ที่ 1.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37% จากงวดเดียวกันของปีก่อน คิดเป็น 54% จากเป้าหมายทั้งปีที่ 2.9 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

ส่วนจากกรณีรัฐบาลประกาศสั่งปิดแคมป์คนงาน และให้หยุดก่อสร้างในพื้นที่กทม.และปริมณฑล 30 วัน ทางนักวิเคราะห์ประเมินว่าอาจมีผลต่อแผนเปิดตัวโครงการใหม่ในปี 2564 เลื่อนออกไปเล็กน้อย 1-2 โครงการ (จากทั้งหมด 20 โครงการ) จากโครงการแนวราบ ส่วนโครงการคอนโดฯ จะยังเปิดตัวได้ตามแผน ทำให้จะไม่มีผลกระทบต่อเป้าหมาย presales ในปีนี้มากนัก

ขณะที่ ยอดโอนในส่วนของคอนโดฯ ใหม่ที่จะเริ่มโอนในครึ่งปีหลังมีทั้งหมด 4 โครงการ โดยอยู่ในไตรมาส 3 ปี 2564 จำนวน 3 โครงการ ซึ่งเป็นโครงการใน จ.ระยอง 1 โครงการ ไม่ได้รับผลกระทบ ส่วนในกทม.มี 2 โครงการ ได้แก่ Brixton pet&play สุขุมวิท 107 ปัจจุบันก่อสร้างแล้วเสร็จและเริ่มโอนได้เร็วกว่าแผน และ Park Origin พญาไท ซึ่งเป็นโครงการ highlight ในปีนี้อาจล่าช้ากว่าแผนเล็กน้อย แต่ยังสามารถเร่งโอนในช่วงที่เหลือของปีได้ตามแผน

นอกจากนี้ ในไตรมาส 4 ปี 2564 จะมีคอนโดฯ เริ่มโอน 1 โครงการ ได้แก่ Original สุขุมวิท 107 มูลค่าโครงการเพียง 400 ล้านบาท หากต้องเลื่อนออกไป จะกระทบกับยอดโอนปีนี้ไม่มาก สำหรับโครงการแนวราบคาดว่าจะกลับมาเร่งก่อสร้างและโอนได้ตามแผน

ดังนั้น จากผลประเมินข้างต้นทำให้นักวิเคราะห์ บล.เคทีบีเอสที ยังประเมินยอดโอนปี 2564 ที่ 1.8 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% จากงวดเดียวกันของปีก่อน (รวมโครงการ JV) และกำไรสุทธิที่ 3.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้ ยังคงแนะนำ “ซื้อ” ประเมินราคาเป้าหมายที่ 13.00 บาท โดยมี key catalyst จาก backlog ที่รอรับรู้เป็นรายได้ปี 2564 ที่สูงไม่ต่ำกว่า 80% แล้ว ทำให้มีความเชื่อมั่นว่ารายได้ในปี 2564 จะยังทำได้ตามเป้าหมาย ส่วน key risk จากประกาศหยุดก่อสร้างในพื้นที่กทม.และปริมณฑล 30 วัน จะยังเป็นปัจจัย overhang ราคาหุ้น รวมถึงหากแรงงานยังไม่สามารถกลับมาก่อสร้างหลังจาก 30 วัน อาจกระทบต่อแผนการโอนและกำไรในปีนี้ได้

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

  1. นายพีระพงศ์ จรูญเอก 693,606,354 หุ้น 28.28%
  2. บริษัท ทุนพีรดา จำกัด 618,779,918 หุ้น 25.23%
  3. นางอารดา จรูญเอก 167,457,556 หุ้น 6.83%
  4. นายสมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล 100,665,000 หุ้น 4.10%
  5. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 90,773,884 หุ้น 3.70%

รายชื่อกรรมการ

  1. นายลักษณะน้อย พึ่งรัศมี ประธานกรรมการ, กรรมการอิสระ
  2. นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ประธานกรรมการบริหารบริษัท, กรรมการ
  3. นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, กรรมการ
  4. นายนิวัติ ลมุนพันธ์ กรรมการ
  5. นายเมธา จันทร์แจ่มจรัส กรรมการ

Back to top button