AIE-AI ลูกรุ่ง..แม่ร่วง.!?

หาก AIE ไม่สะดุดยอดหญ้าซะก่อน ก็เป็นไปได้ว่า ไตรมาส 3 น่าจะดีต่อเนื่อง... เอาเป็นว่า ใครชอบตัวไหน เอาที่สบายใจแล้วกัน...


ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ดูเหมือนคู่แม่ลูก บริษัท เอเชียน อินซูเลเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ AI และบริษัท เอไอ เอนเนอร์จี จำกัด (มหาชน) หรือ AIE เป็นหุ้นที่มีการเข้ามาเก็งกำไรอย่างคึกคัก ทำให้ราคาวิ่งกระจุยกระจายมาตลอด พร้อม ๆ กับความคาดหวังงบจะออกมาดี

หลังจากเปิดงบงวดปี 2563 ทำได้ดีทั้งแม่และลูก…ตัวแม่ AI ฟาดกำไรสุทธิไป 749 ล้านบาท จากปีก่อนทำได้แค่ 295 ล้านบาท ส่วนตัวลูก AIE พลิกมามีกำไรสุทธิ 488 ล้านบาท หลังจากขาดทุนซ้ำซากมาหลายปีดีดัก…

ก็ถูกคาดหวังว่าแม่ลูกคู่นี้จะทำผลงานได้เริ่ดสะแมนแตนต่อเนื่อง…

แต่ดูเหมือนความคาดหวังมักจะสวนทางกับความเป็นจริงนะ…เมื่อ AI เปิดงบออกมา กำไรทุรดต่อเนื่องสองไตรมาสซ้อน โดยเฉพาะไตรมาส 2/2564 กำไรสุทธิเหลือแค่ 57 ล้านบาท ลดลง 62% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 154 ล้านบาท

โอเค…แม้ขาของธุรกิจน้ำมันไบโอดีเซล (B100) น้ำมันพืชและผลผลิตพลอยได้ มีรายได้เพิ่มขึ้น 362 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 34.82% อยู่ที่ 1,404 ล้านบาท (ซึ่งเป็นการรับรู้รายได้มาจากบริษัทลูก AIE) แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะชดเชยกับสองธุรกิจหลักที่รายได้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ…

นำโดยรายได้จากธุรกิจผลิตภัณฑ์ลูกถ้วยไฟฟ้าและวัตถุดิบอยู่ที่ 100 ล้านบาท ลดลง 156 ล้านบาท หรือลดลง 60.78% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่เคยทำได้ 257 ล้านบาท ส่วนรายได้จากการรับเหมาก่อสร้างอยู่ที่ 3 ล้านบาท ลดลง 44 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 48 ล้านบาท

ขณะที่ขาของต้นทุนก็เพิ่มขึ้น โดยมีค่าใช้จ่ายรวมอยู่ที่ 1,425 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 256 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 21.91% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีค่าใช้จ่ายรวม 1,169 ล้านบาท

ส่งผลให้ครึ่งปีแรก AI มีกำไรสุทธิ 178 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 321 ล้านบาท…

ฟาก AIE ไตรมาส 2 ปีนี้ ยังทำผลงานได้ดี โชว์กำไรสุทธิ 76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58.15% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 48 ล้านบาท

หลัก ๆ มาจากรายได้จากการขายและบริการรวมอยู่ที่ 1,404 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 362 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 34.82% โดยเฉพาะรายได้จากการขายไบโอดีเซล น้ำมันบริโภค กลีเซอรีนบริสุทธิ์และผลพลอยได้ ที่เพิ่มขึ้น 367 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 35.46%

ส่งผลให้ครึ่งปีแรก AIE ตุนกำไรสุทธิไว้แล้ว 187 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 180 ล้านบาท

ผลงานในไตรมาส 2 ปีนี้ AIE-AI จึงมีสภาพลูกรุ่ง…แม่ร่วงไปโดยปริยาย..!?

ถ้าถามว่าแม่ลูกคู่นี้ใครเด่น…ใครดังกว่ากัน…อันนี้คงตอบยาก ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน…

แต่ถ้าให้วิเคราะห์ AI ตัวแม่ ผลประกอบการค่อนข้างหวือหวา โดยจะขึ้นอยู่กับการส่งมอบงานของภาครัฐ ถ้าช่วงไหนรัฐมีการลงทุนขยายเสาไฟฟ้าเพิ่ม ก็ขายลูกถ้วยได้มาก แต่จากการที่ภาครัฐมีนโยบายเอาสายไฟลงดิน ก็มีผลทำให้ความต้องการลูกถ้วยน้อยลง การเปลี่ยนตรงนี้ทำให้ดีมานด์ลูกถ้วยหายไป

ประกอบกับช่วงโควิดทำให้งานภาครัฐหยุดชะงัก หรือมีงานก็ส่งมอบไม่ได้ ก็ต้องลุ้นกันต่อว่าไตรมาส 3 นี้ จะมีงานมากขึ้นหรือไม่..?

ส่วน AIE ตัวลูกนั้นก็ได้ดีจากนโยบายของรัฐที่กำหนดให้ใช้ไบโอดีเซลเป็นส่วนผสมในน้ำมันดีเซลด้วยสัดส่วนที่สูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็น B7 B10 หรือ B20 ส่งผลให้ความต้องการใช้ไบโอดีเซล B100 ของ AIE มีมากขึ้น ขณะที่ในช่วงโควิด แม้คนจะเดินทางน้อยลง แต่รถขนส่งยังเยอะ ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันดีเซล B7 B10 หรือ B20 ยังเยอะ AIE ก็ได้ประโยชน์

ดังนั้น หาก AIE ไม่สะดุดยอดหญ้าซะก่อน ก็เป็นไปได้ว่า ไตรมาส 3 น่าจะดีต่อเนื่อง…

เอาเป็นว่า ใครชอบตัวไหน เอาที่สบายใจแล้วกัน…

…อิ อิ อิ…

Back to top button