DOHOME โตเด่นหลังคลายล็อกดาวน์

มีการวิเคราะห์กันว่า DOHOME ในช่วง Q3/64 สาขาเดิม SSSG มีโอกาสเติบโตได้ราว 20% โดย ก.ค. 2564 เติบโตราว 20-22% จากงวดเดียวกันของปีก่อน


คอลัมน์คุณค่าบริษัท 

มีการวิเคราะห์กันว่า บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) หรือ DOHOME ในช่วงไตรมาส 3 ปี 2564 สาขาเดิม SSSG มีโอกาสเติบโตได้ราว 20% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดย 2 อาทิตย์แรกของเดือน ก.ค. 2564 เติบโตราว 20-22% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้ หลังรัฐบาลประกาศมาตราล็อกดาวน์ ทำให้ต้องปิด Dohome size L 2 สาขา และจำกัดการขายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และเฟอร์นิเจอร์ ทำให้ SSSG ในช่วงวันที่ 20-30 ก.ค. 2564 SSSG เติบโตได้เพียง 12% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ส่วนในเดือน ส.ค. 2564 SSSG ปรับขึ้นเล็กน้อยเติบโตเพิ่มขึ้น 18% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และล่าสุดหลังรัฐบาลเริ่มคลายล็อกดาวน์ ทำให้ SSSG ปรับขึ้น 30% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และในเดือน ก.ย. 2564 จากต้นเดือนถึงปัจจุบันจาก pent up demand

อย่างไรก็ตาม บริษัทจะเปิด Dohome size L อีก 2 สาขาในไตรมาส 4 ปี 2564 ได้แก่ สาขาชลบุรี อมตะนคร ในเดือน พ.ย. 2564 และสาขาสุราชธานี ในเดือน ธ.ค. 2564 นอกจากนี้บริษัทยังคงเป้าการขยายสาขาอีก 5 สาขาในปี 2565 โดยได้เริ่มการก่อสร้างแล้ว 2 สาขา คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในครึ่งแรกของปี 2565 โดย 1 สาขาที่จะเปิดในไตรมาส 1 ปี 2565 อยู่ในภาคใต้ และอีก 1 สาขาที่จะเปิดในไตรมาส 2 ปี 2565 อยู่ในภาคกลาง ทั้งนี้ 3 สาขาได้รับการอนุมัติเงินกู้จากสภาบันการเงินแล้ว อีก 1 สาขาอยู่ระหว่างการเจรจา คาดว่าจะบรรลุได้ตามเป้า

ขณะที่ ทาง บล.เคทีบีเอสที คาดการกำไรสุทธิปี 2564 ที่ 2.03 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 180% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งกำไรในครึ่งแรกของปี 2564 คิดเป็น 56% ของกำไรทั้งปี โดยคาดว่ารายได้ในไตรมาส 3 ปี 2564 จะอ่อนตัวลง เล็กน้อยราว 5% จากไตรมาสก่อน (แต่ยังเติบโตได้เพิ่มขึ้น 30% จากงวดเดียวกันของปีก่อน) จากผลกระทบของการล็อกดาวน์ และคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะอ่อนตัวลงเนื่องจากถูกจำกัดการขายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และเฟอร์นิเจอร์ที่มีมาร์จิ้นสูงในบางสาขา อย่างไรก็ตามหลังรัฐบาลคลายล็อกดาวน์ เริ่มเห็นการฟื้นตัวของ SSSG ที่โดดเด่น

นอกจากนี้ คงกำไรสุทธิปี 2565 ที่2.26 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% จากงวดเดียวกันของปีก่อน หลัก ๆ มาจากการขยายสาขาอีก 5 สาขา และการปรับกลยุทธ์ให้มีอัตรากำไรขั้นต้นเติบโตได้อย่างยั่งยืน

ส่วนผลการดำเนินงานไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2564 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 6,397.41 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 4,628.93 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิขยับขึ้นมาอยู่ที่ 601.31 ล้านบาท หรือ 0.25631 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 146.39 ล้านบาท หรือ 0.06240 บาทต่อหุ้น เป็นผลจากรายได้การขายและค่าบริการเพิ่มขึ้น โดยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากสาขาเดิม และรายได้จากสาขาใหม่

ขณะเดียวกัน ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรก สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2564 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 12,529.45 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 9,236.36 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิขยับขึ้นมาอยู่ที่ 1,144.46 ล้านบาท หรือ 0.48784 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 323.69 ล้านบาท หรือ 0.13798 บาทต่อหุ้น

ท้ายสุด นักวิเคราะห์มองว่า DOHOME ยังคงเหมาะสมที่จะเทรดสูงกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่ม เนื่องจาก EPS เติบโตด้วยค่าเฉลี่ย (2563-2566) สูงสุดที่เพิ่มขึ้น 50% ประเมินราคาเป้าหมาย 33.50 บาท แนะนำ “ซื้อ”

….

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

  1. บริษัท ดูโฮมโฮลดิ้ง จำกัด 630,000,000 หุ้น 29.09%
  2. นายอดิศักดิ์ ตั้งมิตรประชา 252,000,000 หุ้น 11.64%
  3. นางนาตยา ตั้งมิตรประชา 189,000,000 หุ้น 8.73%
  4. น.ส.อริยา ตั้งมิตรประชา 126,000,000 หุ้น 5.82%
  5. นางสลิลทิพ เรืองสุทธิภาพ 126,000,000 หุ้น 5.82%

รายชื่อกรรมการ

  1. นายฉัตรชัย ตวงรัตนพันธ์ ประธานกรรมการ, กรรมการอิสระ, กรรมการตรวจสอบ
  2. นายอดิศักดิ์ ตั้งมิตรประชา ประธานกรรมการบริหาร, รองประธานกรรมการ, กรรมการผู้จัดการ
  3. นางนาตยา ตั้งมิตรประชา กรรมการ
  4. น.ส.อริยา ตั้งมิตรประชา กรรมการ
  5. นางสลิลทิพ เรืองสุทธิภาพ กรรมการ

Back to top button