EKH ศัลยกรรมธุรกิจ

หลังจาก EKH พลิกวิกฤตโควิดให้เป็นโอกาส...จากการให้บริการตรวจและรักษาผู้ติดเชื้อโควิดจนหนุนให้ผลงานในครึ่งปีแรกเติบโตระเบิดเถิดเทิง


หลังจากบริษัท เอกชัยการแพทย์ จำกัด (มหาชน) หรือ EKH พลิกวิกฤตโควิดให้เป็นโอกาส…จากการให้บริการตรวจคัดกรองโควิด และรักษาผู้ติดเชื้อโควิดที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา จนหนุนให้ผลงานในครึ่งปีแรกเติบโตระเบิดเถิดเทิง มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 99 ล้านบาท จากปีก่อนทำได้แค่ 11 ล้านบาท…

ขณะที่ไตรมาส 3 ปีนี้ คาดว่าเป็นไตรมาสที่เติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้แรงหนุนจากโควิดที่ระบาดรุนแรงและจำนวนผู้ติดเชื้อที่สูง ทำให้ต้องมีการเพิ่มเตียงผู้ป่วยในโรงพยาบาลเดิมถึง 3-4 เท่า และตั้งโรงพยาบาลสนามราว 500 เตียง ขณะเดียวกันก็คาดว่าปีนี้จะเป็นปีที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทเลยทีเดียว…

ดังนั้น ถ้าจะบอกว่า EKH ได้ดีเพราะโควิดก็คงไม่ผิดนัก..!!

แต่ EKH คงมองว่า ช่วงดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กับโควิดได้ผ่านพ้นไปแล้ว จึงต้องแสวงหาโอกาสใหม่ ๆ เพื่อต่อยอดธุรกิจให้มีความหลากหลายมากขึ้น เลยเป็นที่มาของการศัลยกรรมธุรกิจรุกสู่ธุรกิจความงาม..!! ด้วยการไปซื้อหุ้น 10%

ของบริษัท เดอะคลีนิกค์ คลินิกเวชกรรม จํากัด (มหาชน) (CLINIC) เจ้าของคลินิกเสริมความงามแบรนด์ THE KLINIQUE (เดอะคลีนิกค์) จากบริษัท ทีเคคิวเอช แคปปิตอล แมนเนจเมนท์ จํากัด (TKQH) มูลค่า 165 ล้านบาท

ต้องยอมรับว่า ที่ผ่านมา EKH มีรายได้หลัก ๆ มาจากผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน รวมทั้งศูนย์ผู้มีบุตรยาก ซึ่งฐานลูกค้าเป็นกลุ่มคนจีนที่เป็นตัวทำเงิน เนื่องจากมาร์จิ้นค่อนข้างสูง แต่จะเห็นว่า EKH ยังไม่มีศัลยกรรมความงาม…การไปซื้อหุ้นเดอะคลีนิกค์เข้ามาในพอร์ต ก็จะทำให้ EKH มีความครบเครื่องมากขึ้น

โดยเดอะคลีนิกค์เป็นผู้ให้บริการด้านผิวพรรณ ศัลยกรรมความงาม และการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมที่ทันสมัยตามหลักการแพทย์ ได้แก่ การให้บริการด้านการรักษาโรคผิวหนัง ผิวพรรณความงาม ลดน้ำหนัก ดูแลรูปร่าง ศัลยกรรม Wellness และการฟื้นฟูสุขภาพ ปัจจุบันมีสาขาทั้งหมด 29 สาขา

มุมการ Synergy ธุรกิจก็ทำร่วมกันได้ เช่น ลูกค้าเก่าของ EKH ก็อาจกลายเป็นลูกค้าใหม่ของเดอะคลีนิกค์…ลูกค้าเก่าของเดอะคลีนิกค์ ก็กลายเป็นลูกค้าใหม่ของ EKH ในอนาคต หรือการทำโปรโมชั่นเพื่อส่งเสริมการตลาดร่วมกัน ตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลเอกชัยการแพทย์ แถมฟรีแพ็กเกจดูแลผิวพรรณที่เดอะคลีนิกค์ เป็นต้น

ประกอบกับการดูแลสุขภาพและความสวยความงาม เป็นสิ่งที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ และพร้อมที่จะควักเงินในกระเป๋า…ก็น่าจะช่วยหนุนการเติบโตของเดอะคลีนิกค์ต่อเนื่อง

สะท้อนได้จากผลประกอบการของเดอะคลีนิกค์ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ทั้งรายได้และกำไรเติบโตทุกปี…ปี 2561 มีรายได้รวม 811 ล้านบาท กำไรสุทธิ 16 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ 2.07% ปี 2562 มีรายได้รวม 990 ล้านบาท กำไร 115 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ 11.66% และปี 2563 ซึ่งเป็นปีที่เกิดวิกฤตโควิด แต่กลับมีรายได้ทะลุ 1,009 ล้านบาท กำไรสุทธิ 153 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ 15.27%

ส่วนครึ่งแรกปีนี้ มีรายได้รวม 446 ล้านบาท กำไรสุทธิ 62 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ 13.91%…ถ้าเดอะคลีนิกค์ ไม่สะดุดยอดหญ้าจนหัวทิ่มซะก่อน ก็พออนุมานได้ว่า ปีนี้น่าจะเห็นกำไรอย่างน้อย ๆ 100 ล้านบาทแน่ ๆ…

โดย EKH จะรับรู้รายได้และกำไรจากเดอะคลีนิกค์ ตามสัดส่วนการถือหุ้น ถ้าเทียบเคียงงบปี 2563 เท่ากับจะรับรู้รายได้อยู่ที่ 100 ล้านบาท และกำไรราว 15.3 ล้านบาท…ไม่นับรวมเงินปันผลที่จะตามมาอีกก้อนนะ

แต่ไฮไลท์น่าจะอยู่ที่เดอะคลีนิกค์ กำลังอยู่ระหว่างแต่งเนื้อแต่งตัวเตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์…ดังนั้น หลังเข้าตลาดไปแล้ว เดอะคลีนิกค์ ก็จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นไปอีก นั่นเท่ากับว่า EKH ในฐานะผู้ถือหุ้นก็ได้ประโยชน์ไปเต็ม ๆ อีกช็อต…

ไม่ต่างจากยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลยนะเนี่ย…

ใช่ปะคะ…“หมออำนาจ เอื้ออารีมิตร” ขาาา…

…อิ อิ อิ…

Back to top button