แบงก์โดนยำเละ

การกลายพันธุ์ไวรัสเชื้อโควิด-19 ซึ่งเป็นประเด็นที่ทำให้ตลาดหุ้นดิ่งเหว เพราะรู้ได้ทันทีว่า ระบบเศรษฐกิจที่กำลังจะพลิกผันไปสู่การถดถอยอีกครั้งหุ้นเด่น, ข่าวหุ้น, หุ้นไทย, ข่าวหุ้นวันนี้


*วันนี้เป็นอีกครั้งที่ทั่วโลกต้องตกตะลึง พร้อมกับมีอาการหวาดผวาอย่างหนัก เพราะการกลายพันธุ์ไวรัสเชื้อโควิด-19 ที่เกิดขึ้นยามนี้ทำให้ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า จะมีการติดเชื้อง่ายขึ้นกว่าเดิม และอาจทำให้คนตายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นประเด็นหลักที่ทำให้ตลาดหุ้นดิ่งเหวกันอย่างถ้วนหน้า เพราะรู้ได้ทันทีว่า ระบบเศรษฐกิจที่กำลังจะฟื้นตัวจะพลิกผันไปสู่การถดถอยอีกครั้งไงล่ะคะ

*ฉะนั้นการที่หุ้นไทยลงมายืนปิดที่ระดับ 1,610.61 จุด ลบไป 37.85 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.23 แสนล้านบาท ย่อมเป็นสถานการณ์ที่เข้าใจได้เป็นอย่างดี และไม่ต้องแปลใจที่ฝรั่งหัวทองสาดหุ้นออกมามากถึง 6 พันล้านบาท ขณะที่กองทุนตัวแสบ และป็อบเทรดก็ควงแขนกันทิ้งออกมาคนละ 3 พันล้าน เพราะมันเป็นไฟต์บังคับที่ต้องขายหุ้นเพื่อความสบายใจในอนาคตพะยะค่ะ

*สถานการณ์ดังกล่าวทำให้หุ้นแบงก์โดนยำใหญ่ใส่ทุกเม็ด เพราะเป็นธุรกิจที่โดนเอฟเฟกต์ก่อนใครเพื่อน ซึ่งที่ผ่านมาก็พยายามใช้เครื่องมือสารพัดอย่าง เพื่อช่วยยับยั้งไม่ให้เกิดหนี้เสียเพิ่มขึ้น พร้อมกับหาทางระบายหนี้เสียออกไปจากแบงก์ให้ได้มากสุดเท่าที่จะทำได้ จนทุกอย่างทำท่าจะดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม แต่สุดท้ายต้องเจอกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเอาเสียก่อนแบบนี้..ลุ้นไม่ขึ้นแล้วล่ะคะ

*โดยเฉพาะในรายของแบงก์สีเขียว KBANK ซึ่งกำลังอยู่ในฟอร์มที่ดีวันดีขึ้น พอเจอเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาปุ๊บ ราคาหุ้นก็ร่วงปั๊บในทันที เท่ากับเป็นการย้ำหัวหมุดให้ทุกคนตระหนักมากขึ้นกว่าเดิมว่า นี่เป็นแบงก์ที่มีความเสี่ยงในการทำธุรกิจที่ค่อนข้างสูง ราคาหุ้นถึงร่วงผล็อยลงมาปิดที่ระดับ 142.50 บาท ลบไป 4.50 บาท หรือลงไป 3% ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่สูงถึง 6.30 พันล้านบาท และบอกได้ทันทีว่า หากแนวรับ 137 บาทเอาไม่อยู่..ก็โกยเถอะโยม!

*ส่วนแบงก์ใหญ่ตราดอกบัว BBL อาจมีทรงไม่ค่อยสวยก็จริง แต่อย่างน้อยก็มีแรงรับเข้ามาเป็นระยะ ทิศทางของหุ้นเลยอยู่ในลักษณะ “ลงหนักแล้วพัก” วนลูปแบบนี้ไปเรื่อย ๆ “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับประเมินการยืนที่ระดับ 121.50 บาท ลบไป 4 บาท หรือลงไป 3.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.83 พันล้านบาท จะเป็นการพักตัวเหมือนที่เกริ่นนำไหม หรือจะลงหนักอีกวัน..ลองไปดูกันเองนะจ๊ะ

*สำหรับรายที่น่าช้อนตามความคิดของ “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้นตราใบโพธิ์ SCB แบบไม่ลังเลใจ เพราะทันทีที่ได้ฟังคุณพี่ “อาทิตย์” เม้าท์ถึงเรื่องยานแม่ SCBX ที่จะปั้นบริษัทลูก ๆ ออกไปเติบโตในแขนงต่าง ๆ ทั้งในระดับ “โลคอล” และระดับ “อินเตอร์” กลายเป็นจุดที่ทำให้การยืนประคองตัวตรงแนวรับ ด้วยการปิดที่ระดับ 127 บาท ลบไป 3.50 บาท หรือลงไป 2.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.98 พันล้านบาท น่าเล่นขึ้นมาทันทีจ้า!

*อีกรายที่โดนผลกระทบกับเขาเต็ม ๆ แต่ทรงหุ้นยังดูดีเหมือนเดิมทุกประการ “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น TTB เพื่อชี้ให้เห็นความน่าสนใจของหุ้นตัวนี้กันสักหน่อย เพราะการยืนปิดที่บริเวณแนวรับ 1.22 บาท ลบไป 0.03 บาท หรือลงไป 2.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.54 พันล้านบาท ท่ามกลางความวิตกผลงานแบงก์จะเละเทะ แต่ราคาหุ้นกลับไม่ทรุดฮวบฮาบเหมือนครั้งก่อน ๆ แบบนี้..แสดงว่า ของเขาดีอ๊ะป่าว?

*ส่วนคนที่โดนหนักจริง ๆ คงไม่มีใครหนักไปกว่า AOT เพราะทันทีที่มีโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ระบาดอย่างรวดเร็ว ก็ทำให้ราคาหุ้นทรุดฮวบลงมาปิดที่ระดับ 63 บาท ลบไป 3.75 บาท หรือลงไป 5.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.91 พันล้านบาท มันเหมือนเป็นการดับฝันเปิดประเทศแบบนี้ “โมนิก้า” ถึงมองว่า หากหุ้นตัวนี้จะลงอีกก็ไม่ใช่เรื่องต้องวอรี่ เพราะที่ผ่านมาก็ขึ้นเกินพื้นฐานมาตั้งนานแล้ว…อิอิอิ

*เอฟเฟกต์ดังกล่าวยังส่งผลทำให้หุ้นพลังงานโดนกระทบเต็ม ๆ และตัวที่ดูจะมีอาการหนักกว่าใครเพื่อน คงหนีไม่พ้นหุ้นโรงกลั่น TOP หลังราคาหุ้นซึมลงต่อเนื่องเป็นเวลาเดือนกว่า ๆ จนล่าสุดทิ้งตัวลงมาปิดที่ 49.75 บาท ลบไป 2 บาท หรือลงไป 3.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.22 พันล้านบาท ท่ามกลางแนวรับสุดท้ายอยู่แถว 48.50 บาทแบบนี้…มันเสียวซ่านดีเหลือเกินนะคุณพี่! งานนี้หากเอาไม่อยู่ ก็เจอกันแถว 45 บาทเลยนะคะ

Back to top button