หุ้นเล็กปลอดแรงขาย

ยังคงมีความคึกคักต่อไป “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟน ๆ พยายามเรียนรู้สถานการณ์ในอดีต มันช่วยให้เราปรับตัวเข้ากับสภาพที่เป็นอยู่ได้ขนาดไหนพะยะค่ะ


*ดูเหมือนผู้คนในตลาดหุ้นจะมองเหมือนกันว่า ตราบใดที่เชื้อ “โอ้มายก๊อด” ยังไม่แพร่เข้ามาในเมืองไทย ก็ไม่มีอะไรต้องตื่นตระหนกไปกว่าที่เป็นอยู่ เพราะทุกอย่างยังดำเนินไปตามปกติ และผู้คนก็ยังออกมาใช้ชีวิตนอกบ้านมากขึ้นเรื่อย ๆ ส่งผลให้กิจกรรมต่าง ๆ ยังคงมีความคึกคักต่อไป “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟน ๆ พยายามเรียนรู้สถานการณ์ในอดีต มันช่วยให้เราปรับตัวเข้ากับสภาพที่เป็นอยู่ได้ขนาดไหนพะยะค่ะ

*ที่สำคัญคือ “โมนิก้า” ไม่ได้บีบบังคับให้ทุกคนต้องเชื่อตาม เพราะอยากให้ฉุกคิดกันนิดหนึ่งว่า เราผ่านการแพร่ระบาดมาหลายระลอก แต่สุดท้ายก็ผ่านได้ทุกครั้งเช่นกัน จึงต้องปรับจูนอารมณ์เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่รู้อยู่แล้วว่า กำลังจะเกิดอะไรขึ้น! เพื่อไม่ให้ตัวเองเตลิดจนกู่ไม่กลับ ซึ่งเหมือนกับสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยที่ทรุดหนักสามวันติด (ลงไปราว 80 จุด) ก่อนจะเด้งกลับอย่างร้อนแรง (บวกกว่า 20 จุด) มันเป็นภาพที่สื่อให้รู้ว่า คุมอารมณ์ได้ในระดับหนึ่งนะจ๊ะ

*สถานการณ์ดังกล่าวทำให้เดี๊ยนรู้สึกเฉยๆ กับการที่ดัชนียืนปิดที่ระดับ 1,591.84 จุด บวกไป 1.03 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.70 หมื่นล้านบาท เพราะในช่วงที่หุ้นไทยยังโงหัวไม่ขึ้น ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ก็ทะยานขึ้นไปกว่า 200 จุด ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวแปรที่บอกให้รู้ว่า ความกังวลเริ่มลดลง และพร้อมจะทยอยเก็บหุ้นอีกครั้ง “โมนิก้า” จึงขอเสนอทางเลือกที่ทุกฝ่าย วิน-วิน ในสถานการณ์ที่ทุกอย่างยังฝุ่นตลบไงล่ะจ๊ะ

*สำหรับทางเลือกที่ว่า คงพุ่งเป้าไปที่หุ้นเล็กเป็นหลัก เพราะเป็นกลุ่มหุ้นที่ปลอดแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติ และพวกกองทุน รวมทั้งเป็นหุ้นที่รายย่อยเข้าถึงได้ทุกคน “โมนิก้า” จึงขอยกพื้นที่ตรงนี้ให้กับหุ้นกลุ่มนี้มากเป็นพิเศษ แถมแต่ละตัวก็มาในแนวเก็งกำไรสุดติ่งกระดิ่งแมวทั้งนั้น  จึงน่าจะเข้ากับบรรยากาศตลาดหุ้นในยามที่ต้องลุ้นระทึกตลอดเวลา และเป็นช็อตที่เหมาะสำหรับคนที่ชอบเล่นสั้นเจ้าค่ะ

*โดยเฉพาะในรายของ TRC ถูกดันขึ้นมาปิดที่ระดับ 0.24 บาท บวกไป 0.05 บาท หรือขึ้นไป 26.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 144 ล้านบาท ทั้งที่ยืนซึมกระทือเป็นเวลาร่วมเดือน “โมนิก้า” ย่อมมองเป็นช็อตที่เหมาะต่อการโหนกระแสเป็นอย่างมาก เพราะเมื่อดูขนาดของหุ้น และทรงของหุ้น ก็เหมาะสำหรับรายย่อยแบบแท้ทรู จึงน่าจะเห็นการดันหุ้นแบบสุดซอยอีกวัน หลังโมเมนตัมต่าง ๆ เอื้อให้เหลือเกินจ้า!

*เช่นเดียวกับในรายของ ML ที่มีตัวเลขกำไรเป็นแบ็คอัพ ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ยิ่งมองในมุมของการพุ่งขึ้นไปทำยอดใหม่ไว้ที่บริเวณ 1.75 บาท ยิ่งเหมาะต่อการเกาะกระแสอย่างแน่นอน “โมนิก้า” จึงอยากให้แฟนคลับประเมินการขึ้นมาปิดที่ระดับ 1.51 บาท บวกไป 0.13 บาท หรือขึ้นไป 9.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 216 ล้านบาท ท่ามกลางค่า PE 12 เท่า มันน่าสนใจขนาดไหน? ลองไปคิดกันนะจ๊ะ

*ส่วนรายที่พุ่งขึ้นไปทำยอดใหม่เป็นที่เรียบร้อย และวันนี้ต้องลุ้นว่าจะไปไหม? “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น CGH ในทันที เพราะในมุมของบุ๊กแวลูที่อยู่ในระดับ 1.45 บาท เทียบกับราคาหุ้นในกระดานที่ระดับ 1.37 บาท บวกไป 0.05 บาท หรือขึ้นไป 3.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 444 ล้านบาท มันคือการเปิดช่องให้หุ้นไปต่อสวย ๆ แต่เผอิญเที่ยวก่อนดันจอดป้ายแถวนี้พอดี เดี๊ยนเลยไม่กล้าออกตัวแรงเจ้าค่ะ

*ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” นึกถึงหุ้น IIG ขึ้นมาทันที เพราะเป็นเวลาร่วมเดือนที่หุ้นไม่สามารถทะยานขึ้นไปยืนเหนือ 45 บาท จู่ ๆ วานนี้กลับดันพรวดเดียวขึ้นมาปิดที่ระดับ 46.25 บาท บวกไป 3.50 บาท หรือขึ้นไป 8.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 116 ล้านบาท “โมนิก้า” เลยสงสัยขึ้นมาทันทีว่า เที่ยวนี้จะเล่นกันนานขนาดไหน? เพราะราคาที่เทรดวันนี้อยู่บนค่า PE 52 เท่าไปแล้วน่ะซี

*ตบท้ายกันที่หุ้น BBIK ซึ่งคนในวงการเม้าท์ให้แซ่ดว่า ปีหน้าโตสะเด่าแน่นอน เพราะเป็นธุรกิจที่เกาะเกี่ยวมากับเทคโนโลยี ผสานกับวันนี้มีมือดีที่มาจาก ธ.ไทยพาณิชย์ คอยให้คำปรึกษาต่าง ๆ “โมนิก้า” ถึงเชื่อว่า การยืนปิดที่ระดับ 54 ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 81 ล้านบาท ไม่ได้สูงเกินไปเมื่อเทียบกับโลกการเงินในปีหน้าจะเปลี่ยนโฉมอย่างมีนัยสำคัญนะจะบอกให้

Back to top button