ความโลภและความเสี่ยง ในตลาดสินทรัพย์ ดิจิทัล

จู่ ๆ ก.ล.ต. ก็ออกหนังสือเตือนให้การโฆษณาออก NFT หรือ ICO ใหม่ เพื่อให้นักลงทุนได้ระวังแบบ “การลงทุนทุกชนิดมีความเสี่ยง”


จู่ ๆ ก.ล.ต.ก็ออกหนังสือเวียนเตือนให้การโฆษณาออก NFT หรือ ICO ใหม่ที่บริษัทที่ปรึกษาการระดมทุนผ่านสินทรัพย์ดังกล่าว ควรจะออกคำเตือนสติเพื่อให้นักลงทุนได้ระวังแบบ “การลงทุนทุกชนิดมีความเสี่ยง”

เพียงแต่ผลลัพธ์ของหนังสือเวียนดังกล่าวยังยากจะเข้าใจและคาดเดา

เหตุผลก็เพราะว่าตลาดนี้มีลักษณะ “ดิบเถื่อน” แบบเดียวกับปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “ทุนนิยมป่าเถื่อน” ดังที่เคยเป็นตำนานที่เป็นมายาคติหรือ myth ที่เกี่ยวเนื่องกับการ “มุ่งตะวันตก ซึ่งมีฮีโร่ส่วนใหญ่เป็นคนนอกกฎหมายหรือ “คนชายขอบเทา” พร้อมกับแนวทางที่เรียกกันว่า ความฝันแบบอเมริกัน หรือ American Dream อันลือลั่นมาแล้วนั่นเอง

ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น คำตอบอยู่ที่ธรรมชาติของธุรกรรมที่เกิดขึ้นกับสินทรัพย์ดิจิทัลนั่นเอง

นับตั้งแต่ประธานาธิบดียูลิซีส แกรนท์ได้ออกกฎหมายในปี 1880 อนุมัติให้พลเมืองจากเขตเมืองในภาคตะวันออก สามารถเข้าไปจับจอง เปิดพื้นที่เพาะปลูกและเลี้ยงสัตว์ในพื้นที่ซึ่งเคยมีคนพื้นเมือง (เรียกว่าอินเดียนแดง ทั้งที่ไม่เกี่ยวอะไรเลยกับชาวอินเดียในเอเชียเลย) ซึ่งนักประวัติศาสตร์รุ่นต่อมาเรียกขานว่าเป็นไปตามทฤษฎี “พรมแดนใหม่” คนอเมริกันที่ “เดนตาย” พากันหลั่งไหลอพยพเข้าไปในดินแดนที่ต่อมากลายเป็นฐานรากของวิญญาณและจิตสำนึกอเมริกันที่มีอัตลักษณ์แปลกจากชาวยุโรปอย่างสิ้นเชิงในดินแดนที่เรียกว่าตะวันตก

แม้ว่าตำนานของ “จิตวิญญาณอเมริกัน” จะไม่มีสิ่งที่เรียกว่าความจริงทางประวัติศาสตร์รองรับมากนักแต่ข้อเท็จจริงบางอย่างได้รับการยืนยันจากหนังสือประวัติศาสตร์ที่หลากหลาย ที่สามารถยอมรับได้เกี่ยวกับบทบาทของคนสีเทาและพวกนอกกฎหมายและคนชายขอบอย่าง อย่างเจสซี่ เจมส์ บิลลี่ เดอะ คิดและไวแอท เอิร์บ รวมถึงการล้อมสังหารหมู่ที่ลิตเติ้ล บิ๊กฮอร์น ได้กลายเป็นพื้นฐานที่ดีในการสร้างตำนานเพื่อเติมเต็มตามความปรารถนาของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นเพียงความพึงพอใจสำหรับความอยากรู้ หรือการเริ่มต้นของการดำรงอยู่ใหม่และที่ดีขึ้น

ในตำนานเหล่านี้ ได้สร้างให้เกิดเป็นมายาคติที่ชี้นำโดยฮอลลีวูด ที่มักลืมประเด็นการบังคับใช้แรงงานชาวจีนเยี่ยงทาส และการสังหารอินเดียนแดง กับการฆ่าสัตว์ป่าอย่างไบซันเพื่อทำลายแหล่งอาหารของอินเดียนแดง

การล่าอาณานิคมและดินแดนใหม่ของสหรัฐฯ ทำให้คนอเมริกันรุ่นต่อมาละทิ้งซากปรักหักพังของประวัติศาสตร์ที่ผู้อพยพจากยุโรปมาที่อเมริกาส่วนใหญ่มักเป็นผู้ลี้ภัยทางการเมืองหรือศาสนา ถูกดึงดูดโดยเรื่องราวของดินแดนอันกว้างใหญ่ ทั้งหมดนี้ต้องมอบให้ใครก็ตาม ซึ่งไม่ใช่ทางเลือกที่แย่ที่สุด สำหรับคนที่ไม่มีอะไรจะสูญเสีย

ผลพวงตามมาคือ การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ที่แตกต่างจากปัญหาในยุโรปที่พลวัตเคลื่อนย้ายจากระบบศักดินาไปสู่ลัทธิการค้านิยม และต่อมาเป็นระบบทุนนิยม ที่ก่อให้เกิดปัญหามากยิ่งขึ้น

ชะตากรรมของผู้ตั้งถิ่นฐานและผู้บุกเบิกถือกำเนิดขึ้น ไม่ว่าจะโดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับประเทศบ้าหรือเพื่อตนเองและผู้ติดตาม  ที่ดินบนบกทำให้ชาวนามีความหวังในอิสรภาพและอัตลักษณ์โดยเฉพาะ เนื่องจากเป็นรากฐานของความมั่งคั่ง  การแข่งขันเพื่ออสังหาริมทรัพย์จบลงด้วยการก่อตั้งเมืองใหม่ ทวีปใหม่และดินแดนที่ไม่มีวันสิ้นสุดเป็นองค์ประกอบพื้นฐานของการพัฒนาที่ห่างไกลจากระบบศักดินาที่ล้าสมัย เพราะสถานที่ซึ่งไม่ใช่ที่ดินมรดกหรือที่ดินที่ผู้ซื้อหามาด้วยทุนก้อน แต่เกิดจากการบุกเบิกป่าเขาให้ราบแล้วแต่ยึดครองดินใหม่ จากคนพื้นเมืองเดิมซึ่งมองเห็นคุณค่าของที่ดินต่ำกว่าฝูงสัตว์ที่ล่ามาได้ เพื่อสร้างเสกตำนานที่กล้าหาญไม่เพียงแต่พัฒนาขึ้นจากชีวิตที่ยากลำบากของผู้ตั้งถิ่นฐานที่เดิมเคยอาศัยตามชายขอบของสังคมอาศัยเขตแดนไปจนถึงดินแดนที่ไม่รู้จัก และสร้างตำนานใหม่ เพื่อเชิดชูวีรกรรมของผู้บุกเบิกและผู้ตั้งถิ่นฐาน

การประดิษฐ์คำใหม่ที่มีความหมายกำกวมอันหรูหราเพื่อสร้างความชอบธรรมของการบุกเบิก และตั้งถิ่นฐานเชิงรุกเท่านั้น หากยังรวมเอาผู้ค้นพบด้วยมุมองใหม่ที่แสวงหาเส้นทางที่มีความหมายของ “คนอเมริกันด้วย” หนทางของนักผจญภัยที่กล้าหาญที่สุดหรือผู้ที่ปรารถนาจะไม่มีตัวตน

ตำนานของเส้นทางบุกเบิกที่เรียกว่า “โอเรกอน เทรล” และ ”ซานตาเฟ่ เทรล” และเสน่ห์น่าหลงใหลของเรือกลไฟ ‘นิวออร์ลีนส์ ยังตราตรึงใจมาถึงปัจจุบัน

การเคลื่อนไหวทางทิศตะวันตกแบบพิเศษในแม่น้ำมิสซิสซิปปีและมิสซูรีเริ่มต้นขึ้น  เรือกลไฟนั้นเร็วกว่าเรือแฟลตโบ๊ทรุ่นเก่ามาก  ตะวันตก อย่างน้อยก็มิสซิสซิปปีสามารถไปถึงได้ในเรือกลไฟนำผู้บุกเบิกมาสู่ Independence ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของ Oregon และ Santa Fé Trail

แม้ว่าตำนานจะเป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ เราควรระลึกไว้เสมอว่าไม่มีสิ่งที่เรียกว่าความจริงทางประวัติศาสตร์ แต่เรามักจะมีมุมมองส่วนตัวเกี่ยวกับแหล่งที่มาที่เราจัดการอยู่ในปัจจุบัน  ข้อเท็จจริงบางอย่างได้รับการยืนยันจากหนังสือประวัติศาสตร์ที่หลากหลาย ที่สามารถยอมรับได้

มีข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์บางอย่างที่เป็นพื้นฐานที่ดีในการสร้างตำนาน  สิ่งที่น่ากลัวที่สุดแต่ก็น่าตื่นเต้นที่สุดในยุคการตั้งถิ่นฐานคือความไม่แน่นอนของสิ่งที่คาดหวังนอกเหนือจากพรมแดน เนื่องจากพรมแดนแยกสิ่งที่รู้จักออกจากสิ่งที่ไม่รู้จักอย่างแท้จริง

ผู้คนที่เข้ามาในดินแดนที่ไม่รู้จักคาดหวังการเติมเต็มตามความปรารถนาของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นเพียงความพึงพอใจสำหรับความอยากรู้ หรือการเริ่มต้นของการดำรงอยู่ใหม่และที่ดีขึ้น

ทิศทางของการมุ่งตะวันตกในมายาคติมีเสน่ห์ชวนให้หลงไหลกับทางปล้นสดมภ์ของคนชายขอบอย่างบิลลี่ เดอะคิด เจสซี่ เจมส์และไวแอท เอิร์บ-บิลลี่ ฮอลิเดย์ แต่มักจะมีคนลืมประเด็นการบังคับใช้แรงงานชาวจีนเยี่ยงทาส และการสังหารอินเดียนแดง กับการฆ่าสัตว์ป่าอย่างไบซันเพื่อทำลายแหล่งอาหารของอินเดียนแดง

ผู้อพยพจากยุโรปมาที่อเมริกาโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น ส่วนใหญ่มักเป็นผู้ลี้ภัยทางการเมืองหรือศาสนา ถูกดึงดูดโดยเรื่องราวของดินแดนอันกว้างใหญ่ ทั้งหมดนี้ต้องมอบให้ใครก็ตาม ซึ่งไม่ใช่ทางเลือกที่แย่ที่สุด สำหรับคนที่ไม่มีอะไรจะสูญเสีย

สิ่งที่พวกเขามีเหมือนกันคือการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในยุโรป การเปลี่ยนแปลงจากระบบศักดินาไปสู่ลัทธิการค้านิยมและต่อมาเป็นระบบทุนนิยม ที่ก่อให้เกิดปัญหามากยิ่งขึ้นและบังคับให้พวกเขาปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตของพวกเขา แม้ว่าสิ่งต่าง ๆ จะไม่เป็นอย่างใจต้องการ แต่ทุกคนที่อพยพจากยุโรปต้องหาทางของตัวเอง ตามชะตากรรมของเขาเอง และนี่คือเหตุผลว่าลัทธิปัจเจกนิยมจึงมีความสำคัญมากสำหรับอเมริกา

อ่านต่อตอน 2

Back to top button