WP อิ่มแล้ว.!?

หลังจบเกมฟาดฟันเชือดเฉือนแย่งชิงซากแพะ PICNI เมื่อ 10 ปีก่อน ไม่ว่าจะเป็น “กลุ่มกุลดิลก” และ “กลุ่มศรีวิกรม์” แต่สุดท้าย “กลุ่มพุ่มพันธุ์ม่วง” คว้าซากแพะไปซะงั้น


หลังจบเกมฟาดฟันเชือดเฉือนแย่งชิงซากแพะบริษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PICNI เมื่อ 10 ปีก่อน ไม่ว่าจะเป็น “กลุ่มกุลดิลก” และ “กลุ่มศรีวิกรม์” แต่สุดท้าย “กลุ่มพุ่มพันธุ์ม่วง” คว้าซากแพะไปซะงั้น กลายเป็นว่าแอสเซททั้งหมดของ PICNI ถูกโยกมาหลอมรวมกับบริษัท เวิลด์แก๊ส (ประเทศไทย) จำกัด (WG) ซึ่งเป็นธุรกิจครอบครัวของ “บิ๊กอ๊อด” – พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ไปโดยปริยาย…

จากนั้นก็มีการแต่งองค์ทรงเครื่องเปลี่ยนชื่อเสียงเรียงนามใหม่มาเป็นบริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ WP ในปัจจุบัน…

ตามมาด้วยการต่อเติมธุรกิจให้มีความหลากหลายมากขึ้น หนึ่งในนั้น คือ ธุรกิจอาหาร ซึ่ง WP คาดหวังไว้เยอะ  ถึงขนาดที่ว่าในปี 2564 ทุ่มงบก้อนโตราว 400–500 ล้านบาท ขยายและต่อยอดธุรกิจอาหาร ผ่านบริษัท วันเดอร์ฟู้ด โฮลดิ้ง จำกัด ด้วยการเข้าไปถือหุ้น 50%…

โดยตั้งเป้าหมายใหญ่โต ในปีแรกจะสร้างกำไรได้ไม่ต่ำกว่า 10% ของกำไรรวมของบริษัท และตั้งเป้าจะเพิ่มเป็น 40% ภายใน 5 ปี พร้อมมีแผนจะผลักดันเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อีกด้วย…

อือ…ก็ดูเข้าท่าดีนะ เพราะเป็นการต่อยอดมาจากธุรกิจเดิมขายก๊าซ LPG เนื่องจากธุรกิจอาหารก็ต้องใช้ก๊าซ LPG อยู่แล้ว แถมยังเป็นการกระจายความเสี่ยงจากธุรกิจพลังงานอีกด้วย

ทว่าผัดข้าวกระทะไม่ทันดำเสียล่ะมั้ง ผ่านมาแค่ปีเศษ ล่าสุด WP ก็ประกาศขายวันเดอร์ฟู้ด โฮลดิ้ง ทิ้งซะแล้ว โดยขายหุ้นที่ถืออยู่ทั้งหมดให้กับ “รัชภาส ยังเอกสกุล” หรือที่คนในวงการอาหารรู้จักกันดีในชื่อ “เชฟแอนดี้ ยังเอกสกุล” หรือ “แอนดี้ หยาง” ผู้ปลุกปั้นวันเดอร์ฟู้ด โฮลดิ้ง นั่นแหละ…

WP ระบุสาเหตุที่ต้องขายวันเดอร์ฟู้ด โฮลดิ้ง ว่า เนื่องจากต้องการปรับเปลี่ยนแผนการลงทุนให้เหมาะสมกับโครงสร้างธุรกิจของบริษัท…ก็ว่ากันไป

แต่ถ้าให้เดา อาจเป็นเพราะจังหวะไม่ดีหรือเปล่า..? เนื่องจากการมาของโควิดทำให้ธุรกิจอาหารซบเซาหนัก โดยเฉพาะร้านอาหารที่ไม่สามารถนั่งทานในร้านได้ ทำให้ยอดขายลดวูบ ดังนั้น แทนที่วันเดอร์ฟู้ด โฮลดิ้ง จะมาช่วยหนุนการเติบโตของ WP ก็กลายเป็นตัวถ่วงซะงั้น…

ทั้ง ๆ ที่บริษัทนี้ก็มีดีพอตัวแหล่ะ เพราะเป็นธุรกิจของ “แอนดี้ หยาง” ซึ่งเป็นเชฟระดับมิชลินสตาร์เชียวนา โดยปัจจุบันมี 4 แบรนด์หลัก ได้แก่ ผัดไทยไฟทะลุ, ข้าวซอย Hungry Rabbit, ร้านไฮเปอร์ ไฟน์ไดน์นิ่ง Table 38 และ Pi Kun (ปีกุน) ร้านอาหารอีสานฟิวชั่นแนวทาปาส…

ไม่นับรวมการต่อยอดสู่การผลิตและจำหน่ายเครื่องปรุงรส และอาหารกึ่งสำเร็จรูป และธุรกิจอื่น ๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับอาหารในอนาคตอีกนะเนี่ย…

แต่สุดท้ายเมื่อเวลาไม่เหมาะสมและตลาดไม่เอื้อ…WP เลยต้องจำใจอิ่มแล้วสำหรับธุรกิจอาหารและขนมอ๊ะป่าว..!?

แล้วหลังจากนี้ก็คงหันกลับมาโฟกัสธุรกิจหลัก ขายแก๊ส LPG ต่อไป…

โดยในปีนี้ตั้งเป้าหมายรายได้ที่ 1.2 หมื่นล้านบาท โต 5% เมื่อเทียบกับปีก่อนอยู่ที่ 11,500 ล้านบาท มาจากปริมาณการขาย LPG ที่เพิ่มขึ้น ทั้งในประเทศและส่งออก โดยตั้งเป้าปริมาณการขาย LPG ปีนี้ไว้ที่ 765,000 ตัน แบ่งเป็นยอดขายในประเทศ 740,000 ตัน และส่งออก 25,000 ตัน เมื่อเทียบกับปี 2564 ที่มีปริมาณการขายรวมอยู่ที่ 714,000 ตัน แบ่งเป็นยอดขายในประเทศ 696,000 ตัน และส่งออกไปยังเวียดนาม 18,500 ตัน

เอ๊ะ..!! หรือไม่แน่ “บิ๊กอ๊อด” กับลูกสาว “ชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง” อาจมีไอเดียกระฉูดไปแสวงหาธุรกิจใหม่มาเติมอีกก็ได้…ใครจะไปรู้

…อิ อิ อิ…

Back to top button