เริ่มเคาะขวา

วันนี้เป็นอีกครั้งที่ “โมนิก้า” รู้สึกสบายใจสุด ๆ หลังเห็นดัชนีพยายามประคองตัวยืนเหนือระดับ 1,700 จุดได้อย่างแข็งแกร่ง


*วันนี้เป็นอีกครั้งที่ “โมนิก้า” รู้สึกสบายใจสุด ๆ หลังเห็นดัชนีพยายามประคองตัวยืนเหนือระดับ 1,700 จุดได้อย่างแข็งแกร่ง ผนวกกับตลอดทั้งวันมีแรงซื้อเข้ามาเป็นระลอก จึงทำให้บรรยากาศการลงทุนดูแช่มชื่นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเป็นประเด็นที่เดี๊ยนพยายามย้ำหัวหมุดมาหลายรอบ และทำให้การเริ่มเคาะขวาเป็นแนวทางที่เหมาะสำหรับการเล่นในช่วงที่มีวันหยุดมาคั่นกลางนะจะบอกให้

*วันนี้ถึงต้องบอกกับเหล่านักเล่นว่า ชอบสไตล์การเล่นแบบ “สั้น” หรือ “ยาว” มากกว่ากัน เพราะผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจะแตกต่างกันมาก “โมนิก้า” ถึงไม่วอรี่ที่เห็นดัชนียืนปิดได้แค่ระดับ 1,701.18 จุด ลบไป 1.75 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.84 หมื่นล้านบาท เพราะมันเป็นผลมาจากนักลงทุนบางรายชะลอซื้อหุ้น ขณะที่บางคนเลือกเทขายหุ้นทำกำไรระยะสั้น เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในช่วงวันหยุดน่ะซี

*สถานการณ์ตรงนี้ยังบอกให้นักเล่นรู้ด้วยว่า ความเสี่ยงในการลงทุนเที่ยวนี้ค่อนข้างจำกัด และภาพของเม็ดเงินสะพัดก็จะชัดเจนขึ้นในไตรมาส 2 ซึ่งเป็นผลมาจากการเปิดประเทศอย่างเป็นรูปธรรมได้เกิดขึ้นแล้ว รวมทั้งการใช้ชีวิตร่วมกับโควิดก็กำลังกลายเป็นเรื่องธรรมดาในไม่ช้า จึงอนุมานได้ทันทีว่า เม็ดเงินในระบบธุรกิจกลางวัน และกลางคืนจะพรั่งพรูอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ

*ที่น่าสนใจคือ หุ้นตัวท็อปจะมาในลักษณะช้าแต่ชัวร์อย่างแน่นอน ขณะที่หุ้นดาวรุ่งจะร่วมกลุ่มกันมาสร้างสีสันบันเทิง “โมนิก้า” จึงขอโฟกัสไปที่หุ้นที่เคาะขวามัน ๆ เพื่อชี้ให้เห็นการเล่นรอบนี้ต้องเพิ่มความไว โดยเฉพาะในรายของ NEX ซึ่งทุกคนเห็นกันแล้วว่า นี่คือหนึ่งในหุ้นเทิร์นอะราวด์ที่มาแบบจัดเต็ม และการที่หุ้นอ่อนตัวลงมาปิดที่ระดับ 19.10 บาท ลบไป 0.90 บาท หรือลงไป 4.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2 พันล้านบาท ก็เป็นจังหวะของการโหนกระแสเพียว ๆ นะจ๊ะ

*อีกรายที่เริ่มเล่นใหม่ คงต้องมองไปที่หุ้นพี่เบิร์ด (สบาย..สบาย) SABUY ก็มีช็อตให้ตามดูตลอดเวลาเช่นกัน “โมนิก้า” จึงอยากถามแฟนคลับว่า การวิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 28.75 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 4.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 695 ล้านบาท ใช่จังหวะที่น่าตามไหม? เพราะเที่ยวก่อนก็ปิดเกมแถว ๆ 30 บาท แต่ถ้าผ่านขึ้นไปได้ ก็มีลุ้นได้เห็นยอดเดิมที่บริเวณ 35 บาทแบบนี้..น่าเคาะขวาไหมล่ะจ๊ะ

*เช่นเดียวกับการวิ่งขึ้นของหุ้น ACE ก็เป็นจังหวะของการโหนกระแสอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะเมื่อดูจากวอลุ่มที่หนาแน่นผิดปกติ ผสานกับแมงลือเริ่มพูดถึงหุ้นตัวนี้มากขึ้น “โมนิก้า” ถึงมองการบวกต่อเนื่องเป็นวันที่สอง ก่อนจะมาปิดที่ระดับ 3.30 บาท บวกไป 0.12 บาท หรือขึ้นไป 3.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 359 ล้านบาท คือจังหวะของการตบเกียร์ห้า เพื่อเดินหน้าให้สุดซอยไปเลยจ้า!

*ส่วนคนที่ชอบสายลุย ก็ไม่ควรมองข้ามหุ้น ACG เพราะอาการ “เด้งขึ้น เด้งลง” เหมือนเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า พร้อมที่จะขยับขึ้นอย่างเป็นทางการ ผสานกับการบวกเบา ๆ ในบางวันก็ทำให้เชื่อว่า มีคนหวนกลับเข้ามาเล่นหุ้นตัวนี้อีกครั้ง เดี๊ยนถึงเชื่อว่า การยืนปิดที่ระดับ 2.58 บาท บวกไป 0.14 บาท หรือขึ้นไป 5.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 91 ล้านบาท มันเป็นจังหวะของการตามน้ำ ยิ่งเห็นศูนย์ซ่อมรถยนต์ของ “เฮียเปิ้ล” ภายใต้ชื่อ “ออโตคลิก” ผุดเป็นดอกเห็ด ก็อนุมานได้ทันทีว่า ปีนี้กำไรโตแน่เจ้าค่ะ

*คล้ายกับกรณีของ UBIS ก็กลับมาเล่นใหม่อีกรอบ แถมเที่ยวนี้เคาะขวากันเต็มเหนี่ยว จนราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 5.80 บาท บวกไป 1.32 บาท หรือขึ้นไป 30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 289 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเกมของความเชื่อที่ว่า ผลงานปีนี้จะคัมแบ็คอย่างยิ่งใหญ่ พวกนกรู้จึงเข้ามาไล่ราคากันอย่างคึกคัก พร้อมกับทิ้งปริศนาให้คนเล่นต้องตามไปดูกันเอาเองว่า ทำได้จริงอ๊ะป่าว?

*ส่วนรายที่ผลงานปีนี้ดีขึ้นกว่าปีก่อนแน่ ๆ “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้นรับเหมารายเล็กอย่าง IND เพราะเมื่อดูงานในมือที่สามารถทยอยรับรู้เข้ามาเรื่อย ๆ ย่อมเป็นแรงหนุนให้ราคาหุ้นทะยานขึ้นอีกครั้ง เดี๊ยนจึงมองแรงขายที่เกิดขึ้นคราวนี้เป็นเพียงการข่มขวัญในระหว่างทางที่กำลังเล่นรอบใหม่ และการที่หุ้นยืนปิดที่ระดับ 2.04 บาท ลบไป 0.10 บาท หรือลงไป 4.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 117 ล้านบาท ก็เป็นเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว 3 ครั้งนับตั้งแต่ต้นปีนะจะบอกให้

Back to top button