EKH ใต้ปีก RAM.!

โบราณว่าไว้ “คนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตาย สามคนสบาย” ยังเป็นวลีอมตะที่ใช้ได้ทุกยุคทุกสมัยจริง ๆ...


โบราณว่าไว้ “คนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตาย สามคนสบาย” ยังเป็นวลีอมตะที่ใช้ได้ทุกยุคทุกสมัยจริง ๆ…

ซึ่งน่าสอดคล้องกับกระแสข่าวร้อนฉ่าในวงการโรงพยาบาลที่ว่า บริษัท เอกชัยการแพทย์ จำกัด (มหาชน) หรือ EKH ของ “หมออำนาจ เอื้ออารีมิตร” เตรียมจะโผไปซบอกบริษัท โรงพยาบาลรามคำแหง จำกัด (มหาชน) หรือ RAM ของ “หมอเอื้อชาติ กาญจนพิทักษ์” ซะแล้ว…

ด้วยการเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง (PP) ให้กับ RAM ซึ่งคาดว่าราคาเพิ่มทุนน่าจะอยู่ 8.60-9.00 บาทต่อหุ้น และจะทำให้ RAM ก้าวขึ้นเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่เบอร์หนึ่งของ EKH แทนกลุ่มเดิมทันที..!!

ขณะที่ EKH  ชี้แจงต่อตลาดหลักทรัพย์ โดยระบุข้อความว่า “บริษัทฯ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนําเสนอข่าวดังกล่าว ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาและยังไม่มีความแน่ชัด โดยขอยืนยันว่าไม่มีการทำคําเสนอซื้อ (Tender Offer)”

จากถ้อยคำดังกล่าว ก็น่าจะชัดเจนแล้วว่า EKH กำลังจะไปเป็นลมใต้ปีก RAM..!?

ถ้าถามว่า ทำไม EKH ต้องไปเป็นลมใต้ปีก RAM ด้วยล่ะ..?

อย่างที่รู้กันว่า EKH เป็นโรงพยาบาลที่มีแค่สาขาเดียว ซึ่งตั้งอยู่ที่ จ.สมุทรสาคร เน้นจับตลาดระดับกลาง-ล่าง ทำให้ที่ผ่านมาโดดเดี่ยวเดียวดาย ดังนั้น การได้ RAM ซึ่งเป็นกลุ่มโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่มีเครือข่ายมากมายมาเป็นเพื่อนคู่คิด (ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ และสตราติจิกพาร์ตเนอร์) ก็น่าจะได้ประโยชน์มากกว่าเสีย…ว่าป๊ะล่ะ

ในมุมของ EKH สิ่งที่จะได้ 1) ถ้าใช้วิธีเพิ่มทุนแบบ PP ตามที่เป็นข่าว จะทำให้ฐานทุนใหญ่ขึ้น…พอฐานทุนใหญ่ขึ้น ต่อไปจะไปกู้แบงก์ ขอโปรเจกต์ไฟแนนซ์ไปลงทุนขยายธุรกิจก็จะได้วงเงินมากขึ้น…และด้วย RAM เข้ามาถือหุ้นใหญ่ ก็จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ หากจะไปลงทุนอะไร ก็อาจทำให้มีต้นทุนไม่สูงมากนัก

2 ) จะทำให้มีอำนาจในการต่อรองมากขึ้น ทำให้ต้นทุนการสั่งซื้อยา และเวชภัณฑ์ต่าง ๆ ลดลง นั่นหมายถึง มาร์จิ้น ของ EKH ก็จะสูงขึ้นด้วย

3) เป็นการขยายฐานลูกค้าไปสู่ตลาดระดับกลาง-บน ซึ่งจะทำให้มีรายได้ต่อหัวสูงขึ้น

และ 4) จะได้เทคโนโลยีทางการแพทย์จาก RAM เข้ามาช่วยเติมเต็ม

ส่วนมุมของ RAM ทั้งเรื่องฐานทุนและต้นทุนคงไม่ใช่สาระสำคัญ แต่ที่จะได้ คือ การมีศูนย์เฉพาะทาง อย่างศูนย์ผู้มีบุตรยาก ซึ่ง EKH มีความเชี่ยวชาญเข้ามาเติมในพอร์ต รวมทั้งการขยายฐานลูกค้าที่เป็นระดับกลาง-ล่าง จาก EKH…หรือต่อไปหาก RAM ต้องการบุกตลาดกลาง-ล่างมากขึ้น ครั้นจะใช้แบรนด์ RAM คงไม่เหมาะ ก็อาจใช้แบรนด์ EKH ในการทำจะเหมาะสมกว่า

โดยถ้าติ๊ต่างว่า ซื้อที่ราคา 9 บาทตามที่เป็นข่าว ก็อาจใช้เงินแค่ 1,000 ล้านบาทเศษ ๆ ซึ่งถือว่าจิ๊บ ๆ สำหรับ RAM แต่ได้ EKH มาเป็นแขนเป็นขาแล้ว…

ขณะที่เจ้าของเดิม EKH ก็ไม่เสียหายอะไร…โอเค สัดส่วนการถือหุ้นอาจจะไดลูทไปบ้าง แต่ปริมาณหุ้นยังเท่าเดิม ในขณะที่มีแวลูมากขึ้น…

งานนี้จึงสมประโยชน์ด้วยกันทุกฝ่าย…

แต่ดูเหมือนนักลงทุนจะไม่ชอบใจดีลนี้สักเท่าไหร่…ดูได้จากวานนี้ (21 เม.ย.) ที่ราคาหุ้น EKH ปรับลดลงกว่า 9.14% ปิดตลาดที่ 8.45 บาท

หรือจะเป็นแค่ปรากฏการณ์ Sell On Fact…ก็ไม่รู้สินะ

แต่หลังจากนอนโดดเดี่ยวเดียวดายมานาน ตอนนี้ EKH คงเข้าใจถ่องแท้แล้วล่ะว่า “คนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตาย สามคนสบาย” อ๊ะป่าว..!?

…อิ อิ อิ…

Back to top button