NETBAY กำไรลด พี/อีเพิ่ม แต่บุ๊กเพิ่ม

บริษัท เน็ตเบย์ จำกัด (มหาชน) หรือ NETBAY หุ้นให้บริการด้านไอที เป็นหุ้นที่ได้รับประโยชน์ในระยะแรกจากการระบาดของโควิด-19 แต่ในระยะยาวผลพวงเชิงลบก็ออกฤทธิ์ไม่ต่างกัน

กำไรไตรมาสแรกที่ลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อน มีคำอธิบายว่าถึงเวลาก็หนีไม่พ้นเพราะกำไรสุทธิของผู้ให้บริการด้านระบบไอทีชั้นนำก็ต้องมีกำไรลดลงไปด้วยอย่างกรณีไม่พ้น

เพียงแต่กำไรที่ลดลงนั้น ทำให้บริษัทที่เจอบรรยากาศหดหู่ ต้องยอมรับสภาวะความถดถอยของรายได้จากลูกค้าใหม่ยังไม่เพิ่ม และลูกค้าเก่าผู้โรยราลงไป ถือว่า “กินบุญเก่า” แม้ว่าบริษัทนี้ยังมีกำไรสุทธิต่อเนื่อง แต่ก็มีกำไรสุทธิจะลดลง

ทางออกที่หวือหวาไม่น่าจะบังเกิดผลมากนัก แม้ผู้บริหารจะพยายามรักษาฐานที่มั่นเพียงใด ก็ยังมองไม่เห็นทางออกจากปัญหาตลาดหดตัวทั่วด้าน

บริษัททำการรุกคืบขยายธุรกิจมาในเครือข่ายให้มากขึ้น โดยเข้าร่วมทุนถือหุ้นกับพันธมิตรรายใหม่ เทคคอนส์ บิส จํากัด ในสัดส่วน 15% ด้วยวงเงินสดมูลค่ารวม 12.5 ล้านบาทในราคามูลค่าหุ้นละ 1,666.67 บาท รวมเงินค่าหุ้นที่ต้องชําระทั้งสิ้นโดยการทําธุรกรรมซื้อขายหุ้นนี้เป็นการเติบโตทางลัดจากธุรกรรมการให้บริการด้านไอที ในส่วนที่ NETBAY ยังไม่ถนัด

การใช้เงินสดเข้าซื้อกิจการจากผู้ประกอบการที่เป็นพันธมิตร น่าจะช่วยให้ไตรมาสสามของปีนี้มีรายได้มากขึ้นส่งผลต่อความสามารถของการทำกำไรในอนาคต

การขยายธุรกิจผ่านการเข้าถือหุ้นถือเป็นทางเลือกในการสร้างธุรกิจที่โตทางลัดอย่างหนึ่ง ส่วนผลลัพธ์จะเป็นเช่นใดคงต้องติดตามกันต่อไป

การเติบโตทางลัดผ่านธุรกรรม M&A ในธุรกิจนวัตกรรมอย่างด้านไอทีนั้น เป็นหนึ่งที่นิยมกันอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ธุรกรรมทั่วไปของตลาดกำลังปรับตัวต่อเนื่องรับมือกับการเปลี่ยนแปลงจากภาวะตีบตันทางธุรกิจไอทีที่ทำมาเพราะกำไรลดลงเนื่องจากรายได้จากการให้บริการสำหรับไตรมาสที่ 1 ปี 2565 เท่ากับ 98.51 ล้านบาท ลดลง 1.23 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2564 ต่อเนื่องจากปีก่อนที่กำไรสุทธิทั้งปีเพิ่มขึ้นต่ำมากอยู่ที่ 160 ล้านบาท หรือโตเพียงแค่ 2%

โดยที่ในปีนี้ แรงกดดันส่วนหนึ่งจะมาจากการปรับฐานอัตราภาษีหลังสิ้นสุดสิทธิประโยชน์ทางภาษีของ BOI จะส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินของ NETBAY จะเพิ่มขึ้นส่งผลต่อกำไรที่ลดลง นอกเหนือจากแนวโน้มของตลาดให้บริการทางด้านแพลตฟอร์มเทคโนโลยีไปได้ชนิด “ถูลู่ถูกัง”

แม้ที่ผ่านมา ทางด้านผู้บริหารของ NETBAY จะดิ้นรนต่อสู้ ด้วยการรุกเจาะฐานลูกค้ากลุ่ม B2G พร้อมเดินหน้าขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมพยายามรักษาการเติบโตที่ 10% ตามเป้า ก็ยังกดดันต่อราคาหุ้นที่เคยขึ้นไปล่าสุดเกือบถึง 32.00 บาท และโบรกเกอร์หลายสำนัก ก็ยังเชียร์ให้เก็บหุ้นสะสมที่ราคาแถว 26,00 บาทเนื่องจากมองเห็นว่ามีโอกาสที่แพลตฟอร์มปัจจุบันหนุนกำไรโต 20% และนวัตกรรมเป็นตัวเร่งกำไรทะลุ 20% แนะ “ซื้อ” ถึงขั้นเคาะเป้าไกล 45.00 บาท ก็ตาม

ค่าพี/อีของหุ้นที่ระดับล่าสุด 33 เท่า ถือว่าสูงเกินไปที่จะเสี่ยง แต่บุ๊กแวลูที่เพิ่มขึ้นน่าจะเป็นข่าวที่ดี

นายพิชิต วิวัฒน์รุจิราพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท NETBAY คาดหมายว่า ทิศทางธุรกิจจะเติบโตดีกว่าปีนี้ หากไม่มีเหตุการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 รอบสอง ประกอบกับธุรกิจนำเข้า ส่งออกสามารถเดินทางได้เป็นปกติแล้ว คาดว่าแนวโน้มการให้บริการแพลตฟอร์มเทคโนโลยีจะมีทิศทางปรับตัวทางบวกเนื่องจากประเมินความต้องการใช้แพลตฟอร์มจากลูกค้ากลุ่มนี้ยังมีความต้องการอีกมาก

ข้อมูลที่ย้อนแย้งกันเองของ NETBAY อย่างนี้ ทำให้ราคาหุ้นแกว่งไกวน่าเวียนหัว เข้าข่ายตาดีได้ ตาร้ายเสีย กันเลยทีเดียว