BCP ครบต้นถึงปลาย.!

ถ้าพูดถึง BCP นักลงทุนยุคอนาล็อกรู้จักกันดี เพราะเข้าตลาดหลักทรัพย์มาตั้งแต่ปีมะโว้ หรือเมื่อปี 2537 โดยบริษัทก่อร่างสร้างตัวมาจากกลางน้ำ


ถ้าพูดถึงบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP นักลงทุนยุคอนาล็อกรู้จักกันดี เพราะเข้าตลาดหลักทรัพย์มาตั้งแต่ปีมะโว้ หรือเมื่อปี 2537 แล้ว…โดย BCP ก่อร่างสร้างตัวมาจากกลางน้ำ นั่นคือ ธุรกิจโรงกลั่น แล้วเชื่อมไปปลายน้ำสู่ธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน ผ่านปั๊มน้ำมันแบรนด์ “บางจาก”

ที่ผ่านมาการขยายของ BCP จะเป็นลักษณะแนวราบ มีความกว้างมากขึ้น คือ ไปสู่พลังงานทดแทน เลยเป็นที่มาของ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) หรือ BCPG ทำธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทางเลือก ทั้งจากพลังงานแสงอาทิตย์  พลังงานน้ำ และพลังงานลม รวมทั้งการขยายไปสู่พลังงานทดแทนอื่น ๆ ผ่านบริษัท บางจากไบโอฟูเอล จำกัด (BBF) ผลิตและจำหน่ายไบโอดีเซล เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับ BCP

ขณะที่ย้อนไปเมื่อราว 8 ปีก่อน หรือในปี 2557 ก็เคยรุกสู่ต้นน้ำ ด้วยการทุ่มเงินก้อนโตราว 3,600 ล้านบาท ซื้อหุ้นนิโด้ ปิโตรเลียม ซึ่งมีแหล่งปิโตรเลียมที่ฟิลิปปินส์…

ทำให้ BCP มีความครบเครื่องตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ..!!

แต่ดูเหมือนการไปสู่ต้นน้ำในครั้งนั้น…อาจผิดที่ ผิดเวลาไปนิด เนื่องจากพอสถานการณ์เปลี่ยนไป ทำให้แทนที่นิโด้ ปิโตรเลียม จะมาช่วยสร้างรายได้…กลับกลายเป็นตัวกดดันกำไรซะงั้น…

สุดท้าย BCP ต้องยอมถอยดีกว่า…ไม่เอาดีกว่า ด้วยการตัดใจขายนิโด้ ปิโตรเลียม ทิ้งไป…

เป็นการ “ตัดขา…เพื่อรักษาลำตัว” ไว้ก่อนนั่นเอง..!!

โอเค…แม้จะไม่ซัคเซสกับธุรกิจต้นน้ำในฟิลิปปินส์… แต่ BCP ก็ยังไม่ยอมแพ้ เปลี่ยนเป้าหมายไปโฟกัสในยุโรปแทน โดยเมื่อปี 2561 ได้เข้าไปซื้อหุ้นสัดส่วน 46% ใน OKEA AS (OKEA) ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการพัฒนาและผลิตปิโตรเลียมในแหล่ง Draugen Field และ Gjøa Field ในประเทศนอร์เวย์

คราวนี้น่าจะมาถูกที่ถูกเวลาแล้วล่ะมั้ง…สะท้อนได้จากรายได้ในกลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติที่เข้ามามีบทบาทต่อโครงสร้างรายได้ของ BCP มากขึ้น โดยเฉพาะในงบไตรมาส 1/2565 ซึ่งรายได้กลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติโตก้าวกระโดดมาอยู่ที่ 4,241 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 1,000% จากช่วงเดียวกันปีก่อน

จุดที่น่าสนใจ…จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก ทำให้ราคาขายเฉลี่ยน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติปรับเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ประกอบกับผลกระทบจากสงครามรัสเซียกับยูเครน ยิ่งทำให้ราคาขายเฉลี่ยน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติทรงตัวอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะราคาก๊าซธรรมชาติที่เพิ่มขึ้นถึง 367% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

นั่นหมายถึงโอกาสของ BCP และ OKEA ด้วยเช่นกัน…

เลยเป็นที่มาของการบุกต้นน้ำมากขึ้น ผ่าน OKEA ซึ่งล่าสุดได้ลงนามในสัญญาซื้อขายแหล่งปิโตรเลียมในทะเลเหนือเพิ่ม 3 แหล่ง ได้แก่ แหล่ง Brage สัดส่วน 35.2%, แหล่ง Ivar Aasen สัดส่วน 6.4%, และแหล่ง Nova สัดส่วน 6% ซึ่งจะเพิ่มปริมาณการผลิตปิโตรเลียมในปี 2565 ของ OKEA อีกประมาณ 5,000 ถึง 6,000 บาร์เรลต่อวัน

ก็น่าสนใจ BCP กับกลยุทธ์บุกต้นน้ำในโซนยุโรปจะซัคเซสมากน้อยแค่ไหน..?

หวังว่าประวัติศาสตร์จะไม่ซ้ำรอยเดิมอีกนะ..!?

…อิ อิ อิ…

Back to top button