เงินไหลเข้ายาว!?

ค่าเงินบาทถือเป็นฟันเฟืองต่อตลาดหุ้น นับว่าเป็นอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญในการขับเคลื่อนที่บ่งชี้ว่า ฟันด์โฟลว์ไหลเข้าหรือออก


*ค่าเงินบาทถือเป็นฟันเฟืองต่อตลาดหุ้น นับว่าเป็นอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญในการขับเคลื่อนที่บ่งชี้ว่า ฟันด์โฟลว์ไหลเข้า หรือฟันด์โฟลว์ไหลออก ดังนั้น “โมนิก้า” จึงเข้าไปสำรวจค่าเงินบาทล่าสุด เบื้องต้นพบว่าเงินบาทแข็งค่าแถว 44 บาท/ดอลลาร์ จากก่อนหน้า ณ วันที่ 12 พ.ค. 65 เงินบาทอ่อนค่าไปแตะ 34.73 บาท/ดอลลาร์ ทั้งนี้เมื่อเงินบาทแข็งค่า เดี๊ยนประมาณการได้ว่าเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติอาจจะไหลเข้ามาสู่ตลาดหุ้นไทยต่อเนื่องจากนี้ไปนะจ๊ะ

*หลังจากช่วงที่ผ่านมา ท่ามกลางเงินลงทุนของต่างชาติที่ไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง เดือน พ.ค. 65 นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิราว 1.45 หมื่นล้านบาท ขณะที่ต้นปีนี้จนถึงปัจจุบันต่างชาติซื้อสุทธิแล้ว 1.36 แสนล้านบาท และวานนี้ต่างชาติซื้อสุทธิอีก 3.67 พันล้านบาท จึงทำให้ดัชนีปรับตัวขึ้นไปปิดที่ระดับ 1,653.61 จุด บวกไป 14.86 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.76 หมื่นล้านบาท เบื้องต้น “โมนิก้า” เชื่อว่าหากเงินบาทแข็งค่ามากขึ้นฟันด์โฟลว์ก็ยังคงไหลเข้าตลาดหุ้นต่อเจ้าค่ะ

*วันนี้จึงต้องเอ่ยถึงหุ้นฟอร์มสวย เพื่อให้แฟนคลับได้ไปประเมินกัน หลังจากดัชนีฟื้นตัวใหม่ในเที่ยวนี้ หลังวิ่งไปเบรกได้แข็งแกร่งปิดเหนือ 1,650 จุด มันเป็นสัญญาณที่ดีมีโอกาสเห็นดัชนีไปต่อได้ และเป็นแรงจูงใจที่จะทำให้แฟนคลับชื่นอกชื่นใจมากยิ่งขึ้น “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องประเมินทุกอย่างด้วยตนเองว่าไล่ราคาต่อหรือพอแค่นี้ ด้วยความคิดเห็นของตัวเอง และรอบข้างโดยเฉพาะนักวิเคราะห์มองทิศทางตลาดหุ้นอย่างไรเจ้าค่ะ

*สำหรับรายของ TSR มีข่าวดีงามเข้ามาให้เห็นในการผนึกกำลัง “SABUY” เพิ่มช่องทางรับผลิตสินค้าป้อนเครือข่าย เช่นตู้น้ำหยอดเหรียญ ตู้กดน้ำร้อน-เย็น ขยายตลาดแบบ B2B หนุนยอดขายเติบโตอนาคต งานนี้ “โมนิก้า” จึงไม่แปลกใจว่าทำไมราคาหุ้นบนกระดานคึกคัก ล่าสุดขึ้นไปปิดที่ระดับ 4.88 บาท บวกไป 0.56 บาท หรือขึ้นไป 12.96% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 297 ล้านบาท ถือว่าเป็นซ็อตที่น่าตามดูเหลือเกินว่ายังไปต่อเจ้าค่ะ

*เช่นเดียวกับ BE8 ฟื้นฐานแกร่ง ทางนักวิเคราะห์ยังการันตีว่าในปี 65-67 ยังเติบโตก้าวกระโดดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 50% ต่อปี สอดคล้องกับภาพเมกะเทรนด์ของธุรกิจสู่ดิจิทัล ผสานกับเข้าซื้อกิจการ X10 ผลพวงดังกล่าวผลักดันให้ราคาหุ้นวิ่งขึ้นไปปิดที่ระดับ 50.50 บาท บวกไป 2 บาท หรือขึ้นไป 4.12% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 357 ล้านบาท งานนี้ “โมนิก้า” มองว่านับเป็นหุ้นที่น่าซื้อไว้ติดพอร์ตเอาไว้ เพราะเชื่อว่าอนาคตสุดปังแน่นอนทั้งกำไรและราคาเจ้าค่ะ

 *เหมือนกับ BBIK ผลงานเติบโตแกร่งแน่โดยเฉพาะในไตรมาส 2/65 เพราะนักวิเคราะห์ประเมินว่าจะทำนิวไฮต่อเนื่อง คาดกำไรราว 29 ลบ. พร้อมกับตอกย้ำทั้งปีเห็นกำไรแตะ 110 ลบ. ด้วยแบ็กล็อกเข้ามาอย่างต่อเนื่องล่าสุดสูงถึง 459 ลบ. ผลดังกล่าวสะท้อนสู่ราคาหุ้นที่มีการขยับขึ้นมาปิดที่ระดับ 70.75 ล้านบาท บวกไป 3.50 บาท หรือขึ้นไป 5.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 154 ล้านบาท ความสดใสของธุรกิจทำให้ “โมนิก้า” บอกได้ว่าเดินหน้าลุยเต็มสูบเจ้าค่ะอิอิ

*ส่วนรายของ BCH จะสดใสต่อเนื่องในไตรมาส 2/65 เติบโตทั้งส่วนของรายได้และกำไร เริ่มรับรู้ในส่วนของผู้ป่วยชาวต่างชาติที่ฟื้นตัว หลังเปิดประเทศเต็มตัว ผนวกกับฐานผู้ป่วยคนไทยดีขึ้นมากจากภาคปกติ ทั้งผู้ป่วย OPD และ IPD เติบโตอย่างแข็งแกร่ง “โมนิก้า” จึงรู้สึกได้ถึงราคาหุ้นพุ่งแรงขึ้นไปปิดที่ระดับ 19.90 บาท บวกไป 0.90 บาท หรือขึ้นไป 4.74% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 518.18 ล้านบาท เลยทำให้เดี๊ยนเล็งว่าราคาหุ้นยังมีโอกาสไปทดสอบราคาเป้า 23.60 บาทเป็นแน่เจ้าค่ะ

*ปิดท้ายที่รายของ CPN ลึก ๆ ได้รับประโยชน์จากการคลายล็อกดาวน์ หนุน Traffic การเดินห้าง ตลอดจนการให้ส่วนลดค่าเช่าแก้ผู้เช่าทยอยลดลง ผลดังกล่าวทำให้การเช่าพื้นที่กลับมาคึกคัก เช่นเดียวกันราคาหุ้นขึ้นมาปิดที่ระดับ 63 บาท บวกไป 2.25 บาท หรือขึ้นไป 3.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 938 ล้านบาท งานนี้ทำให้ราคายืนเหนือทุกเส้นค่าเฉลี่ยที่เรียงตัวจากน้อยไปมาก “โมนิก้า” เชื่อแนวโน้มขาขึ้นได้อีก ลุ้นทะลุผ่าน High เดิมที่บริเวณ 63.75 บาท จะไปต่อได้ไกลเจ้าค่ะ

Back to top button