BAFS หุ้นดีที่ถูกมองข้าม.!

หุ้นในธีมเปิดเมืองอย่างบริษัท BAFS ดูเหมือนอยู่นอกจอเรดาร์นักลงทุน ที่ส่วนใหญ่เทน้ำหนักไปที่กลุ่มท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร


หุ้นในธีมเปิดเมืองอย่างบริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS ดูเหมือนอยู่นอกจอเรดาร์นักลงทุน ที่ส่วนใหญ่เทน้ำหนักไปที่กลุ่มท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร สายการบินและสนามบิน จนหลายหุ้นราคาเริ่มกลับมาสู่ระดับใกล้เคียงกับช่วงก่อนโควิดแล้ว..

แต่หุ้น BAFS ราคายังฟื้นกลับมาแบบไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยมากนัก จากช่วงก่อนโควิด ราคาหุ้นเฉลี่ยประมาณ 40-50 บาท แต่ปัจจุบันราคาเฉลี่ยไม่เกิน 30 บาท ปัจจัยหลักมาจากผลขาดทุนสุทธิตลอดช่วง 8 ไตรมาสที่ผ่านมา..

อย่างไรก็ดีเริ่มสัญญาณเชิงบวกจากงบไตรมาส 1/65 จากปริมาณการให้บริการเชื้อเพลิงอากาศยานโตขึ้นสูงสุดรอบ 8 ไตรมาส มาอยู่ที่ 566 ล้านลิตร หรือเพิ่มขึ้นกว่า 38% จากไตรมาส 1/64 และเพิ่มขึ้นกว่า 16% จากไตรมาส 4/64 ที่ผ่านมา หลังกิจกรรมการบินที่เริ่มฟื้นตัวขึ้น

มีการมองข้ามช็อตไปที่ไตรมาส 3/65 ว่า BAFS มีโอกาสกลับมามีกำไรได้อีกครั้ง จากปริมาณการให้บริการเชื้อเพลิงอากาศยานประมาณ 800-900 ล้านลิตร แม้ตัวเลขต่ำกว่าช่วงก่อนโควิดกว่า 40% แต่ถือว่าสูงกว่าไตรมาส 1/65 เกือบเท่าตัว

นั่นทำให้ “ม.ล.ณัฐสิทธิ์ ดิศกุล” กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ BAFS ประเมินว่า BAFS จะสามารถกลับมีกำไรปี 2566 และหากสถานการณ์เดินทางฟื้นตัวเร็ว อาจเห็นตัวเลขกำไรได้เร็วกว่านั้น หลังไตรมาส 2/65 เริ่ม เห็นสัญญาณฟื้นอย่างชัดเจน หลังผ่อนคลายมาตรการให้เข้า-ออกจากประเทศสะดวกขึ้น

โดยปริมาณเติมน้ำมันอากาศยานปีนี้จะอยู่ที่ 3,290 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 101% จากปี 2564 ที่มีปริมาณ 1,638 ล้านลิตร และสัดส่วนเท่ากับ 54% ของปี 2562 ก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 ที่มีปริมาณ 6,139 ล้านลิตร ส่วนธุรกิจการให้บริการขนส่งน้ำมันทางท่อ (NFPT) ปีนี้จะมีปริมาณ 506 ล้านลิตร เติบโต 53% จากปีก่อนที่มี 330 ล้านลิตร

อย่างไรก็ดีตัวเลขสำคัญทางเงินก่อนเกิดโควิด BAFS ถือว่าน่าสนใจไม่แพ้หุ้นน้ำดีตัวอื่น ๆ เริ่มจากรายได้เฉลี่ยปีละ 3,800-4,000 ล้านบาท กำไรสุทธิปีละ 1,000 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิเฉลี่ยปีละเกือบ 30% ที่สำคัญผลตอบแทนจากเงินปันผลเฉลี่ย 4-5% ต่อปี และมีกำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรรกว่า 623 ล้านบาท

ด้วยธุรกิจที่มีคุณลักษณะผูกขาด (Monopoly) จึงทำให้ BAFS มีความน่าสนใจไม่แพ้หุ้นบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ที่มีคุณลักษณะเดียวกันคือไม่มีคู่แข่งในธุรกิจเดียว นั่นหมายถึงการฟื้นตัวของกิจการบินที่กำลังเกิดขึ้นขณะนี้ กำลังกลายเป็นตัวเร่งตัวเลขรายได้และกำไร BAFS เทิร์นอะราวด์อย่างน่าสนใจ.!!

นี่ยังไม่รวมรับรู้ผลขาดทุนน้อยลงอย่างมีนัยสำคัญ..จากโครงการขยายระบบท่อขนส่งน้ำมันไปภาคเหนือ (NFPT) หลังจากเริ่มดำเนินงานเฟส 2 เมื่อช่วงไตรมาส 3/64 ที่ผ่านมา และคาดว่าปริมาณการขนส่งจะปรับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังสามารถชิงส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นและโครงการ NFPT จะมี EBITDA ที่คุ้มทุนช่วงปี 2567 ด้วยส่วนแบ่งตลาดไม่ต่ำกว่า 50% หรือปริมาณการขนส่ง 500 ล้านลิตรต่อไตรมาส (เทียบกับ 95 ล้านลิตรช่วงไตรมาส 1/65)

สำหรับนักลงทุนประเภทลงทุนระยะกลาง-ยาว หุ้น BAFS น่าจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ยิ่งราคาหุ้นยังแลกการ์ดอยู่แบบนี้..ยิ่งทำให้โอกาสได้ผลตอบแทนคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น..!!??

Back to top button