สังคมข่าวหุ้น

ดัชนี SET ปิดบวก 20.58 จุด ขึ้นมาที่ 1,562 จุด มูลค่าการซื้อขาย  65,952 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิวันที่สองติดกันอีกกว่า 1,812 ล้านบาท


ดัชนี SET ปิดบวก 20.58 จุด ขึ้นมาที่ 1,562 จุด มูลค่าการซื้อขาย  65,952 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิวันที่สองติดกันอีกกว่า 1,812 ล้านบาท เช่นเดียวกับกองทุนที่ซื้ออีกนิดหน่อย 89 ล้านบาท ถามว่า มีนัยสำคัญต่อตลาดอย่างไร? คำตอบคือ ยังคาดการณ์อะไรมากไม่ได้ อย่างราคาน้ำมันโลกปรับลง และช่วยให้แรงกดดันเงินเฟ้อลดลง ไม่แน่ใจว่าเป็นปัจจัยบวกชั่วคราวหรือเปล่า คำแนะนำตอนนี้ คือ เข้าเร็วออกเร็ว มีกำไรนิด ๆ หน่อย ๆ เอาไว้ก่อน

หุ้นกลุ่มธนาคารพากันร่วงระนาว ทั้ง KBANK BBL SCB KTB ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่ามาจากปัจจัยอะไร หากเป็นเรื่องของ NPL จะปรับตัวสูงขึ้น ดูแล้วก็ไม่น่าจะใช่ เพราะแต่ละแบงก์เองยืนยันว่าแนวโน้มยังดี และยกการ์ดการตั้งสำรองกันสูงมาก หรืออาจจะมาจากนโยบายของหน่วยงานกำกับดูแลที่อาจจะมีอะไรออกมาหรือเปล่า ต้องติดตามกัน ส่วนแบงก์เล็ก TISCO KKP ราคาหุ้นค่อนข้างทรงตัว ไม่ได้ขยับลงมากนัก

หุ้นกลุ่มเจ มาร์ทของ “เสี่ยตุ้ม” อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา เริ่มฟื้นตัว หลังจากราคาได้ปรับลงตามภาวะโดยรวมของตลาดมาก่อนหน้านี้ และ JMART ได้ถูกขายใน NVDR มาต่อเนื่อง ล่าสุด แรงขายหมดล่ะ ราคาดีดกลับหลังจากแนวรับ 45.00 บาท เอาอยู่ วานนี้ปิดบวก 14.75 บาท มาที่ 46.75 บาท ระยะสั้น แนวต้านใหญ่ 50.00 บาท และราคาน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 47-49 บาท

ส่วน JMT และ SINGER ราคาดีดกลับด้วยเช่นเดียวกัน ซิงเกอร์มีแนวต้านที่ระดับ 40.00 บาท แนวโน้มไตรมาส 2/2565 ข่าวว่ารายได้ กำไรยังเติบโตดี เป็นไปตามเป้าหมาย และ JMT การจัดเก็บหนี้ยังทำได้ดี ปีนี้มีปัจจัยหนุนจากตั้ง JV AMC กับ KBANK ช่วงที่ราคาร่วงก่อนหน้านี้จึงเหมาะต่อการทยอยสะสม เพราะมีโอกาสที่ราคารอบใหม่อาจจะดันขึ้นไปทำนิวไฮหรือเหนือ 88.25 บาท

หุ้น  SABUY บมจ.สบาย เทคโนโลยี ของเฮียชูเกียรติ รุจนพรพจี แม้วานนี้จะดีดกลับ แต่ยังวางใจไม่ได้ เพราะไม่แน่ใจว่า เจ้ามือจะลากขึ้นมา “เชือด” หรือเปล่า เพราะหากดูจากกราฟก่อนหน้านี้ จะพบว่า ช่วงที่ราคาหุ้นพอลงมามาก ๆ แล้วดีดกลับ จะมีแรงซื้อตามเยอะ หลังจากนั้น จะถูกเทติดอยู่บนดอยกันเพียบ ส่วนแนวโน้มไตรมาส 2 ที่คาดว่ากำไรจะเติบโต 250-300% คงต้องรอใกล้ ๆ ประกาศงบกัน แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่า หากกำไรออกมาสูงจริง หุ้นอาจจะถูก “ตบลง” ก่อนอีกครั้ง อาจหลุด 15.00 บาท หลังจากนั้น พอแจ้งงบฯ ราคาจึงค่อยดีดกลับ ราคาหุ้นที่เหมาะต่อการเข้าคือ ต่ำกว่า 15.00 บาท หรือหากจะให้ชัวร์จริง ๆ มารอแถว ๆ 10.00 บาท น่าจะปลอดภัย

JASIF ในระยะสั้นราคาน่าจะนิ่ง ๆ บริเวณ 9.00 บาท บวก/ลบ และพอประกาศงบ แจ้งจ่ายปันผลงวดไตรมาส 2/2565 (โบรกฯ คาด 0.23-0.24 บาท) และขึ้น XD ราคาต่อหน่วยน่าจะขยับขึ้นมายืนเหนือ 9.00 บาท ได้ หลังจากนั้น รอความชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายและข้อเสนอของ ADVANC ในการใช้โครงข่ายของ JASIF และเชื่อว่าแอดวานซ์ฯ เตรียมสเต็ปสองที่จะเสนอผลประโยชน์ เพื่อเป็นแรงจูงใจให้ผู้ถือหน่วยรายใหญ่อนุมัติการเปลี่ยนแปลงสัญญาใน JASIF เพราะหากผลประโยชน์ที่ได้รับหากต่ำกว่าที่เคยได้ ผู้ถือหน่วยคงไม่เล่นด้วยแน่นอน

ฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) นำทีมเข้าร่วมงานมหกรรมการเงินหาดใหญ่ ครั้งที่ 12  สินเชื่อบ้านดอกเบี้ยต่ำปีแรก MRR-3.55% (2.60%) ต่อปี และพิเศษช่วง Golden Minute อัตราดอกเบี้ยปีแรกไม่ถึง 1% ต่อปี และพบกับสลากออมทรัพย์ ธอส. ลุ้นรางวัลสูงสุดถึง 2 ล้านบาท บ้านมือสองคุณภาพดีกว่า 300 รายการ ลดสูงสุด 40% ราคาขายต่ำสุด 160,000 บาท จัดขึ้นวันที่ 8-10 ก.ค. 2565 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล หาดใหญ่

Back to top button