จับคู่เทรนด์ใหม่ โลจิสติกส์-อสังหาฯ

ในรอบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดปรากฏการณ์ที่น่าสนใจ นั่นคือการจับคู่เป็นพันธมิตรกันระหว่างบริษัทโลจิสติกส์กับบริษัทที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์


ในรอบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดปรากฏการณ์ที่น่าสนใจ นั่นคือการจับคู่เป็นพันธมิตรกันระหว่างบริษัทโลจิสติกส์กับบริษัทที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ เพื่อร่วมกันทำธุรกิจให้บริการเช่าคลังสินค้า หรือแวร์เฮาส์ และพื้นที่เก็บของให้เช่า..!!

ที่ว่าน่าสนใจ เพราะเป็นการหาทางออกของทั้งสองฝ่าย…ในมุมโลจิสติกส์ เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มในการบริหารจัดการคลังสินค้าและพื้นที่เก็บของให้เช่า ขณะที่บริษัทด้านอสังหาฯ ก็ได้นำพื้นที่ที่ขายไม่ออก…อุ๊ย เหลือใช้ มาสร้างมูลค่าเพิ่ม…

ทำให้อย่างน้อย ๆ ในห้วงเวลา 2 สัปดาห์มานี้ มี 2 คู่ชูชื่นที่เกี่ยวก้อยกลายเป็นบัดดี้กันแล้ว..!!

เริ่มจากบริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LEO ที่ไปจับไม้จับมือกับบริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA เพื่อร่วมกันทำธุรกิจให้บริการเช่าคลังสินค้า และธุรกิจพื้นที่ห้องเก็บของให้เช่า…เน้นเจาะตลาดในเขตพื้นที่ EEC รองรับดีมานด์ลูกค้าไทยและต่างประเทศ

ประเดิมพัฒนาสาขาแรกที่ศูนย์การค้าเสนาเฟสท์ เจริญนคร 16 พื้นที่ 1,300 ตาราง คาดจะเปิดให้บริการได้ในไตรมาส 4/2565 ก่อนจะขยายไปทำเลอื่น ๆ เช่น รัชดา-พระราม 9, ย่านอารีย์, ลาดกะบัง, บางนา และวังน้อย เป็นต้น

ฟากบริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JWD ก็ไปจับกับบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN ในการรุกทำธุรกิจพื้นที่ห้องเก็บของให้เช่า ภายใต้ชื่อบริการ JWD Store It! โดย CPN จะเข้ามาถือหุ้นในบริษัท เจดับเบิ้ลยูดี สโตร์ อิท จํากัด (JWD Store It!) ในสัดส่วน 30% ด้วยงบลงทุนกว่า 100 ล้านบาท

ขณะที่ ปัจจุบัน JWD Store It! ให้บริการพื้นที่เก็บของให้เช่ารวมทั้งสิ้น 6 สาขา อยู่ในทำเลกรุงเทพมหานคร 5 สาขา และในจังหวัดภูเก็ต 1 สาขา โดยให้บริการให้เช่าห้องเก็บของส่วนตัว บริการตู้นิรภัยให้เช่า (Safe Deposit Box) เพื่อเก็บของมีค่า รวมถึงบริการห้องเก็บไวน์ระดับพรีเมียม (Wine Bank) รองรับดีมานด์กลุ่มนักสะสมไวน์ ร้านอาหารและร้านค้า ซึ่งมีพื้นที่ให้บริการรวมกว่า 13,000 ตารางเมตร

ถ้าเจาะให้ลึกสุดใจ จะเห็นว่าแต่ละฝ่ายมีความถนัดเฉพาะทางที่แตกต่างกัน อย่างกลุ่มโลจิสติกส์ LEO และ JWD ถ้าจะให้ไปสร้างพวกแวร์เฮาส์ ศูนย์กระจายสินค้า ฯลฯ ก็คงไม่ถนัด แต่ทั้งคู่จะมีโนว์ฮาวในการบริหารจัดการคลังสินค้า และการให้บริการพื้นที่เก็บของให้เช่า

ที่สำคัญ อาจมีเครือข่ายลูกค้าที่ต้องการใช้บริการแวร์เฮาส์ ศูนย์กระจายสินค้า และพื้นที่เก็บของให้เช่ารออยู่แล้ว..!!

ส่วนกลุ่มอสังหาฯ SENA กับ CPN เดิมสร้างบ้าน สร้างคอนโดฯ ตึกอาคารอยู่แล้ว ก็จะมีความเชี่ยวชาญด้านการก่อสร้างและการออกแบบมากกว่า สามารถออกแบบพื้นที่การใช้สอยอาคารได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งอาจมีพื้นที่เหลือใช้ที่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์ ก็สามารถนำมาสร้างมูลค่าเพิ่มได้…

ถือเป็นการเอาโนว์ฮาวที่แต่ละฝ่ายมี มา “ปิดจุดอ่อน”-“เสริมจุดแข็ง” ของกันและกัน…

ก็อาจเป็นไปได้ว่า สองคู่บัดดี้ มองว่าการทำธุรกิจในยุคนี้ นับวันยิ่งมีโจทย์ยากท้าทายรอบด้าน ดังนั้นการจับมือกันสู้ มีพันธมิตรธุรกิจมาสุมหัวร่วมกันคิดและทำ น่าจะช่วยลดความเสี่ยง เพิ่มทางรอด และมีโอกาสรุ่งมากกว่าสู้คนเดียว…เลยเป็นที่มาของการมาควงแขนเป็นพันธมิตรกัน..?

เข้าทำนอง สองหัวดีกว่าหัวเดียวนั่นแหละ…

ซึ่งไม่แน่หลังจากนี้ เราอาจเห็นบัดดี้คู่ใหม่ ตามมาอีกก็เป็นได้…ใครจะไปรู้

ตอนนี้คงไม่ใช่แค่ “ต้องสู้ ต้องสู้ จึงจะชนะ” แล้วล่ะ แต่น่าจะ “ต้องสู้ไปด้วยกัน จึงจะชนะ” ต่างหากล่ะ..!??

…อิ อิ อิ…

Back to top button