ดีลไม่ดีล.? แบงก์ขายบลจ.

กลับมาเป็นข่าวอึกทึกครึกโครมอีกครั้ง..!! กับกรณีแบงก์จะขายธุรกิจจัดการกองทุน หรือ บลจ. ซึ่งล่าสุดมีกระแสข่าวว่าบริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB จะขายบลจ.ไทยพาณิชย์ (SCBAM) เบื้องต้นคาดจะมีมูลค่าธุรกรรมราว 1-1.5 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 3.6-5.4 หมื่นล้านบาท


กลับมาเป็นข่าวอึกทึกครึกโครมอีกครั้ง..!! กับกรณีแบงก์จะขายธุรกิจจัดการกองทุน หรือ บลจ. ซึ่งล่าสุดมีกระแสข่าวว่าบริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB จะขาย บลจ.ไทยพาณิชย์ (SCBAM) เบื้องต้นคาดจะมีมูลค่าธุรกรรมราว 1-1.5 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 3.6-5.4 หมื่นล้านบาท

ร้อนถึง SCB ที่ต้องออกมาปฏิเสธถึง 2 รอบ ว่าไม่จริ๊งไม่จริง…อย่าไปเชื่อ ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด

โอเค…ก็ว่ากันไปตามนั้น…

แต่จะว่าไป เรื่องแบงก์จะขายบลจ.ไม่ใช่เรื่องใหม่นะ เพราะก่อนหน้านี้ก็มีอีกแบงก์ที่มีกระแสข่าวว่าจะขายบลจ.เหมือนกัน นั่นคือ แบงก์สีเขียว ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ที่เมื่อช่วงต้นปีมีกระแสข่าวจะขายบลจ.กสิกรไทย มูลค่าสูงถึง 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 6.7 หมื่นล้านบาท..!!

ตอนนั้น KBANK ก็ออกมาปฏิเสธเหมือนกัน…ซึ่งสุดท้ายดีลก็เงียบหายเข้าป่ากล้วยไป…ก็ไม่รู้จะเป็นเพราะดีลไม่ดันหรือเปล่า..?

แต่ทั้ง 2 กรณี ถ้าไม่มีมูล…หมามันคงไม่ขี้หรอกมั้ง…ว่าป๊ะล่ะ

ที่จริงธุรกิจจัดการกองทุน หรือ บลจ. ก็เป็นตัวทำกำไรให้กับแบงก์เป็นกอบเป็นกำเลยนะ…อย่างบลจ.ไทยพาณิชย์ ณ สิ้นไตรมาส 1/2565 มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) มูลค่าประมาณ 1.6 ล้านล้านบาท มีมาร์เก็ตแชร์เท่ากับ 18.9% เป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย โดยในปี 2564 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ระดับ 1,600 ล้านบาท

ขณะที่ บลจ.กสิกรไทย ถือเป็นกองทุนที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศไทย และมีสาขาครอบคลุมที่เน้นรายย่อย ทำให้สินทรัพย์ภายใต้การบริหารมีศักยภาพในการเติบโตที่แข็งแกร่ง โดยที่ผ่านมาสามารถปั๊มกำไรให้กับ KBANK ได้เฉลี่ยปีละไม่ต่ำกว่า 3,100-3,200 ล้านบาท หรือคิดเป็น 7.6% ของกำไรทั้งปีเชียวนะ…

ก็ไม่ใช่ไขมันพอกตับซะหน่อย แล้วทำไม SCB กับ KBANK จะขายธุรกิจจัดการกองทุน หรือ บลจ. ทิ้งเสียล่ะ…อันนี้น่าคิด

ถ้าให้วิเคราะห์…ด้วยบริบทของแบงก์ที่เปลี๊ยนไป๋ ในอดีตแบงก์ต้องพึ่งพารายได้จากดอกเบี้ยเป็นหลัก แต่แบงก์ยุคใหม่พยายามฉีกไปหารายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยมากขึ้น เห็นได้ชัดกรณี SCB ที่พยายามลอกคราบขึ้นเป็นยานแม่ หรือเป็นมากกว่าแบงก์ เพื่อให้มีความคล่องตัว สามารถไปลงทุนในธุรกิจใหม่ ๆ ที่มีมาร์จิ้นที่ดีกว่า

เฉกเช่นเดียวกับ KBANK ก็มีการขยับอย่างต่อเนื่อง เป็นมากกว่าแบงก์มานานแล้ว แค่การขยับอาจไม่หวือหวาก็เท่านั้น…

ดังนั้น หากทั้งคู่ขายบลจ.จริง ก็จะมีเงินทุนไปลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพมากขึ้น…

ที่สำคัญ แม้จะขายธุรกิจจัดการกองทุนไปแล้ว SCB กับ KBANK ก็ยังสามารถทำตัวเป็นนายหน้าขายกองทุนให้กับบลจ.ไทยพาณิชย์และบลจ.กสิกรไทย รวมทั้งบริษัทจัดการกองทุนอื่น ๆ ได้ โดยใช้ทรัพยากรที่มีอยู่เดิม ไม่ว่าจะเป็นสาขา พนักงานสาขา ตู้เอทีเอ็ม หรือแพลตฟอร์มดิจิทัล แถมไม่ต้องมีภาระในการแบกแอสเซตให้ยุ่งยาก…เป็นแค่นายหน้า กินค่าคอมมิชชันไป…ก็ไม่เสียหายอะไรนะ

ดู ๆ ไปแล้ว ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่ขาย…ถ้าเงื่อนไขและตัวเลข (ราคา) มันคลิกกัน..!?

โอเค…ตอนนี้ทั้งคู่อาจยังปฏิเสธเสียงแข็ง…แต่ก็น่าจับตาว่าท้ายที่สุดแล้ว SCB กับ KBANK จะขายธุรกิจจัดการกองทุนหรือเปล่า..? แล้วใครจะขายก่อนกัน..?

จะสีม่วงหรือสีเขียว…อีกไม่นานก็ได้รู้กัน..!!

…อิ อิ อิ…

Back to top button