‘เกมตีกิน’ ประชาธิปัตย์

ก่อนศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจเพียงวันเดียว “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” รีบออกมาเคลมผลงาน เรื่องเร่งรัดปรับลดราคาน้ำมันปาล์มขวด


ก่อนศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจเพียงวันเดียว “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ (หนึ่งในรัฐมนตรีที่ถูกอภิปราย) รีบออกมาเคลมผลงาน เรื่องเร่งรัดปรับลดราคาน้ำมันปาล์มขวดว่าสัปดาห์ที่แล้วราคาขายตามห้างสรรพสินค้าและร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ ปรับลดลงมาขวดละ 5-6 บาทและภายในสัปดาห์นี้จะลดลงอีกขวดละ 3-4 บาท

ต่อจากนี้เป็นคิวของ “ไก่สด” ราคาจะปรับลดลง ที่รมว.พาณิชย์อ้างว่า หลังหารือโรงชำแหละรายใหญ่ ที่พร้อมให้ความร่วมมือหลังจากราคาไก่สดปรับขึ้นตามต้นทุนอาหารสัตว์ ที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ

ขณะที่ “หมู” ราคาจะปรับลดลงเช่นเดียวกัน หลังจากสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ยืนยันให้ความร่วมมือ ที่จะรักษาระดับราคาหมูมีชีวิตหน้าฟาร์มไว้ที่ระดับ 100 บาทต่อกิโลกรัม แม้ต้นทุนการเลี้ยงทรงตัวสูงอยู่ก็ตาม

ในเชิงการเมือง ถือว่าเป็น “การตีกิน” หรือการฉวยโอกาสเอาประโยชน์ที่ไม่ควรได้ มาใช้เป็น “ยันต์กันอภิปราย” เอาไว้ก่อน เพราะพรรคแมงสาบรู้ดีว่าฝ่ายค้านต้องหยิบยกเรื่อง “ราคาสินค้า” มาเป็นประเด็นอภิปรายแน่นอน เมื่อถึงตอนนั้นท่านรมว.พาณิชย์ จะได้รุกขึ้นตอบฝ่ายค้านในสภาได้ว่า..

“นี่ไง..กระทรวงพาณิชย์ มีนโยบายและแนวทางแก้ปัญหาเรื่องราคาสินค้าแล้ว..ราคาน้ำมันปาล์มขวดได้ปรับลงแล้ว..และราคา “หมูและไก่” ก็จะปรับลงตามเร็ว ๆ นี้เช่นกัน”

แต่แปลกพอเรื่อง “ราคาขายปลีกน้ำมัน” ไม่เห็นรมว.พาณิชย์พูดถึงเลย..แต่กลับโยนไปให้กระทรวงพลังงาน (พรรคพลังประชาชารัฐ) ไปแก้ปัญหาเอง..

อันที่จริงเรื่องราคาสินค้า..มันเป็นเรื่อง “ดีมานด์-ซัพพลาย” และเป็นซีซั่นของมันเอง..มิใช่หรือ..!?

ผลจากการเคลมผลงานของรมว.พาณิชย์ มันส่งผลมาถึงตลาดหุ้นทันที..เพราะถือเป็นเซนติเมนต์เชิงลบต่อหุ้นกลุ่มเนื้อสัตว์ ทั้งบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF, บริษัท จีเอฟพีที จำกัด (มหาชน) หรือ GFPT และบริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TFG เพราะนั่นหมายถึงเป็นการเข้ามาควบคุมราคาของภาครัฐอีกครั้ง

ทำให้ทั้ง CPF-GFPT และ TFG เจอแรงเทขายทันที..นักลงทุนเสียหายอย่างไรไม่สน..แต่งานรมว.ได้หน้าไปเต็ม ๆ..!

อย่างไรก็ตามต้องติดตามราคาเนื้อสัตว์ระยะถัดไป แต่เชื่อว่าขึ้นอยู่กับดีมานด์-ซัพพลายเป็นหลัก

กรณีโรค ASF ในหมู ต้องใช้เวลานานพอควรกว่าซัพพลายจะกลับมาเท่าเดิม และราคาเนื้อสัตว์อาจปรับลดได้ตามต้นทุนอาหารสัตว์ที่เริ่มย่อลง แต่เชื่อว่าจะไม่มีการปรับราคาให้ต่ำกว่าต้นทุนการเลี้ยง

“กลเกมตีกิน” ของรมว.พาณิชย์และพรรคประชาธิปัตย์ในครั้งนี้ดูเป็นเรื่องชินตาทุกครั้งเมื่อมีการอภิปรายรัฐมนตรีของพรรคนี้ เพื่อหาทางเอาตัวรอดทุก ๆ ครั้งไป

เดี๋ยวคงต้องดูกันละว่าศึกซักฟอกครั้งนี้ “รมว.พาณิชย์” จะเอาตัวรอดได้อย่างไร..!!??

แต่เอาเถอะ..ด้วยวงจรชีวิตของ “แมงสาบ” อยู่ได้ทุกที..กินได้ทุกอย่าง..

ศึกอภิปรายครั้งนี้..คงปรับตัวให้อยู่รอดได้ไม่ยาก..!!!

Back to top button