กองทุนสอบตก?

วันนี้ “โมนิก้า” ต้องย้อนความหลังไปยังบทบาทของกองทุนในช่วงที่ผ่านมา เพราะสิ่งที่ได้ยินตลอด 5-6 เดือน ล้วนเกี่ยวข้องกับผลงานในการบริหารกองทุน


วันนี้เป็นอีกครั้งที่ “โมนิก้า” ต้องย้อนความหลังไปยังบทบาทของกองทุนในช่วงที่ผ่านมาสักหน่อย เพราะสิ่งที่ได้ยินตลอดระยะเวลา 5-6 เดือน ล้วนเกี่ยวข้องกับผลงานในการบริหารกองทุนไม่เข้าเป้า ซึ่งเป็นผลมาจากอาการแพนิกที่ดันมาไวกว่านักเล่นกลุ่มอื่น เลยกลายเป็นผู้ร้ายในสายตาแมงเม่าไปโดยปริยาย เพราะแรงขายที่ออกมาในแต่ละรอบช่างหนักหน่วง และรุนแรงเกินจะรับไหวน่ะซี

ทั้งที่ “วิธี” และแนวทาง “ปฏิบัติ” เป็นไปตามหลักการทุกอย่าง จึงกลายเป็นเรื่องที่น่าเห็นใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะเกมหุ้นในข่วงหลังเขาวัดกันที่ความไวเป็นหลัก ส่วนปัจจัยพื้นฐานกลายเป็นเรื่องที่ไว้คุยกันทีหลังและทั้งหลายทั้งปวงก็เป็นผลสืบเนื่องมาจากอิทธิพลตลาดหุ้นต่างประเทศ ซึ่งถูกครอบงำจากการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งทำให้ผลงานของกองทุนดูไม่ดีเอาเสียเลยนะจ๊ะ

ว่ากันว่า เงินก้อนใหม่ที่ไหลเข้ามาในกองทุนลดฮวบอย่างน่าใจหาย แถมเมื่อดูผลงานของกองทุนในช่วงครึ่งปีแรก 65 ก็ไม่แจ่มสักเท่าไหร่? “โมนิก้า” จึงเลยขอเทียบเคียงการลงทุนแบบ passive เพื่อทำให้แฟนคลับเห็นภาพง่าย ๆ ก็คือ ช่วงต้นปีดัชนีอยู่ที่บริเวณ 1,570 จุด ขณะที่ช่วงกลางปีอยู่ที่บริเวณ 1,570 จุด..ถ้าเป็นแบบนี้จะเอากำไรที่ไหนมาให้ผู้ถือหน่วยล่ะพ่อคุณ

แม้ในระหว่างทางของช่วงครึ่งปีแรกจะพุ่งขึ้นไป 1,700 จุด สุดท้ายก็ย่อตัวลงมาแถว 1,580 จุด ต่อจากนั้นก็เด้งกลับขึ้นไป 1,700 จุด ซึ่งเป็นแก๊ปที่ให้รีเทิร์น 8% แบบนี้ “โมนิก้า” ถือเป็นผลตอบแทนที่เพอร์เฟกต์มาก ๆ ในภาวะตลาดหุ้นผันผวนหนัก และอยากให้แฟนคลับจำตัวเลขนี้ให้ขึ้นใจ เพราะโอกาสที่จะได้รีเทิร์นแบบนี้อีกครั้ง คงไม่เกิดขึ้นในเร็ววัน และกองทุนไหนที่ทำผลงานได้ต่ำกว่าเกณฑ์ที่เดี๊ยนเกริ่นให้ฟัง ก็คงอยู่ในข่ายสอบตกนะจะบอกให้

ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” เลือกมองไปยังหุ้นที่มีอัพไซด์สูงเป็นหลัก เพราะเป็นตัวเลือกแรกที่ให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่ากับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น ซึ่งเที่ยวนี้ยังให้ความสำคัญกับน้องมิ้น MINT หลังเห็นตัวเลขนักท่องเที่ยวในยุโรปเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ผสานกับทั่วโลกก็เปิดประเทศแบบเต็มตัว จึงมองราคาปิดที่ระดับ 27.50 บาท บวกไป 0.75 บาท หรือขึ้นไป 2.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 917 ล้านบาท พ่วงด้วยอัพไซด์ 30% เลยเทใจให้หมดเจ้าค่ะ

ส่วนในรายของเจ้าพ่อคอมพิวเตอร์ COM7 ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจในมุมของราคาหุ้นที่ลงมาเยอะ จึงทำให้อัพไซด์เปิดกว้างขึ้นอีกครั้ง และถ้ามองการเทรดบน PE 23 เท่า โดยที่ราคาหุ้นเริ่มขยับขึ้นมาปิดที่ระดับ 30 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 4.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 557 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นจังหวะที่น่าลองดูสักตั้ง เพราะเที่ยวก่อนก็ลงมาแถว 27 บาท แล้วเด้งกลับขึ้นไปแถว 35 บาท นะตัวเอง

สถานการณ์ข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องเหลียวมองหุ้น NEX เพื่อเป็นตัวเลือกสำหรับคนที่ถนัดเล่นรอบ เพราะของมันเห็นกันเต็มสองลูกตาว่า สิ้นปีนี้น่าจะส่งรถบัสไฟฟ้ายอดทะลุพันคันอย่างแน่นอน และยอดดังกล่าวจะดันให้บริษัทพลิกกำไร ผสานกับโบรกเกอร์ให้ราคาเป้าหมายสูงถึง 25 บาท เดี๊ยนถึงมองราคาปิดที่ 18.50 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 5.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 175 ล้านบาท น่าจัดสักชุดเจ้าค่ะ

คล้ายกับการทะยานขึ้นของหุ้น TEAMG ก็มีสตอรี่ที่น่าสนใจหลายเรื่อง และทีเด็ดที่เม้าท์ถึงในเวลานี้ ก็กำลังถูกเปิดออกมาทีละน้อย “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักลงทุนติดตามหุ้นตัวนี้ไปเรื่อย ๆ เพราะการขึ้นมาปิดที่ระดับ 14.20 บาท บวกไป 1.10 บาท หรือขึ้นไป 8.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 263 ล้านบาท น่าจะเป็นการสะท้อนอะไรบางอย่างที่ซ่อนไว้แน่ ๆ ส่วนใครที่ไม่เชื่อว่า ของเขาดีจริง!..ก็อยู่เฉย ๆ ไปแล้วกันนะจ๊ะ..นะจ๊ะ

สำหรับคนที่ชอบเล่นเก็งกำไรแบบวันเดียวเลิก “โมนิก้า” ขอแนะนำให้ดูดาวรุ่งผีพุ่งไต้ ACC แบบห้ามกระพริบตา เพราะการที่หุ้นขึ้นมาปิดในระดับ 1.66 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 6.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 402 ล้านบาท มันคล้ายกับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้หลายครั้งแต่เผอิญครั้งนี้มีการยกฐานใหม่ที่สูงขึ้นกว่าเดิม จึงน่าจะเล่นกันอีกหลายยกกระมัง!..ถึงกระนั้นก็อยากให้จับตาแนวต้าน 1.80 บาทให้ดีเป็นพิเศษ เพราะเที่ยวก่อนก็แยกวงกันตรงนี้..อิอิอิ

Back to top button