ตัวท็อปคัมแบค!

วานนี้ต้องยอมรับว่า การทะยานขึ้นอย่างร้อนแรงของดัชนี จนมาปิดที่ระดับ 1,590.36 จุด บวกไป 18.96 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.39 หมื่นล้านบาท


วานนี้ต้องยอมรับว่า การทะยานขึ้นอย่างร้อนแรงของดัชนี จนมาปิดที่ระดับ 1,590.36 จุด บวกไป 18.96 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.39 หมื่นล้านบาท ทั้งหมดเป็นผลมาจากอิทธิพลของดัชนีดาวโจนส์ หลังผู้เล่นส่วนใหญ่หันไปโฟกัสที่เรื่องผลประกอบการไตรมาส 3 ส่งผลให้สถานการณ์ของตลาดหุ้นทั่วโลกที่อยู่ในอาการอ่อนยวบยาบเป็นมะเขือเผา พลิกกลับมาฟิตปึ๋งปั๋งในเวลาอันรวดเร็วไงละคะ

ถึงกระนั้น “โมนิก้า” ก็ยังไม่แน่ใจว่า การขึ้นแรงเที่ยวนี้จะฝ่าแนวต้านบริเวณ 1,600 จุดขึ้นไปได้ไหม? เพราะสิ่งที่เห็น ณ เวลานี้มันเป็นเรื่องของอารมณ์ตลาดหุ้นมากกว่า จึงต้องจับตาตัวเลขกำไรที่กำลังทยอยประกาศโตไหม? เพราะจะเป็นแรงหนุนที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยไปต่อสวย ๆ เดี๊ยนเลยนึกถึงหุ้นตัวท็อปที่เคยเล่นกันเป็นประจำขึ้นมาอีกครั้ง หลังมีแรงซื้อจำนวนมากไหลกลับเข้ามาอีกครั้งนะนายจ๋า!

วันนี้จึงขอนำเสนอหุ้นดาวเด่นที่เคยเม้าท์ให้ฟังบ่อย ๆ เป็นลำดับแรก เพราะศักยภาพของหุ้นเหล่านี้ไม่ได้ลดทอนลงแต่อย่างใด ผสานกับราคาหุ้นก็ยังอยู่ต่ำกว่าเป้าที่โบรกเกอร์ให้ไว้ “โมนิก้า” ถึงมองเป็นจังหวะที่ดีหากจะเล่นตามน้ำ และจะเป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ หากแฟนคลับจะใช้ใจนำทาง เพราะตรงนี้เป็นสถานการณ์ที่นักเล่นต้องบอกกับตัวเองให้ได้ว่า “กล้าเล่น” หรือ “ไม่กล้าเล่น” นะจะบอกให้

โดยเฉพาะในรายของน้องมิ้น MINT ซึ่งเคยย้ำให้ฟังบ่อย ๆ ว่า สถานการณ์ของธุรกิจโรงแรมในยุโรปดีขึ้นต่อเนื่อง และธุรกิจที่ฝั่งไทยก็ดีขึ้นต่อเนื่องเช่นกัน “โมนิก้า” จึงชอบเม้าท์ให้แฟนคลับกลับไปคิดกันเอาเองว่า การที่หุ้นไหลลงไม่หยุด แต่วานนี้พุ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 26.25 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือขึ้นไป 7.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.83 พันล้นบาท เทียบกับราคาเป้าหมายที่โบรกฯ ให้ไว้แถว 44 บาท น่าสนใจไหมละจ๊ะ

เช่นเดียวกับในรายของ CBG ถูกถล่มขายนานถึง 2 เดือนกว่าจนเก็บทรงไม่อยู่ พร้อมกับลงมาทำโลว์ที่บริเวณ 80 บาท แต่หลังจากนั้นพยายามประคองตัวมาเรื่อย ๆ จนล่าสุดเด้งขึ้นมาปิดที่ระดับ 86.25 บาท บวกไป 2.50 บาท หรือขึ้นไป 3% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.17 พันล้านบาท โดยราคาเป้าหมายที่ประเมินไว้ต่ำ ๆ ต้องมีร้อยแบบนี้ น้องโมมองเป็นจังหวะของคนกล้าได้กล้าเสียก็เท่านั้นเองจ้า!

คล้ายกับในรายของ CPN เปิดกระโดดขึ้นมาปิดที่ระดับ 66.50 บาท บวกไป 2.25 บาท หรือขึ้นไป 3.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 917 ล้านบาท ล้วนเกี่ยวข้องกับบรรยากาศตลาดหุ้นโดยตรง เพราะช่วงที่ผ่านมาโดยเทขายมาตลอด ทั้งที่สถานการณ์ของธุรกิจก็ดีขึ้นมาก ๆ “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่ราคาหุ้นจะแรงได้ใจในระดับหนึ่ง เพราะถ้ามองถึงยอดเดิมที่ทำไว้แถว 70 บาท ก็ไม่ไกลเกินเอื้อมเจ้าค่ะ

ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” นึกถึงหุ้น BE8 ขึ้นมาทันที เพราะทุกคนรู้ดีว่า นี่คือหุ้นเทคที่มีแนวโน้มทำ all time high ให้เห็นอีกเรื่อย ๆ และการที่หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 60.75 บาท บวกไป 3 บาท หรือขึ้นไป 5.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 182 ล้านบาท ท่ามกลางยอดเดิมที่เคยทำไว้แถว 65 บาท และมีราคาเป้าหมายอยู่ที่ระดับ 100 บาท มันเป็นจังหวะที่เล่นได้ทั้งสั้นยาว แล้วแต่ความสะดวกของแต่ละคนนะนายจ๋า!

ส่วนคนที่ชอบเล่นกับเผือกร้อนจนเป็นนิสัย “โมนิก้า” ก็ต้องเอ่ยถึงหุ้น ZIGA แบบไม่ลังเลใจ เพราะการพุ่งพรวดพราดขึ้นมาปิดที่ระดับ 4.66 บาท บวกไป 0.92 บาท หรือขึ้นไป 24.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 941 ล้านบาท มันเป็นเกมที่ลากไปตายอย่างแน่นอน เพราะมองในมุมของธุรกิจที่หมดสตอรี่ แถมตัวเลขผลงานในครึ่งปีแรกก็ติดตัวแดง เลยทำให้การเทรดบน PE 25 เท่า มันเป็นเรื่องที่โอเว่อร์ไงละคะ

เม้าท์ถึงเรื่องประหลาดขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงเรื่อง “กบเลือกนาย” ที่เกิดขึ้นกับ ปตท. สักหน่อย! เพราะข่าวล่ามาแรงเม้าท์ว่า เดิมทีคุณพี่ “ทศพร” เป็นเด็กของบิ๊กทหารผู้น้องที่ส่งเข้ามานั่งเป็นประธานบริษัท แต่ทันทีที่บิ๊กทหารผู้น้องมีปัญหาเรื่องเก้าอี้ขึ้นมาปุ๊บ ก็ทำให้คุณพี่ย้ายฝั่งไปอยู่กับบิ๊กทหารผู้พี่ในทันที เพราะรู้ดีว่า บิ๊กทหารผู้พี่จะเข้ามายึดครองอาณาจักรเต็มตัว แต่สถานการณ์ก็พลิกผันอีกครั้ง เมื่อบิ๊กทหารผู้น้องได้กลับมานั่งเก้าอี้นะจ๊ะ

ตรงนี้กระมังที่ทำให้คุณพี่ “ทศพร” ทนแรงบีบคั้นจากสังคมไม่ไหว และเริ่มมองหน้าไม่ติดอย่างแร๊ง! จึงตัดสินใจเขียนใบลาออกต่อหน้าเจ้ากระทรวงที่รับผิดชอบโดยตรงในวันที่ 12 ต.ค. พร้อมกับให้ใบลาออกมีผลตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค. แต่จนป่านนี้ทางฝั่ง ปตท. กลับเก็บเรื่องเงียบ และยังไม่แจ้งเรื่องไปที่ ตลท. เดี๊ยนเลยคิดว่า อิหยังว่ะ!..จึงอยากให้คุณพี่ออกมาชี้แจงกับสังคมให้หายสงสัยด้วยจ้า!..รักนะถึงบอกให้รู้..จุ๊บ..จุ๊บ

Back to top button