ช่วงสั้นมองอารมณ์ตลาดยังอยู่ในลักษณะของการเก็งกำไร

InnovestX มองว่าเศรษฐกิจกับการลงทุนโลกกำลังมองภาพแตกต่างกัน โดยตัวเลขเศรษฐกิจยังคงขยายตัวได้ในปัจจุบันแม้จะชะลอลง


InnovestX มองว่าเศรษฐกิจกับการลงทุนโลกกำลังมองภาพแตกต่างกัน โดยตัวเลขเศรษฐกิจยังคงขยายตัวได้ในปัจจุบันแม้จะชะลอลง แต่มุมมองของนักลงทุนกังวลในภาพเศรษฐกิจอย่างมาก เห็นได้จากรายงานการสอบถามนักวิเคราะห์ (Fund manager survey) ของ Bank of America ที่มีมุมมองแง่ลบต่อการลงทุนในหุ้นมากที่สุดตั้งแต่ปี 2002 จากปัจจัยเสี่ยงที่มากโดยเฉพาะการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ที่ยังพร้อมขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องจากเศรษฐกิจยังคงขยายตัวได้

ขณะที่ความคาดหวังเงินเฟ้อปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งผลกระทบของดอกเบี้ยที่สูงขึ้นกระทบทุกตลาดการเงิน ทั้งพันธบัตรที่ทำให้ผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปีพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 15 ปี และกระทบต่อต้นทุนการเงินของภาคเอกชนโดยเฉพาะภาคอสังหาฯ รวมถึงตลาดอัตราแลกเปลี่ยนที่ค่าเงินทั้งประเทศพัฒนาแล้วและตลาดเกิดใหม่อ่อนลงรุนแรงเทียบกับดอลลาร์ เช่น เยนแตะระดับ 150 เยน อ่อนสุดในรอบ 32 ปี ขณะที่ค่าเงินหยวนในตลาดต่างประเทศอ่อนลงรุนแรงเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม InnovestX มองว่าในปัจจุบันตลาดเกิดใหม่ส่วนใหญ่เข้มแข็งขึ้น เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานที่ดี เช่น การเติบโตที่ดี ทุนสำรองที่มากขึ้น และตลาดทุนในท้องถิ่นที่ลึกขึ้น อย่างไรก็ดี ความเสี่ยงสำคัญคือการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ที่จะขึ้นจนกว่าจะเห็นหลักฐานชัดเจนว่าเงินเฟ้อกำลังลดลง ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่ได้รับผลกระทบมากขึ้น ส่วนเศรษฐกิจพัฒนาแล้วเสี่ยงเผชิญวิกฤตในปีหน้า ทั้งนี้จากการวิเคราะห์ความเสี่ยงของเศรษฐกิจเอเชียพบว่า ประเทศกำลังพัฒนาในเอเชีย มีเสถียรภาพเศรษฐกิจมากกว่าประเทศเจริญแล้ว โดยไต้หวันและอินโดนีเซีย แข็งแกร่งสุด ขณะที่เวียดนามและไทยอยู่อันดับกลาง ส่วนออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ เปราะบางสุด

ทั้งนี้ในส่วนของตลาดหุ้นไทย แม้ InnovestX เชื่อว่าช่วงที่ผ่านมาตลาดจะรับรู้ความเสี่ยงต่าง ๆ ไปในระดับหนึ่งแล้ว แต่ช่วงสั้นคาดอารมณ์ตลาดยังอยู่ในลักษณะเก็งกำไรและ SET ยังมี Upside จำกัด เนื่องจากนักลงทุนยังกังวลความเสี่ยงการถดถอยของภาวะเศรษฐกิจโลก รวมทั้งยังจับตาทิศทางการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจต่าง ๆ ของแต่ละประเทศอยู่ ดังนั้นช่วงสั้นกลยุทธ์การลงทุนจึงแนะนำ Selective Buy ในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ซึ่งคาดสามารถเอาชนะตลาดและต้านทานความเสี่ยงภายนอกได้ ดังนี้

  1. หุ้นEarning Play ซึ่งคาดโมเมนตัมกำไรยังแข็งแกร่งในไตรมาส 3/65 เลือก CRC, CPALL, CPF, ZEN, SNNP และ  AOT
  2. เก็งกำไรหุ้นที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจจีน หลังGDP ไตรมาส 3/65 ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด เลือก IVL, PSL, WICE
  3. เก็งกำไรหุ้นที่คาดได้อานิสงส์รัฐมีแผนพิจารณาออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มช่วงปลายปีนี้ อาทิ เราเที่ยวด้วยกันและช้อปดีมีคืน เลือกBJC, ERW, CENTEL
  4. หุ้นรอจังหวะซื้อหากSET หลุด 1550+/- ส่งผลให้ราคาปรับลงแรง (PBV ต่ำกว่า -1) สวนทางพื้นฐานที่ยังมีศักยภาพเติบโตได้ เลือก MTC, GPSC, BGRIM, CBG, SCGP

ขณะที่ช่วงสั้นแนะนำให้เพิ่มความระมัดระวัง หรือ หลีกเลี่ยงการลงทุนออกไปก่อน สำหรับหุ้นที่มีปัจจัยเสี่ยงกดดันผลประกอบการ ดังนี้

  1. หุ้นโรงกลั่น หลังคาดงบไตรมาส3/65 อาจได้รับผลกระทบค่าการกลั่นลดลง และขาดทุนสต๊อก โดยเฉพาะ บจ. ที่ไม่ได้ทำ Hedging
  2. หุ้นธนาคาร แนะนำหาจังหวะขายทำกำไร หากตลาดปรับเพิ่มขึ้นมาแถว 1,600 จุดซึ่งมองราคาหุ้นที่ปรับขึ้นแรงก่อนหน้านี้ได้สะท้อนภาพผลประกอบการที่ออกมาไปแล้ว

Back to top button