พาราสาวะถี

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ขอถอนร่างแก้ไขกฎกระทรวงเรื่องขายที่ดินให้ต่างชาติออกจากวาระการพิจารณาของที่ประชุม ครม.


ไม่ต้องรอให้ดองเค็มโดยกฤษฎีกา เมื่อล่าสุด พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ขอถอนร่างแก้ไขกฎกระทรวงเรื่องขายที่ดินให้ต่างชาติออกจากวาระการพิจารณาของที่ประชุม ครม.ไปเรียบร้อยแล้ว ทั้งที่ ครม.ได้ให้ความเห็นชอบไปแล้วเมื่อวันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา ขณะที่ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ แก้อาการกลัวเสียหน้าว่า ไม่ได้เป็นการถอน แต่เป็นการยกเลิกเรื่องมติเดิมไว้ก่อน

ความจริงไม่ว่าจะใช้คำไหน มันก็คืออาการถอยกรูดไม่เป็นท่า อันเนื่องมาจากข้อกล่าวหา “ขายชาติ” อย่างที่บอกไว้ชายชาติทหารอย่างผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ รวมทั้งพี่รองของแก๊ง 3 ป.ย่อมรับไม่ได้กับคำ ๆ นี้ เหมือนอย่างที่มท.1 ไปชี้แจงละล่ำละลักในการตอบกระทู้ถามสดของฝ่ายค้านเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่เคยคิดถึงเรื่องขายชาติ และพร้อมถอนร่างดังกล่าวหากเสียงต่อต้านของสังคมมีมาก งานนี้แม้จะไม่ได้หนักหน่วงขนาดนั้น แต่ใกล้จะเลือกตั้งเก็บของร้อนเข้าลิ้นชักไปให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยดีกว่า

ประสาของคนที่จะเดินต่อไปในทางการเมือง แม้จะมีเวลาทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีอีกเพียงแค่ 2 ปี แต่ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ ย่อมไม่ต้องการให้มีประเด็นที่เป็นตัวฉุดรั้งคะแนนนิยมที่ตกต่ำอยู่แล้ว ให้หดหายหนักข้อเข้าไปอีก แม้จะมี ส.ส.ภาคใต้บางรายของพรรคสืบทอดอำนาจยกหางเสียเลิศหรูว่า ความชื่นชอบของประชาชนยังสูง และพรรคที่ท่านผู้นำสังกัดจะได้ ส.ส.เป็นหลักร้อยขึ้นไป แต่ในความเป็นจริงถ้าเลิกเชื่อพวกสอพลอ ย่อมรู้ดีว่ากระแสที่แท้จริงเป็นอย่างไร

ตัวของคนที่ออกมาชูผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจเอง ยังไม่รู้ว่าเลือกตั้งครั้งหน้าจะออกหัวหรือก้อย ยิ่งถ้าย้ายพรรคไปสังกัดพรรคสืบทอดอำนาจ ยิ่งทำให้ฝ่ายตรงข้ามที่มีทั้งประชาธิปัตย์และภูมิใจไทยลูบปาก อย่างไรก็ตาม ประเด็นการย้ายพรรควันวานหลังการประชุม ครม. ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจตอบคำถามนักข่าวที่จี้ถามเรื่องการย้ายพรรค โดยเป็นไปในเชิงประชดประชันว่า “อ๋อ ยัง ไม่ยงไม่ย้ายทั้งนั้นแหละ” รวมไปถึงประเด็นแยกกันเดินรวมกันตี ก็มีบอกว่า“เออ ๆ ยังไม่มีคำตอบ ยังไม่มีอะไรทั้งสิ้น ไม่ตอบ ๆ”

จับอาการอย่างนี้คงไม่ต้องคาดเดาหลังประชุมเอเปคผลลัพธ์ทางการเมืองของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจจะลงเอยอย่างไร ชัดเจนเป็นอย่างยิ่งว่ายังไงก็ย้ายไปเข้าคอกรวมไทยสร้างชาติ พร้อมด้วยแกนนำและ ส.ส.ของพรรคสืบทอดอำนาจบางส่วน สอดรับกับการไล่ส่งของพี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.วันก่อน ไม่เพียงเท่านั้น จากการสังเกตด้วยภาพที่มีการหารือกันสองพี่น้องภายในห้องรับรองสีเหลือง ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ก่อนประชุม ครม. ที่พี่รองเปิดทางให้ทั้งคู่ได้พูดคุยกัน

บรรยากาศเป็นไปโดยปกติ แต่สังเกตได้ว่าการพูดคุยกันของทั้งสองคนไม่ได้กระหนุงกระหนิง หรือสนทนากันออกรสเหมือนเดิม อาจจะเป็นเพราะเห็นว่าถูกจับตา จับภาพอยู่จึงต้องลับ ลวง พราง กันไว้ก่อน อย่างไรก็ตาม คนที่ติดตามความเคลื่อนไหวของพี่น้องแก๊ง 3 ป.อย่างใกล้ชิด ย่อมรู้ดีว่าสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าการพูดจาของสองพี่น้องบรรยากาศไม่ได้เป็นเหมือนเดิมอีกต่อไป

ไม่ว่าจะใช้กลเกมแยกกันเดินหรือไม่ ในทางการเมืองชัดเจนแล้วว่า มุมมองและความเชื่อของทั้งสองคนแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง พี่ใหญ่ที่คร่ำหวอดอยู่บนถนนสายการเมืองมองเห็นว่าหนทางข้างหน้า การใช้กลไกของอำนาจเหมือนที่มีก่อนการเลือกตั้งปี 2562 ทำให้พรรคแกนนำรัฐบาลกุมความได้เปรียบนั้นเป็นไปไม่ได้อีกต่อไป ขณะที่ทีมกุนซือและลิ่วล้อสอพลอของน้องเล็กยังคงเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยมว่า แม้กระแสตกแต่อำนาจล้นมือ ย่อมมีโอกาสที่จะกำหนดเกมของตัวเองได้

อันจะเห็นได้ผ่านผลโพลของพรรคสืบทอดอำนาจเองที่เป็นการสวนทางกับความเชื่อของทีมที่ปรึกษาของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ เพราะสิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าพี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.คือ คะแนนนิยมของน้องเล็กดีอยู่จริง แต่ความชมชอบและการตัดสินใจที่จะเลือกคนของพรรคสืบทอดอำนาจนั้นไม่เหมือนเดิม มีโอกาสที่จะได้ ส.ส.จากที่มีอยู่ 18 เสียงเวลานี้เหลือเป็นเลขตัวเดียว นั่นหมายความว่า ถ้ามีการขยับปรับเปลี่ยนโอกาสที่จะพ่ายแพ้แบบหมดรูป จนชวดขบวนรถแห่งอำนาจย่อมมีสูง

ขณะเดียวกัน ทีมที่ปรึกษาของน้องเล็กก็มองต่างจากพี่ใหญ่ในประเด็น ส.ส.ที่จะสนับสนุนว่า ไม่จำเป็นที่จะต้องชนะเลือกตั้ง ขอเพียงแค่ได้เป็นแคนดิเดตนายกฯ เพียงหนึ่งเดียว ต่อให้พรรคได้ ส.ส.แค่หลักสิบ แต่สามารถรวบรวมเสียงพรรคการเมืองให้มีจำนวน ส.ส.เกินครึ่งหนึ่งของสภาเพื่อไปจัดตั้งรัฐบาล ก็เพียงพอแล้ว เพราะยังไงก็จะมีมือของ 250 ส.ว.ลากตั้งคอยยกให้ในวันโหวตเลือกอยู่แล้วฯ และไม่จำเป็นต้องไปคำนึงถึงเสถียรภาพหลังการจัดตั้งรัฐบาล

เนื่องจากมั่นใจว่า ถ้าสามารถจัดสรรเก้าอี้ที่เป็นความพอใจของแต่ละพรรคตามสัดส่วนของ ส.ส.ที่ได้มา ย่อมจะไม่เกิดแรงกระเพื่อมใด ๆ ที่สำคัญ คือ มีออปชั่นพิเศษ พรรคที่จะมาเข้าร่วมหากครบวาระ 2 ปีของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจในตำแหน่งนายกฯ แล้ว ไม่มีการเล่นแร่แปรธาตุเพื่ออยู่ยาว หัวหน้าพรรคที่มีคะแนนมาเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มพรรคร่วมรัฐบาลจะได้รับโอกาสในการเป็นนายกฯ โดยไม่ต้องออกแรงไปลุ้นให้ตัวเองต้องชนะการเลือกตั้ง ถือเป็นเงื่อนไขที่ใครเห็นก็ต้องลูบปาก

อย่างไรก็ตาม พี่ใหญ่ไม่ได้มองเพียงแค่นั้น เพราะการตั้งรัฐบาลปัจจุบันนั้นกว่าจะรวบรวมเสียงได้ ต้องใช้สารพัดข้อต่อรอง จนเป็นเหตุให้สองพรรคร่วมรัฐบาลได้กระทรวงสำคัญไปอยู่ในความครอบครองทั้งหมด มิหนำซ้ำ ตัวเองยังถูกน้องรักตลบหลังด้วยการยึดเก้าอี้รัฐมนตรีกลาโหมและการกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ตัวเองเคยมีอำนาจ บารมี เอาไปครอบครองเองเสียทั้งหมด เหล่านี้มันคือสิ่งที่ทำให้สายสัมพันธ์ที่อ้างว่าแนบแน่นมากว่า 40-50 ปียากที่จะตัดขาดสั่นคลอนอย่างรุนแรง

ความชัดเจนของน้องเล็กตามฤกษ์ที่ขีดเอาไว้ว่า 21 พฤศจิกายนจะไปสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาตินั้น ต้องรอดูว่าจะเป็นไปตามนั้นหรือไม่ แต่ก็มีสายรายงานว่าอาจจะมีการขยับเรื่องวัน เวลาออกไปอีกเล็กน้อยตามประสาคนที่เชื่อในเรื่องดวงดาว โหราศาสตร์ ยังไงก็ไม่มีการเปลี่ยนใจแน่นอน จุดสำคัญจะอยู่ที่หลังจากนั้นจะมีการปรับ ครม. หากเป็นไปตามที่บอกไว้ก่อนหน้าผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจดันคนของตัวเองมาเสียบแทน 2 เก้าอี้ที่ริบไปก่อนหน้า มีโอกาสวงแตกก่อนเวลาอันควร

Back to top button