ATP30 เหยื่อของสถานการณ์

การกลับมาทำกำไรสุทธิในไตรมาสที่สี่ จะช่วยให้บุ๊กแวลู ของ ATP30 กลับมาสวยงามอีกครั้ง เมื่อแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่เป็นต้นทุนสำคัญลดลงไป


ถึงแม้ว่ากลยุทธ์และยุทธศาสตร์เพิ่มรายได้จะยังคงเติบโตตามคาด แต่ต้นทุนราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นก็ส่งผลกระทบเชิงลบในด้านต้นทุนของรถยนต์ที่เป็นรากฐานของกิจการบริการรับส่งพนักงานจากที่พักไปโรงงานและจากโรงงานกลับที่พัก ก็ส่งผลสะเทือนไปที่กำไรสุทธิของบริษัทอย่าง บริษัท เอทีพี 30 จำกัด (มหาชน) หรือ ATP30 ที่กลายเป็นเหยื่อของสถานการณ์โดยปริยาย โดยไม่ได้ทำอะไรที่ผิดพลาด

ราคาที่ร่วงลงกว่า 35% เทียบกับกำไรสุทธิที่ลดลงไปแค่ 5% ถือเป็นปฏิกิริยาที่เกินสมควรจริง ๆ เป็นการลงโทษเกินเหตุ

คิดดูก็ได้จากงวด 9 เดือนที่มีกำไรต่อหุ้นลดลงจาก 0.05 บาท เป็น 0.04 บาท ถือว่าเป็นนัยสำคัญมิได้เลย

ผู้บริหารอย่างนายปิยะ เตชากูล ได้รายงานในหนังสือรายละเอียดของผลประกอบการในไตรมาสสามว่าบริษัทมีรายได้เท่ากับ 166.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.71 ล้านบาทหรือ เพิ่มขึ้น 4.86% จากไตรมาส 2/2565 เนื่องจากการปรับราคาบริการเพิ่มขึ้นตามต้นทุนน้ำมันที่เพิ่มขึ้น แต่การเพิ่มค่าบริการก็มีขีดจำกัดเพราะต้นทุนที่เพิ่มมากกว่า เป็นแรงกดดันที่เลี่ยงไม่พ้น

ตัวเลขรายได้งวดเก้าเดือนปี 2565 เพิ่มขึ้น 124.32 ล้านบาทหรือ 35.16% จากปีที่ผ่านมาจากการที่ได้ลูกค้าเข้ามาเพิ่มขึ้น และรักษาลูกค้ารายเดิมไว้ได้ต่อเนื่อง รวมทั้งมีสัญญาที่ยังไม่ได้รับรู้รายได้อีกจำนวน 1,341.62 ล้านบาท

ล่าสุด บริษัทมีรถโดยสารที่ให้บริการ จำนวน 664 คัน ประกอบด้วย รถบัสจำนวน 271 คัน รถมินิบัสจำนวน 44 คันรถตู้วีไอพี/รถตู้ จำนวน 274 คัน รถตู้ไฟฟ้าจำนวน 2 คัน และรถร่วมบริการจำนวน 73 คัน  ถือว่ามีส่วนแบ่งตลาดมากสุดในธุรกิจที่โตไม่หยุด

รายได้ที่เพิ่มมากขึ้นถูกหักกลบโดยต้นทุนที่เพิ่มขึ้นมากกว่าที่ 140.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.91% จากไตรมาส 2/2565 และผลพวงจากการจ่ายเงินก้อนใหญ่เพื่อผลประโยชน์ของพนักงานที่เกษียณอายุ ส่งผลต่อความสามารถทำกำไรระยะสั้นที่ลดลงชั่วคราว

กำไรสุทธิที่ลดลงสะท้อนให้เห็นได้ในราคาหุ้น จากการที่กำไรสุทธิไตรมาสสามเทียบกับปีก่อนลดเยอะมากกว่า 58% แต่งวด 9 เดือนแรก ยังกำไรเพิ่มขึ้น 25% ถือว่าราคาร่วงลงมากเกินกว่า 35% ที่ลดลงมาย่ำฐานแถว ๆ เหนือ 1.30 บาทในปัจจุบัน อันเป็นราคาที่มีค่าพี/อีต่ำสุดที่ระดับ 23 เท่าเทียบกับปลายปีก่อนที่ค่าพี/อีสูงถึง 43 เท่า สะท้อนว่า ราคาที่ต่ำนี้สามารถเด้งกลับไปได้รวดเร็ว หากกำไรสุทธิในไตรมาสสุดท้ายกลับมาสวยงามอีกครั้ง

การกลับมาทำกำไรสุทธิในไตรมาสที่สี่ จะช่วยให้บุ๊กแวลู ของ ATP30 กลับมาสวยงามอีกครั้ง เมื่อแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่เป็นต้นทุนสำคัญลดลงไป เทียบกับการบันทึกรายได้ของลูกค้าที่มีจำนวนเพิ่มขึ้น จากการให้บริการข้ามเขตที่เพิ่งเริ่มบันทึกในไตรมาสสองเป็นต้นมา

ราคาที่ย่ำฐาน รอวันขึ้นอย่างหุ้นจิ๋วแต่แจ๋วอย่างนี้ กลับมาได้เร็วแค่ไหนคงไม่ต้องถามกันอีก เพราะป่วยการสาธยาย สำหรับบริษัทที่ลงมือทำธุรกิจภายใต้โมเดลทันสมัย คือ การทำธุรกรรมที่เรียกว่า “หางยาวโมเดล” หรือ Long-Tail model business ที่ประสบความสำเร็จด้วยดีต่อเนื่อง

ราคาหุ้นที่ต่ำลงแล้ว น่าจะตอกย้ำได้ดีถึงการสร้างโอกาสทำกำไรจากส่วนต่างของราคาในราวเดือน มกราคม-กุมภาพันธ์ปีหน้า

ส่วนโอกาสจากเงินปันผลนั้น คงจะไม่มากเท่าไหร่ เพราะหุ้นตัวนี้ นักลงทุนไม่สนใจเงินปันผลในรูปเงินสดเท่าใดนัก

เป็นชะตากรรมของหุ้นขนาดเล็กที่นักลงทุนขาประจำเข้าใจดี

Back to top button