TAKUNI เริ่มแปลงร่าง.!?

หลังจากเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา TAKUNI อีนุงตุงนังอยู่กับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยเปลี่ยนมือจากเจ้าของเดิม “กลุ่มตรีวีรานุวัฒน์”


หลังจากเมื่อช่วงเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา บริษัท ทาคูนิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TAKUNI อีนุงตุงนังอยู่กับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยเปลี่ยนมือจากเจ้าของเดิม “กลุ่มตรีวีรานุวัฒน์” ที่ทยอยขายหุ้นจนเกลี้ยงพอร์ต (แม้ตอนนี้จะนั่งยันนอนยันว่ายังบริหารอยู่ แต่ก็ไม่รู้จะบริหารอีกนานแค่ไหน)

ขณะที่ปัจจุบันเจ้าของคนใหม่ TAKUNI ปรากฏชื่อ “คณธัช วูอินทรานนท์” ถือหุ้นใหญ่เบอร์ 1 ด้วยสัดส่วน 6.75% ตามด้วย “วิโรจน์ นูคำดี” ถือเบอร์ 2 สัดส่วน 4.38% และ “สุรพงษ์ หาญไกรวิไลย์” เบอร์ 3 ถือ 4.33%…

พอเปลี่ยนเจ้าของใหม่ปุ๊บ ก็ตามมาด้วยการโละบอร์ดเก่าออกปั๊บ แล้วมีการตั้งบอร์ดใหม่มาทดแทน นำโดย “ดร.ชาติชาย พยุหนาวีชัย” อดีตผอ.แบงก์ออมสิน ที่มานั่งเป็นประธานบอร์ดคนใหม่…

สเต็ปถัดมาเริ่มเห็นการเขย่าโครงสร้างธุรกิจ พยายามลดสัดส่วนธุรกิจดั้งเดิมลง เริ่มจากการขายเงินลงทุนและสินทรัพย์กลับคืนให้กับ “กลุ่มตรีวีรานุวัฒน์” เริ่มจากขายบริษัท วัชพืชไทย จำกัด ซึ่งจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากพืชทางเภสัชภัณฑ์ มูลค่า 1.3 ล้านบาท ตามด้วยการขายที่ดินพร้อมอาคารสำนักงานและสิ่งปลูกสร้างย่านบางแค มีเนื้อที่ดินรวม 4 ไร่ 0 งาน 68 ตารางวา (1,668 ตารางวา) มูลค่า 120 ล้านบาท

โอเค…แม้ธุรกิจดั้งเดิมของ TAKUNI ซึ่งทำธุรกิจที่เกี่ยวกับก๊าซ LPG ยังพอไปได้ แต่โอกาสที่จะเห็นการเติบโตแบบก้าวกระโดดคงยาก สะท้อนได้จากผลประกอบการในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาที่เติบโตแบบกะปริบกะปรอย…

ปี 2561 มีรายได้รวม 2,292 ล้านบาท กำไรสุทธิ 32 ล้านบาท ปี 2562 มีรายได้รวม 3,095 ล้านบาท กำไรสุทธิ 27 ล้านบาท ปี 2563 มีรายได้รวม 3,088 ล้านบาท กำไรสุทธิ 32 ล้านบาท และปี 2564 มีรายได้รวม 2,760 ล้านบาท กำไรสุทธิ 63 ล้านบาท ขณะที่ช่วง 9 เดือนแรกปี 2565 มีรายได้รวม 2,808 ล้านบาท กำไรสุทธิ 64 ล้านบาท

แถมเป็นธุรกิจที่มาร์จิ้นบ๊างบาง อัตรากำไรสุทธิเฉลี่ยอยู่ที่ 2-5% เท่านั้น…

ดีนะเนี่ยที่ TAKUNI มีเงินลงทุนในบริษัท ซี เอ แซด (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ CAZ (ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 36.64%) ซึ่งถือเป็นอภิชาตบุตรที่คอยอุ้มชูแม่..!! ไม่อย่างนั้นสถานการณ์ TAKUNI คงแย่กว่านี้…

ทำให้ TAKUNI ต้องเสาะแสวงหาธุรกิจใหม่ ๆ เข้ามาเติมในพอร์ต ประเดิมด้วยการเข้าไปลงทุนในธุรกิจให้บริการบุคลากร ผ่านการถือหุ้น 51% ในบริษัท รักษาความปลอดภัยเคพีเอ็น แอนด์ เซอร์วิส จำกัด มูลค่าเงินลงทุน 240 ล้านบาท

หลังจากนั้นก็เริ่มขยับไปสู่ธุรกิจ EV ซึ่งกำลังเป็นเทรนด์ทั่วโลก ด้วยการร่วมทุนกับบริษัท อี้หาว มอเตอร์ (Yihao motor) บริษัทชั้นนำจากไต้หวัน พัฒนาและผลิตมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่เทคโนโลยีใหม่ ที่สามารถยกออกจากรถมอเตอร์ไซค์ เพื่อนำไปชาร์จกับไฟฟ้าภายในบ้านได้

ล่าสุดก็ไปจับไม้จับมือกับ Sersol Berhad กลุ่มทุนจากมาเลเซีย เพื่อร่วมกันพัฒนาและจัดจำหน่ายมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า และสถานีชาร์จไฟฟ้าทั้งในประเทศไทยและมาเลเซีย…โดยในประเทศมาเลเซียมีการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนที่ชื่อ บริษัท Sersol Takuni (M) มี TAKUNI ถือหุ้น 49% และกลุ่ม Sersol ถือหุ้น 51%

ส่วนในประเทศไทย มีการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนชื่อ บริษัท เซอซอล ทาคูนิ (ประเทศไทย) จำกัด โดย TAKUNI ถือหุ้น 51% และ Sersol Energy Sdn. Bhd ถือหุ้น 49% ตั้งเป้าหมายภายใน 1 ปี จะเริ่มรับรู้รายได้…

ดูแล้ว TAKUNI คงหวังปั้นธุรกิจมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าให้เป็นเรือธงลำใหม่แหง ๆ..??

บ่งบอกว่า TAKUNI กำลังแปลงร่างใหม่น่ะสิ..!!

ส่วนเมื่อแปลงร่างใหม่แล้ว จะเป็นอุลตร้าแมน (ช่วยให้เติบโต) หรือเป็นปีศาจ (ฉุดให้ถดถอย)..?? ก็อีกเรื่องหนึ่งนะ…

…อิ อิ อิ…

Back to top button