พาราสาวะถี

ประโยคที่ว่า “ยิ่งใหญ่แต่ไม่ปัง” น่าจะทำให้ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจควันออกหูอยู่ไม่ใช่น้อย ตั้งใจกระโดดลงสู่สนามการเมืองเต็มตัว


ประโยคที่ว่า “ยิ่งใหญ่แต่ไม่ปัง” น่าจะทำให้ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจควันออกหูอยู่ไม่ใช่น้อย ตั้งใจกระโดดลงสู่สนามการเมืองเต็มตัว นอกจากคนที่เกณฑ์กันมา แล้วถูก สมชัย ศรีสุทธิยากร จะไปยื่นร้องให้ กกต.ตรวจสอบเพื่อเอาผิดแล้ว กลับมองไม่เห็นนักการเมืองประเภทตัวความหวัง ไม่ว่าจะยังไงก็ได้เก้าอี้ ส.ส.เป็นการันตีอย่างน้อย 25 เก้าอี้แน่นอน กระทั่ง ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กเยาะหยัน คนที่ยืนแถวหลังเป็นแบ็คกราวด์ให้ท่านผู้นำคือพวกเกรดเอทั้งนั้น แต่เป็น “เอวัง”

ช่างประชดประชันให้เห็นภาพชัดอะไรขนาดนั้น แต่บรรดาสายตรงลิ่วล้อสอพลอทั้งหลายไม่ได้คิดแบบนั้น ตั้งความหวังกันไว้จะได้ ส.ส.ไม่น้อยกว่า 40 ที่นั่งขึ้นไป สำหรับพรรคเกิดใหม่ถ้าเป็นรูปแบบการเลือกตั้งเดิมอาจจะคิดได้ เหมือนที่พรรคอนาคตใหม่เคยทำได้ หนนี้นอกจากรูปแบบการเลือกตั้งที่เปลี่ยนไปเป็นบัตร 2 ใบแล้ว แต่ละสนามเลือกตั้งโดยเฉพาะพื้นที่เป้าหมายของรวมไทยสร้างชาติคือ ภาคใต้และ กทม. ล้วนประเภทเสือ สิงห์ กระทิง แรดทั้งนั้น

เหมือนที่บอกไปวันก่อนโจทย์การตั้งรัฐบาลรอบนี้มันไม่ได้ง่ายเหมือนหนที่แล้ว ขนาดวางแผนกันมาแยบยลจนถึงขั้นใช้การวินิจฉัยขององค์กรอิสระมาช่วยให้ได้เสียง ส.ส.เอื้ออาทร ส.ส.ปัดเศษ มาหนุนส่งผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจกลับเป็นนายกรัฐมนตรีอีกกระทอก ก็ยังบักโกรกกันอยู่นานสองนาน การเลือกตั้งหนนี้ที่จะไร้การตีความเรื่อง ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์มาอุ้มสม ต้องวัดกันที่จำนวน ส.ส.ในมือ ความมั่นใจในเสียง ส.ว.ลากตั้ง 250 เสียงนั้นต้องถามกันดัง ๆ ว่า เชื่อได้จริงหรือ

ฉายหนังซ้ำเอาแค่ขั้วเดิมที่จะไปผสมพันธุ์กับภูมิใจไทย พรรคสืบทอดอำนาจ และประชาธิปัตย์ พรรคหลังยังไม่รู้ว่าจะเหลือ ส.ส.กลับคืนสู่สภาหินอ่อนกี่เก้าอี้ ส่วนพี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.กับ อนุทิน ชาญวีรกูล ถ้าพรรคของตัวเองได้ ส.ส.เป็นกอบเป็นกำ อยู่ในอันดับที่เหนือกว่าพรรคของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ จะมีใครเปิดทางถอย ยอมให้อีกฝ่ายได้เป็นนายกฯ ตามที่อ้างว่าจะขออยู่อีก 2 ปีอย่างนั้นหรือ งานนี้คงไม่มีใครหลงกล เพราะคนจากพรรคใหม่ของท่านผู้นำดันไปเผลอบอกว่าถ้ากลับมาได้อาจจะอยู่ยาวกว่า 2 ปีก็ได้

แบบนี้มันหมายความว่าอย่างไร นายกฯ คนละครึ่งแค่เงื่อนไขหลอกให้ตายใจ ขายฝันให้อีกฝ่ายยอมที่จะยกมือให้ตนได้สมหวังในการอยู่ยาว โดยใช้เสียงของ 250 ส.ว.ลากตั้งเป็นตัวประกัน นักเลือกตั้งประเภทเขี้ยวลากดินอ่านกินกันขาดหมดแล้ว อาการกระเหี้ยนกระหือรือที่จะกลับเข้าสู่ตำแหน่งของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจทั้งที่รู้อยู่ว่าจะเป็นนายกฯ ได้อีกแค่ 2 ปี เพราะมีการตั้งธงไว้อยู่แล้วจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 158 วรรคสี่ความเป็นนายกฯ ต้องไม่ถูกขีดเส้นให้อยู่ได้แค่ 8 ปี

ไม่เพียงเท่านั้น ยังมองไปถึงการแก้ไขเพื่อให้ ส.ว.ลากตั้งที่ยอมสวามิภักดิ์ได้อยู่ในตำแหน่งกันต่อได้ รวมไปถึงการแก้ไขเรื่องยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีที่เป็นตัวถ่วงให้พวกหน้ากากคนดีขยับอะไรได้ยาก อย่างที่ณัฐวุฒิว่า การร่างกฎหมายตั้งแต่รัฐธรรมนูญฉบับปราบโกงจนถึงกฎหมายอื่น ๆ เป็นการวางกับดักป้องกันคนจากพรรคเพื่อไทยหวนกลับคืนสู่อำนาจทั้งสิ้น แต่พออยู่มาเกิน 8 ปี แล้วเห็นว่าเป็นการวางกับดักตัวเอง จึงต้องหาทางแก้กันอุตลุดแบบไร้ยางอาย

งานนี้ อยู่ที่ว่าพี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.ยังจะยอมเป็นคนแบกเสลี่ยงให้น้องเล็กได้นั่งเสวยสุขกันยาว ๆ อีกหรือไม่ ถ้าอ่านกันตามหน้าเสื่อที่ทั้งคู่พูดถึงกันต่อประเด็นความขัดแย้งของแก๊ง 3 ป.ที่ว่า ยังรักกันเหมือนเดิม แต่แยกกันเดินทางการเมืองเท่านั้น ก็เป็นการตอกย้ำข่าวที่ยืนยันกันมาตลอดมุมมองที่ต่างกันนี่แหละที่เป็นปัญหาใหญ่ เพราะฝ่ายหนึ่งมองการเมืองบนพื้นฐานความเป็นจริงที่เห็นการเปลี่ยนแปลง ขณะที่อีกฝ่ายยังไม่ยอมถอดหน้ากากคนดีที่แปดเปื้อน เชื่อมั่นอยู่เต็มเปี่ยมว่าประชาชนยังรัก ไม่เบื่อหน่ายแต่อย่างใด

ส่วนพรรคตัวเต็งของเสี่ยหนูก็ดูทิศทางลมและจำนวน ส.ส.ที่จะได้ การประกาศพร้อมร่วมสังฆกรรมกับทุกฝ่าย ไร้ศัตรูถาวรทางการเมืองโดยอาจารย์ใหญ่ เนวิน ชิดชอบ ก็ถือเป็นการปลดล็อกวางทางถอย หากจะต้องเลือกเดินทางใดทางหนึ่งหลังเลือกตั้ง แต่งานนี้จะมีทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการเสียงของภูมิใจไทยให้ไปสนับสนุนเพียงแค่ 2 ทางเท่านั้น เก้าอี้นายกฯ หรือกระทรวงเกรดเอที่เคยดูแลทั้งหมด หรืออาจจะมากกว่านั้นตามสัดส่วนที่พึงจะได้

เก้าอี้นายกฯ ในที่นี้หมายถึงหากพรรคของตัวเองได้เป็นแกนหลักในการจัดตั้งรัฐบาล คงไม่ยอมหลีกทางให้ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจเป็นแน่ แต่ถ้าจะยอมก็ต้องแลกกับตำแหน่งในกระทรวงอื่นที่สมน้ำสมเนื้อ รวมไปถึงกระทรวงพลังงานที่วันนี้เหมือนเป็นแหล่งต้นกำเนิดของกลุ่มผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการให้กับพรรคใหม่ของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจด้วย สรุปแล้วไม่ว่าจะแนวทางไหนพรรคของเสี่ยหนูมีแต่ได้กับได้ทั้งนั้น

ด้านพรรคพี่ใหญ่ในเมื่อเสียงที่ได้คงเป็นเพียงแค่พรรคขนาดกลางไม่ได้ยิ่งใหญ่เหมือนเดิม แต่ก็ถือว่ามีพลังและมีผลต่อขั้วการเมืองที่จะจัดตั้งรัฐบาลอยู่ไม่น้อย ถ้าน้องเล็กอยากจะไปต่อก็จะมีเงื่อนไขไม่ต่างจากภูมิใจไทย ต้องได้กระทรวงเกรดเอเหมือนกัน หนนี้ทั้งมหาดไทยและกลาโหมต้องไม่หลุดมือ รวมไปถึงเงื่อนไขคนใกล้ตัวที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจจะต้องไม่ถูกมองข้ามด้วย บอกไว้แล้วว่า เส้นทางการขออยู่ยาวของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจรอบใหม่ไม่ได้สดใสแวววาว เว้นเสียแต่จะยุบพรรคคู่แข่งสำคัญทิ้งเสียให้หมด จึงจะเป็นทางที่สะดวก แต่ต้องเสี่ยงกับการลุกฮือ เสียเลือดเนื้อ

ทิศทางการเมืองหลังจากนี้ ดูจากการตั้งคนของพรรครวมไทยสร้างชาติเป็นที่ปรึกษานายกฯ กันหน้าสลอน ก็พอจะเห็นแล้วว่าผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจไม่มัวเสียเวลาที่จะคิดว่าประชาชนคาดหวังอะไร ความจริงที่ผ่านมาหวังแล้วก็ช่วยอะไรไม่ได้ คงคิดแต่จะทำยังไงให้ได้อยู่ยาวให้ได้ ขณะที่ประชุมรัฐสภาล่มสองวันติดทั้งที่พิจารณาร่างกฎหมายสำคัญว่าด้วยการศึกษาและแม่พิมพ์ของชาติ สถานการณ์แบบนี้มันมองเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ต้องยุบสภาสถานเดียว เร็วหรือช้า อาจจะอย่างที่ วันชัย สอนศิริ ส.ว.ลากตั้งว่า ไม่เกิน 2 สัปดาห์หลังกฎหมายลูกว่าด้วยเลือกตั้ง ส.ส.และพรรคการเมืองมีผลบังคับใช้

Back to top button