บาทอ่อน-หุ้นตก

จริงแท้แล้ว ก็มิได้เป็นสูตรสัมพันธ์ตายตัวสักเท่าใดนัก หากค่าเงินบาทอ่อน แต่การส่งออกดี GDP หรือมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ขยายตัวในระดับสูง


จริงแท้แล้ว ก็มิได้เป็นสูตรสัมพันธ์ตายตัวสักเท่าใดนัก

หากค่าเงินบาทอ่อน แต่การส่งออกดี GDP หรือมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ขยายตัวในระดับสูง และผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน ออกมาดี หุ้นก็คงไม่ตกหรอกครับ

แต่นี่เป็นสถานการณ์ตรงกันข้าม!

ค่าเงินบาทอ่อน เพราะเงินทุนเคลื่อนย้ายออกนอกประเทศ ด้วยเหตุอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ (หนีเงินเฟ้อ) ปรับตัวสูงขึ้นมาก อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะเวลา 2 ปี สูงถึง 4.8% บอนด์ยีลด์ 10 ปีและ 30 ปีก็อยู่ระหว่าง 3.94 และ 3.93% ตามลำดับ

เงินทุนก็เคลื่อนย้ายออกจากตลาดหุ้นไปสู่ตลาดตราสารหนี้ตามไปด้วย ซึ่งตลาดหุ้นไทยก็ได้รับผลกระทบทั้งอิทธิพลดาวโจนส์และอัตราดอกเบี้ยในประเทศด้วย

นอกจากนั้น ยังมีปัจจัยลบอื่น ๆ มากันครบ ทั้ง GDP ต่ำคาดกำไรบจ.ทรุดการส่งออกชะลอตัว ทำให้ตลาดหุ้นตอนนี้ เข้าสู่โซนซบเซาอย่างรุนแรง

ดัชนีหลักทรัพย์ปรับตัวลดลงจากสิ้นปี 65 ไปแล้วกว่า 45 จุด มูลค่าซื้อขายก็เริ่มบางลง จากค่าเฉลี่ย 71,226 ล้านบาท/วันในปีที่แล้ว แต่ค่าเฉลี่ยเดือน ม.ค. ปีนี้เหลือ 68,181 ล้านบาท และ ก.พ. เหลือ 63,202 ล้านบาท

จีดีพีประเทศไทยปี 65 ออกมาต่ำกว่าคาดมาก จากสภาพัฒน์ฯ หรือสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เคยประเมินในระดับ 3.5-3.6% แต่ของจริงแค่ 2.6% เท่านั้น อาจจะมีอัตราการเจริญเติบโตต่ำสุดในย่านอาเซียนด้วยซ้ำ ยิ่งเอาไปเปรียบกับมาเลย์-เวียดนามที่จีดีพีโตได้ 8.7 และ 8.0% แล้ว เทียบกันไม่ได้เลย

เฮ้อ! ทำแล้วทำอยู่ทำต่อ

ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 4 ปี 65 ที่ผ่านมาตกต่ำเกินคาด โดยเฉพาะกลุ่มกิจการขนาดใหญ่ที่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของตลาด อาทิ หุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ พลังงาน ปิโตรเคมี กลุ่มไอซีที และก่อสร้าง ฯลฯ พลอยฉุดให้ผลประกอบการงวดปีทรุดตัวลง

เรียกว่าทำผลงานมา 3 ไตรมาสดี ๆ เจอผลประกอบการไตรมาส 4 เข้าไตรมาสเดียว ทำกำไรทรุด หรือบางบมจ.พลิกขาดทุนไปเลย

ค่าเงินบาทอ่อนน่าจะช่วยหนุนการส่งออกก็จริง แต่ในช่วง 2-3 เดือนมานี้ ตั้งแต่ พ.ย. 65 เป็นต้นมา ยอดการส่งออกของไทยเริ่มติดลบ อันเทียบไม่ได้เลยกับยอดส่งออกของมาเลย์-เวียดนาม ทั้งในแง่มูลค่าและอัตราการเติบโต

สภาพัฒน์ฯ เอง ก็ยังคาดการณ์การส่งออกปี 66 จะติดลบประมาณร้อยละ 1.6

มันน่าวิเคราะห์วิจัยกันต่อไปเหมือนกันนะครับว่า การส่งออกของไทยที่เคยสูสีกับเพื่อนอาเซียนบางประเทศ และเคยทิ้งห่างบางประเทศแต่บัดนี้โดนแซง มันเกิดจากเหตุปัจจัยอะไร

หากบอกว่า “ค่าแรงเราแพง” มันก็คงจะกำปั้นทุบดินเกินไป ทีมาเลย์ฯ ล่ะ ค่าแรงก็แพงขึ้น ๆ ทำไมถึงยังคงทิ้งระยะห่างกับไทยได้

ขณะที่ตลาดการค้าของไทย ยังคงเป็นตลาดเก่า ๆ แต่เพื่อนบ้านกลับขยายตลาดได้รวดเร็วกว่า โดยเฉพาะการเจรจาทำข้อตกลงการค้าเสรีหรือ FTA กับประเทศต่าง ๆ เช่นทำ FTA กับประชาคมยุโรปประเทศเดียว ก็สามารถจะเพิ่มคู่ค้าได้พรวดเดียวถึง 27 ชาติ

เราเดินงานต่างประเทศน้อยไปหรือเปล่า ทั้งที่เป็นผู้ริเริ่ม FTA ก่อนใครในอาเซียน

ตลาดหุ้นตอนนี้ซบเซามาก ไม่ต้องสงสัย และขอเตือนว่าอันตรายมาก ๆ หากผลีผลามเข้าตลาด หุ้นหวือหวาควรงดเว้น ในขณะเดียวกันก็รอจังหวะเข้าเก็บหุ้นพื้นฐานที่ให้ผลตอบแทนสูงเป็นหลัก

ต้องซีเลคต์กันหน่อย เลือกหุ้นที่ให้ยีลด์สูงตั้งแต่ 5-6% ขึ้นไปและกิจการไม่เจ๊งแน่ พอ ๆ กับเลือกรัฐบาลที่ไม่ใช่พวกหลังเขา เต่าล้านปีล่ะครับ

Back to top button